ข่าว

สืบสานอาชีพหม่อนไหมจากภูมิปัญญาด้วย"นวัตกรรม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สืบสานอาชีพหม่อนไหมจากภูมิปัญญาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วย"นวัตกรรม"

 

                    นับเป็นเกษตรกรต้นแบบแห่งปี สำหรับ “โยธกา บุญมาก” หลังกรมหม่อนไหมได้พิจารณาคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้หน่วยงานในสังกัดคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ ที่มีผลงานดีเด่นในสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณ เผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนรับทราบ โดยเธอได้รับคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมประจำปี 2562 ในฐานะเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านพญาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ และได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2562 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

สืบสานอาชีพหม่อนไหมจากภูมิปัญญาด้วย"นวัตกรรม"

สืบสานอาชีพหม่อนไหมจากภูมิปัญญาด้วย"นวัตกรรม"

 

         โยธกา บุญมาก ปัจจุบันเป็นประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านพญาราม จ.สุรินทร์ มีพื้นที่ปลูกหม่อนทั้งสิ้น จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา ปลูกหม่อนพันธุ์บุรีรัมย์ 60 ได้ผลผลิตใบหม่อน 2,000-3,000 กก.ต่อไร่ต่อปี เพื่อเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้าน จำนวน 7 รุ่นต่อปี ได้ผลผลิตเส้นไหม ประเภทไหมน้อย 5.5 กก.ต่อปี และไหมเปลือกนอก 3 กก.ต่อปี สำหรับใช้ผลิตผ้าไหม มีรายได้จากการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไม่ต่ำกว่าปีละ 1 แสนบาท

           ในปี 2561 เธอมีรายได้จากการจำหน่ายใบหม่อน 37,500 บาท เส้นไหม 11,000 บาท ดักแด้ไหม 2,000 บาท ปุ๋ยมูลไหม 5,000 บาท ชามูลไหม 5,000 บาท และผ้าไหม 84,700 บาท รวมรายได้ทั้งสิ้น 145,200 บาท บนเนื้อที่แค่ 2 ไร่เศษเท่านั้น

          โยธกา ถือเป็นผู้มีความคิดริเริ่มอาชีพหม่อนไหมในหลายๆ ด้าน เช่น การรวมกลุ่มจัดตั้ง “กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านพญาราม” เพื่อจัดทำหม่อนแปลงรวม โดยได้รับการสนับสนุนท่อนพันธุ์หม่อนจากศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สุรินทร์ ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 151 ราย มีหม่อนแปลงรวม 130 ไร่ และเป็นผู้ริเริ่มจัดหาโรงเลี้ยงไหมที่เป็นของส่วนรวม โดยสร้างห้องเลี้ยงไหมวัยอ่อนจำหน่ายให้สมาชิกภายในกลุ่ม ริเริ่มให้มีการประกันราคาดักแด้ เพื่อแก้ปัญหาราคาดักแด้ตกต่ำ

            นอกจากนี้เธอยังเป็นคนแรกที่นำมูลไหมมาสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบ “ปุ๋ยมูลไหม” โดยนำมูลไหม มาอบแห้ง ก่อนส่งให้สถานีพัฒนาที่ดิน ตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหาร NPK ก่อนนำมาบรรจุถุงขายและผลิต “ชามูลไหม” โดยนำมูลไหมไปอบแห้งและคั่วด้วยไฟปานกลาง บรรจุซองชา และส่งให้ สวทช. ตรวจวิเคราะห์หาคุณค่าและสารอาหารทางโภชนาการ พบว่า มูลไหมมีสารสำคัญที่ช่วยบำรุงสุขภาพ ปัจจุบันกลายเป็นสินค้าเครื่องดื่มที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จากโปรตีนไหม เช่น สบู่ก้อน สบู่เหลว แชมพู โลชั่นเซรั่ม และครีม ช่วยสร้างอาชีพและรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกรในชุมชนสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดี

            ไม่เพียงเท่านั้นโยธกายังมีการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดสารพิษตกค้าง และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการแปลงหม่อนโดยวิธีเขตกรรม โดยการตัดแต่งกิ่งหม่อนในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดการสะสมของโรคและแมลงศัตรูพืชการบำรุงรักษาดินและต้นหม่อน โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี การจัดการผลพลอยได้จากการเลี้ยงไหมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การติดตั้งตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้อบรังไหม และอบมูลไหม การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในการผันน้ำมาใช้ในแปลงหม่อนรวม เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและลดต้นทุนค่าใช้ไฟฟ้าการนำพืชท้องถิ่นมาย้อมผ้าไหมแทนการใช้สีเคมี การนำพืชสมุนไพรท้องถิ่นมาอบรักษาผ้าไหมแทนการใช้สารเคมีตามภูมิปัญญาท้องถิ่น การใช้พวงสาวแบบโบราณพื้นบ้านด้วยหม้อดิน โดยใช้เตาฟืนแทนเตาถ่านหรือเตาแก๊สเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้ที่ผ่านมาได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย เช่น รางวัลชนะเลิศการประกวดเส้นไหมน้อยสาวมือของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสุรินทร์ และรางวัลชนะเลิศการประกวดเส้นไหมน้อยสาวมือระดับประเทศในงานมหกรรมไหมไทย (ปี 2550) รางวัลชมเชยในการประกวดผ้าไหมโบราณของสภาวัฒนธรรม จังหวัดสุรินทร์ (ปี 2547) เป็นต้น

              ศิริพร บุญชู อธิบดีกรมหม่อนไหม เผยว่าจากผลงานและกิจกรรมที่ได้ทำ จะเห็นได้ว่า โยธกา บุญมาก เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และยังเป็นผู้นำที่มีความเสียสละ มีจิตอาสาทำงานช่วยเหลือชุมชนในด้านต่างๆ เช่น อาสาสมัครเกษตรกร (หม่อนไหมอาสา) เป็น Smart Farmer หม่อนไหม เป็นประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพญาราม เป็นคณะกรรมการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อ.เมืองสุรินทร์ เป็นเกษตรกรความคิดริเริ่มในด้านต่างๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าหม่อนไหมในหลากหลายมิติ สร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้อย่างน่าชื่นชม จนทำให้ได้รับคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ประจำปี 2562  

            นับเป็นตัวอย่างความสำเร็จและเป็นแบบอย่างให้แก่เกษตรในอาชีพหม่อนไหมได้เป็นอย่างดี

   

                         

                                    "โยธกา บุญมาก"กับผลงานเด่นด้านหม่อนไหม

            โยธกา บุญมาก อายุ 50 ปี ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่บ้านพญาราม หมู่ 9 ต.เพี้ยราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี (เกียรตินิยมอันดับ 1) ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มีผลงานเด่นที่ผ่านมา ได้แก่ ปี 2547 ได้รับรางวัลชมเชยในการประกวดผ้าไหมโบราณของสภาวัฒนธรรม จังหวัดสุรินทร์, วันที่ 27 มิถุนายน 2550 ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดเส้นไหมน้อยสาวมือของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสุรินทร์

            จากนั้นวันที่ 24 สิงหาคม 2550 ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดเส้นไหมน้อยสาวมือระดับประเทศในงานมหกรรมไหมไทย จากสถาบันหม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร, ปี 2557 เข้าเฝ้าฯ ถวายงานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จฯ ณ บ้านฮ็อง ต.เพี้ยราม อ.เมือง จ.สุรินทร์, ปี 2558 ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดหมู่บ้านตัวอย่างปลูกหม่อนเลี้ยงไหมดีเด่นระดับประเทศ และได้รับคัดเลือกจากกรมหม่อนไหมให้เป็นผู้แทนในการศึกษาดูงาน ณ ประเทศอินเดีย ในปีเดียวกัน

          ปี 2560 ได้เป็นตัวแทนในฐานะประธานกลุ่มฯ เข้าเฝ้าถวายผ้าไหมแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอฯ กรมหมื่นสุทธนารีนาถ, เข้าเฝ้าถวายงานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เมื่อครั้งเสด็จ ณ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร “ซแรย์ อทิตยา” อ.เมือง จ.สุรินทร์ และได้เข้าเฝ้าถวายงานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เมื่อครั้งเสด็จ ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต

             ปี 2561 ร่วมต้อนรับและนำเสนอผลงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ