ข่าว

   จากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำสู่สวนเกษตรผสมผสาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

   จากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำสู่สวนเกษตรผสมผสาน

 
               จากสภาพดินในพื้นที่ ต.พิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา ของวิทูร ชมภูนุชยรรยง วัย 69 ปี อดีตวิศวกรที่ริเริ่มสานฝันวัยหนุ่มของตนเอง ด้วยการทำการเกษตรปลูกไม้ผลหลากหลาย ทั้งฝรั่ง มัลเบอร์รี และทุเรียน ในพื้นที่บ้านโคกทัง ม.5 ตำบลพิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา กลายมาเป็นบ้านสวนเกษตรในฝันในวันนี้

   จากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำสู่สวนเกษตรผสมผสาน

     

              ที่ดินจำนวน 8 ไร่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นดินลาดชันทำให้มีผลกระทบต่ออุณหภูมิดินและเรื่องของความชื้น การเจริญเติบโตของพืชพรรณ การผุพังสลายตัวของหิน แร่ การไหลบ่าและไหลซึมของน้ำชะล้างพังทลายของดิน กรมพัฒนาที่ดินจึงมีมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งมี 2 แบบ คือ วิธีกล ปรับดินให้เป็นขั้นบันได โดยใช้รถแทรกเตอร์ และวิธีพืชผสมผสานด้วยการใช้หญ้าแฝก

               โดยในปี 2558 ทางสถานีพัฒนาที่ดินสงขลา ได้ให้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดูแลในเรื่องของการดูแลดินและน้ำ และพบว่าเป็นพื้นที่ดินลาดชัน จึงได้สนับสนุนพันธุ์หญ้าแฝก เพื่อให้เกษตรกรนำมาปลูกในพื้นที่ของตนเอง เพื่อลดการพังทลายของหน้าดิน และเมื่อหญ้าแฝกเจริญเติบโต เกษตรกรก็สามารถตัดหญ้านั้นแล้วนำไปคลุมดินใต้ต้นไม้ เพื่อลดการระเหยของน้ำในดินและเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน อาทิ ต้นมัลเบอร์รี่ ต้นฝรั่ง หรือต้นทับทิมจันทร์ เป็นต้น หลังจากที่นำหญ้าแฝกมาปลูกแล้ว ทำให้สภาพของดินเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้ตะกอนดินไปตกในบริเวณที่ปลูกหญ้าแฝก และส่งผลให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น

   จากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำสู่สวนเกษตรผสมผสาน
               นายทวีศักดิ์ ชนะสิทธิ์  นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา กล่าวว่า จากการวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ปรากฏว่ามีค่าความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ที่ ประมาณ 6.5 pH ซึ่งเหมาะสมต่อการทำการเกษตร จริงๆแล้วการทำการเกษตรให้ได้ผล หรือมีประสิทธิภาพก็จำเป็นต้องมีการปรับปรุงบำรุงดิน ส่วนที่ดินของคุณวิฑูร นอกจากจะผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพใช้เองแล้ว ในการทำปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพบางครั้งใช้ระยะเวลานาน ทางสถานีพัฒนาที่ดินสงขลา ได้มีการจัดจำหน่ายปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ กิโลกรัมละ 3 บาท เพื่อบริการให้กับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจนำไปใช้ในการทำเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง
              วิทูร กล่าวว่า จากอดีตหนุ่มนักธุรกิจ ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกร โดยมีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 8 ไร่ แบ่งปลูก ฝรั่งกิมจู ชมพู่ มัลเบอร์รี่ และในส่วนพื้นที่ขั้นบันได ก็ได้นำหญ้าแฝกมาปลูก ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่ตรงนี้เป็นป่ารกและไม่มีคนสนใจ แต่มีแหล่งน้ำใช้ตลอดทั้งปี จึงได้ตัดสินใจซื้อและจัดระเบียบที่ดิน ขุดบ่อน้ำ ซึ่งผลจากการที่ได้นำหญ้าแฝกมาปลูก ก็ช่วยในการปรับสภาพพื้นดินให้อมน้ำ หน้าดินก็ชุ่มชื้นขึ้น สามารถเก็บธาตุอาหารในดินเอาไว้ได้
            ทั้งนี้ ฝรั่งกิมจูที่ปลูกจะใช้เวลา 8 เดือน และเก็บผลผลิตขาย ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องของการขาย เพราะได้ตัดปัญหาเรื่องของพ่อค้าคนกลางและใช้วิธีขายผลผลิตเอง โดยมีลูกค้าเข้าติต่อขอซื้อผลผลิตเองในสวน รวมไปถึงการขายปลีกเองที่บริเวณหน้าสวนให้กับลูกค้าที่ขับรถผ่านไปมา ครั้งแรกที่สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา ได้ติดต่อเข้ามาแนะนำให้ปลูกฝรั่งกิมจู ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่มาช่วยแนะนำวิธีการปลูกและส่งเสริมในเรื่องของการใช้ปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ นอกจากนั้นก็ส่งเสริมในเรื่องของพันธุ์พืช ก็ได้มาช่วยแนะนำในเรื่องพันธุ์ที่จะเอามาปลูก และจัดหาพันธุ์มาให้ปลูก จากนั้นเราก็ขยายกิ่งพันธุ์เอง ไม่ว่าจะเป็น มัลเบอร์รี่ ชมพู่ ฝรั่ง

 

           จากหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำสู่สวนเกษตรผสมผสาน

         โดยตนเองได้เคยชวนทุกคนที่สนใจ อยากจะทำการเกษตร ว่าให้ลองมาทำแบบตน อย่างในพื้นที่นี้ก็ทำมาได้ประมาณสามปี มีหมอดินทั่วทั้งจังหวัดสงขลาและอีกสามจังหวัดภาคใต้มาศึกษาดูงาน เช่น พัทลุง มาศึกษาดูงานครั้งหนึ่ง ประมาณ 50 - 100 คน ซึ่งก็มาศึกษาดูงานหลายคณะแล้ว ตนเองก็ได้เชิญชวนและแนะนำให้ปลูกหญ้าแฝกตรงหน้าดินที่เป็นขั้นบันไดนี้ เพราะหญ้าแฝกสามารถป้องกันการพังทลายของหน้าดินได้ดีมาก ถ้าปลูกแบบนี้ในไร่จะทำประโยชน์ในเรื่องของดินได้ดีมาก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ