ข่าว

 งบไทยนิยมหนุนสหกรณ์"เขาคิชฌกูฏ"สร้างโรงงานทุเรียนแช่แข็ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 งบไทยนิยมหนุนสหกรณ์"เขาคิชฌกูฏ"สร้างโรงงานทุเรียนแช่แข็งส่งตลาดจีน

 

         จากการคาดการณ์ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ระบุว่าผลผลิตผลไม้ของภาคตะวันออกในฤดูกาลผลิตปีนี้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะและลองกอง มีปริมาณรวม 8.8 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 33 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งรับผิดชอบดูแลสถาบันเกษตรกรได้เพิ่มศักยภาพสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อรองรับผลผลิตดังกล่าว โดยอุดหนุนงบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล ให้สหกรณ์นำไปจัดสร้างอุปกรณ์การตลาดและเครื่องมือสำหรับรวบรวมและแปรรูปผลไม้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมและเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้กับเกษตรกร 

 งบไทยนิยมหนุนสหกรณ์"เขาคิชฌกูฏ"สร้างโรงงานทุเรียนแช่แข็ง

 งบไทยนิยมหนุนสหกรณ์"เขาคิชฌกูฏ"สร้างโรงงานทุเรียนแช่แข็ง

 

       สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จก.อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี เป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลไม้เพื่อกระจายสู่ตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ละปีรวบรวมผลผลิตได้ประมาณ 5,800 ตัน เฉพาะทุเรียนประมาณ 1,000 ตัน ซึ่งปีที่ผ่านมา สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการไทยนิยมยั่งยืนกว่า 29 ล้านบาท และสหกรณ์สมทบเพิ่มเติมอีก 12 ล้านบาทเพื่อสร้างอาคารห้องเย็น พร้อมอุปกรณ์แปรรูปผลไม้ โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่กลางปี 2561 จนเสร็จสมบูรณ์ทันใช้ในฤดูกาลผลผลิตปีนี้

            "ช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรจังหวัดจันทบุรีได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่การเกษตร จากเคยปลูกยางพารา กล้วยไข่และเงาะ หันมาปลูกทุเรียนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าได้ราคาดี ซึ่งราคาทุเรียนปรับตัวสูงขึ้นจากที่เคยขายได้กิโลกรัมละ 60 บาท ปัจจุบันราคาพุ่งสูงไปจนถึงกิโลกรัมละ 150 บาท สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด จึงเตรียมแผนรองรับปัญหาผลผลิตกระจุกตัวและล้นตลาดในอนาคต"

      ศศิธร วิเศษ สหกรณ์จังหวัดจันทบุรีเผยต่อว่าจากนั้นจึงได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล เพื่อนำมาสร้างอาคารห้องเย็นและจัดซื้ออุปกรณ์แปรรูปผลผลิต และพร้อมจะยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางการแปรรูปผลไม้เพื่อการส่งออกของขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดจันทบุรีในอนาคตด้วย โดยอาคารห้องเย็นดังกล่าวเริ่มใช้ประโยชน์ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยสหกรณ์ได้รับซื้อผลทุเรียนสด แต่ตกไซส์ มีตำหนิ ลูกไม่สวย ซึ่งไม่สามารถจำหน่ายเป็นผลสดได้ นำมาแปรรูปโดยแกะเนื้อ ผลิตเป็นทุเรียนแช่แข็ง และเพิ่มมูลค่าโดยกระบวนการ Freeze dry ก่อนส่งจำหน่ายตลาดในประเทศจีน

       เธอระบุอีกว่าก่อนที่สหกรณ์จะหันมาทำธุรกิจส่งออกทุเรียนแบบแกะเนื้อแช่แข็ง ได้มีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศจีน พบว่า ปัจจุบันครอบครัวคนจีนในเมืองใหญ่ มีขนาดเล็กลง ทำให้ความต้องการบริโภคทุเรียนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยซื้อทั้งผล เปลี่ยนเป็นการซื้อทุเรียนแบบแกะเนื้อบรรจุกล่องหรือถาดขนาด 1-2 พู สำหรับการบริโภคพอดีกับจำนวนสมาชิกครอบครัวทำให้สหกรณ์มองเห็นโอกาสในการจะขยายตลาดทุเรียน จึงนำทุเรียนที่สุกแล้วมาแกะเนื้อแล้วแช่แข็งส่งไปขายผู้บริโภคในประเทศจีน ซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของชาวจีนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะทุเรียนที่มาจากเมืองไทย

    ทั้งนี้โรงงานห้องเย็นของสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัดสามารถผลิตทุเรียนแช่แข็งได้ประมาณ 2,000 ตันต่อปี โดยสหกรณ์จะเดินเครื่องรับซื้อผลผลิตเต็มที่ในช่วงที่ทุเรียนกระจุกตัว ระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน เพื่อป้อนเข้าสู่ห้องเย็น ซึ่งกระบวนการแปรรูปทุเรียนแช่แข็ง เริ่มจากเกษตรกรขนทุเรียนมาขายให้สหกรณ์ สหกรณ์จะคัดแยกเกรด AB C และทุเรียนที่ตกไซส์ทุเรียนเกรด A และ B จะจำหน่ายเป็นผลสด กว่า 90% ส่งไปจำหน่ายที่ประเทศจีน ที่เหลือจะขายตลาดในประเทศ โดยสหกรณ์ได้ร่วมกับห้างแมคโคร และเดอะมอลล์ ส่งทุเรียนไปจำหน่ายในห้างและกระจายไปตามสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ

       สหกรณ์จังหวัดจันทบุรีได้อธิบายถึงกระบวการผลิตทุเรียนแช่แข็ง โดยเริ่มจากการคัดทุเรียนตกเกรดสุกงอมเต็มที่แกะแยกเนื้อและเปลือกออก ก่อนจะนำเนื้อทุเรียน ที่แกะแล้วส่งเข้าห้องเย็น เพื่อลดอุณหภูมิของผิวเนื้อทุเรียนลงระดับหนึ่งก่อนจะนำเข้าตู้แช่แข็ง ความเย็น -70 องศา จากนั้นจึงนำมาบรรจุใส่ถุงขนาด 5 กิโลกรัม และบรรจุลงกล่อง 20 กิโลกรัม โดยแต่ละวันสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฎผลิตทุเรียนแช่แข็งได้ประมาณ 65 ตัน

       ซึ่งอาคารห้องเย็นที่ใช้สำหรับผลิตทุเรียนแช่แข็งนี้ได้สร้างประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าผลผลิตและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร เนื่องจากที่ผ่านมา เกษตรกรต้องขนทุเรียนตกไซส์และสุกงอมไปเร่ขายให้กับพ่อค้าคนกลางและโดนกดราคา แต่เมื่อมีโรงงานห้องเย็นตั้งที่สหกรณ์แล้ว เกษตรกรสามารถนำทุเรียนจากสวนทุกลูกทุกขนาดมาขายให้กับสหกรณ์ที่เดียว โดยสหกรณ์จะรับซื้อไว้ทั้งหมดและคัดเกรดก่อนส่งกระจายไปตามช่องทางตลาด ทำให้ประหยัดเวลาและค่าขนส่งและยังช่วยพยุงราคาผลผลิตไม่ให้ตกต่ำด้วย

    “ปกติห้องเย็นในจันทบุรีมีอยู่หลายแห่งแต่เป็นของเอกชน แต่ละปีรวบรวมผลไม้ช่วงที่ออกมากที่สุดประมาณ 4,500 ตัน แต่เมื่อสหกรณ์ได้รับงบประมาณจัดสร้างห้องเย็น ก็ช่วยแชร์ส่วนแบ่งตลาดมาส่วนหนึ่ง เกษตรกรจึงมีทางเลือกนำผลผลิตมาขายให้กับสหกรณ์ และส่งผลให้ราคาทุเรียนปรับตัวสูงขึ้น จากเดิมหลายปีที่ผ่านมาทุเรียนตกไซส์ราคา 30 – 40 บาทต่อกิโลกรัมปีที่แล้วขยับเป็น 45 – 60 บาทต่อกิโลกรัมและปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 บาทต่อกิโลกรัม แสดงให้เห็นว่าการที่สหกรณ์เข้าไปเป็นตัวกลางรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรนั้น ส่งผลต่อการรักษาเสถียรภาพราคาผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี และยังช่วยรัฐบาลประหยัดงบประมาณที่จะต้องนำไปใช้แทรกแซงราคาผลไม้ให้กับเกษตรกรปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท"

    อย่างไรก็ตามหลังจากที่สหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการผลผลิตในพื้นที่ โดยการพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต เริ่มตั้งแต่การส่งเสริมการรวมกลุ่มสมาชิกให้มีการ วางแผนการผลิต การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย 

   สุรางค์ ชาวนา ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฎ จำกัด อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรีเผยกับ“คมชัดลึก”ว่าหลังจากที่สหกรณ์ฯได้รับการจัดสรรงบไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาลมาสร้างโรงงานผลิตทุเรียนแช่แข็ง ซึ่งได้สรา้งแล้วเสร็จและเปิดใช้งานเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมาปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากสมาชิกเป็นอย่างดี แต่ยังมีปัญหาวัตถูดิบที่นำมาสู่กระบวนการผลิตทุเรียนแช่แข็งยังมีน้อยเกินไป เนื่องจากเกษตรกรชาวสวนทุเรียนจะขายเป็นผลสดมากกว่า เพราะได้ราคาดีกว่า  ขณะที่นำมาสู่กระบวนการแช่แข็งส่วนใหญ่จะเป้นทุเรียนตกเกรด

    “ขณะนี้โรงงานได้หยุดดำเนินการ เนื่งอจากผลผลิตทุเรียนเริ่มมีน้อยแล้ว ทางคณะกรรมการสหกรณ์กำลังคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้มีทุเรียนป้อนโรงงานตลอดทั้งปี หลังจากนี้ก็คงไปสำรวจทุเรียนทางภาคใต้ที่กำลังออกมาป้อนโรงงานต่อไป”ผจก.สหกรณ์ฯเขาคิชฌกูฎกล่าว

   ศานต์ นาควิบูลย์วงศ์ ผู้จัดการโรงงานห้องเย็น บริษัท ริชฟิล เฟรช ฟรุ๊ต จำกัด บริษัทส่งออก ซึ่งเป็นคู่ค้ากับสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้รับซื้อทุเรียนแช่แข็งจากสหกรณ์ และส่งเป็นวัตถุดิบให้ลูกค้า ที่ประเทศจีนนำไปจัดแต่งบรรจุลงถาดและใส่แบรนด์สินค้าของตัวเอง ก่อนส่งไปวางขายในห้างใหญ่ ๆ 4-5 แห่งของจีน ซึ่งราคาทุเรียนจากประเทศไทยเมื่อนำไปวางขายในห้างของจีนจะมีมูลค่าสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว 

 

           "คนจีนส่วนใหญ่นิยมรับประทานทุเรียนสุกงอม ซึ่งทุเรียนแกะเนื้อที่ส่งไปประเทศจีนจะผ่านการตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัย และต้องมีใบรับรองมาตรฐานGMP ซึ่งการผลิตผลไม้แบบ fresh-cut จะต้องทำในเชิงคุณภาพ แต่จะได้ผลตอบแทนที่มีมูลค่าสูงกว่า นอกจากตลาดผลไม้ในประเทศจีนแล้ว ทางบริษัทยังส่งทุเรียนไปเปิดตลาดที่อินโดนีเซีย และส่งแบบทุเรียนแช่แข็งทั้งลูกไปจำหน่ายที่เกาหลีด้วย แม้ว่าในปีนี้จะเป็นการทดลองตลาดทุเรียนแช่แข็งเป็นปีแรก แต่ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้า ในต่างประเทศเป็นอย่างดี และมีแนวโน้มว่าจะสามารถขยายปริมาณการส่งออกได้เพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไปอีกด้วย”ผู้จัดการโรงงานห้องเย็นริชฟิล เฟรช ฟรุ๊ตกล่าวย้ำทิ้งท้าย

             นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จของสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฎ ผ่านโครงการไทยนิยมยั่งยืนในการบริหารจัดการผลผลิตผลไม้คุณภาพเพื่อการส่งออกอย่างทุเรียนผ่านกระบวนการแช่แข็งก่อนสู่ผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศ

                                           

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ