ข่าว

 สทนช.เกาะติดสถานการณ์น้ำกลางฤดูแล้ง 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 สทนช.เกาะติดสถานการณ์น้ำกลางฤดูแล้ง เตือนเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสร้างสรรค์

 

      ไม่ใช่แค่คุมเข้มนาปรัง แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ต้องช่วยกันเล่นน้ำอย่างสร้างสรรค์และประหยัดที่สุดเพื่อเก็บน้ำไว้เป็นแหลง่น้ำต้นทุน หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ปีนี้แล้งยาวกว่าปกติ ทำให้หน่วยงานคุมนโยบายน้ำอย่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติหรือสทนช.ต้องออกมาคุมเข้มทุกหน่วยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง แต่การระบายน้ำสนับสนุนช่วงสงกรานต์ยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ พร้อมวอนประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสร้างสรรค์และใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในทุกกิจกรรมตลอดทั้งปี

  

       ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)เผยถึงปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อนต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมสงกรานต์ตามประเพณีไทยในปีนี้ว่า การวางแผนระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต่าง ๆ ของกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้อย่างเต็มที่ แต่ยังอยู่ในแผนควบคุมการใช้น้ำ อาทิ พื้นที่ภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ เริ่มระบายจากเขื่อนแม่งัดฯ ตั้งแต่วันที่ 11 - 18 เม.ย.62 อัตราการระบาย 13.00 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำทั้งหมด 7.78 ล้าน ลบ.ม.           ในขณะที่บริเวณรอบคูเมืองในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ มีการระบายน้ำจากฝายแม่แตง ตามรอบเวรการส่งน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตงลงสู่คูเมือง ขณะที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ยังได้ระบายน้ำตามรอบเวรการส่งน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่กวง จำนวน 250,000 ลบ.ม. ลงสู่แม่น้ำแม่กวง พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ่างเก็บน้ำหลายแห่งได้เพิ่มการระบายน้ำ เพื่อสนับสนุนการเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ 

         ภาคอีสานที่เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร จะเพิ่มการระบายน้ำในช่วงวันที่ 12 - 15 เม.ย. 62 รวมประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีแผนส่งน้ำในช่วงวันที่ 12 - 17 เม.ย. 62 โดยส่งน้ำผ่านคลองส่งน้ำสายใหญ่ รวม 21 ล้าน ลบ.ม. และส่งน้ำลงสู่ลำน้ำปาว ซึ่งอยู่ในรอบเวรการระบายน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ และเพื่อให้ประชาชนในเขต อ.กมลาไสย ได้เล่นสงกรานต์ในคราวเดียวกัน รวมทั้งช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งบริเวณลุ่มน้ำชีตอนกลางและตอนล่างอีกด้วย 

      ส่วนพื้นที่ภาคกลางที่เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จะระบายน้ำเพื่อให้การสนับสนุนน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา เพื่อใช้ในเขตอ.ชะอำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันละ 65,000 ลบ.ม. พร้อมกับส่งน้ำเข้าคลองสายใหญ่ 4 สาย รวมประมาณวันละ 2.068 ล้าน ลบ.ม. เพื่อใช้ในการเกษตรตามรอบเวรและสามารถสนับสนุนเทศกาลสงกรานต์ให้ประชาชนเล่นน้ำในคลองส่งน้ำได้อย่างพอเพียง ส่วนที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเขต อ.หัวหิน เขื่อนปราณบุรี จะสนับสนุนส่งน้ำดิบให้กับการประปาส่วนภูมิภาคหัวหิน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันละ 120,000 ลบ.ม. ประกอบกับทางเขื่อนเพชร จะส่งน้ำดิบผ่านทางคลองสาย 1 และท่อส่งน้ำมาเสริมให้กับการประปาหัวหิน อีกวันละ 6,500 ลบ.ม. รวมปริมาณน้ำที่ส่งทั้งสิ้นวันละ 126,500 ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอที่จะใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยเช่นกัน

    “สถิติการระบายน้ำของอ่างขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จำนวน 35 อ่าง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย. ย้อนหลังไป 4 ปี คือ ปี 2558 ระบายน้ำอยู่ที่ 435 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มการระบายในช่วงสงกรานต์ 10.05 ล้าน ลบ.ม. ปี 2559 ระบายน้ำ 375 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มการระบาย 0.67 ล้าน ลบ.ม. ปี 2560 ระบายน้ำ 543 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มการระบาย 9.63 ล้าน ลบ.ม. และปี 2561 ระบายน้ำ 720 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มการระบาย 6.75 ล้าน ลบ.ม. โดยปริมาณน้ำที่ระบายจากอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น ส่วนใหญ่เป็นปริมาณน้ำที่ได้มีการวางแผนการส่งน้ำตามรอบเวร เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่กระทบต่อการใช้น้ำในภาคกิจกรรมอื่นๆ ซึ่ง สทนช.ได้ประสาน กำกับ ติดตามไม่ให้การระบายน้ำกระทบต่อการใช้น้ำที่เหลือในภาคกิจกรรมอื่นๆ อย่างแน่นอน”เลขาธิการสทนช.กล่าว

     ขณะที่การดูแลตามมาตรฐานคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภครวมถึงการเกษตร พบว่าค่าความเค็มของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นจุดสูบน้ำดิบการประปานครหลวงอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนแม่น้ำบางปะกง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีค่าต่ำกว่าค่ามาตรฐานเนื่องจากการรุกของน้ำเค็มแต่ยังไม่ส่งกระทบแต่อย่างใด สำหรับปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ แม่น้ำชี อ.เมือง จ.มหาสารคาม อยู่ในระดับปกติ ขณะที่แม่น้ำพอง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ แม่น้ำนครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แม่น้ำท่าจีน

อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำต้องเฝ้าระวัง โดย สทนช. ยังคงติดตามเฝ้าระวัง ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ อุปโภค-บริโภค ในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำดิบ ทั้งนอกเขตและในเขตการให้บริการของ กปภ. เพื่อเตรียมความพร้อมเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหาความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอย่างต่อเนื่องด้วย

     อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำทั่วประเทศ พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำสำคัญทั่วทุกภาคของประเทศอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ ณ วันที่ 9 เม.ย. 62 โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 35 อ่าง และแหล่งน้ำธรรมชาติ 2 แห่ง ได้แก่ หนองหาร จ.สกลนคร และบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำ 43,316 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 61% ปริมาณน้ำใช้การ 19,774 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 41% ขณะที่อ่างฯ ขนาดกลาง 426 แห่ง มีปริมาณน้ำ 2,553 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 46% ปริมาณน้ำใช้การ 2,138 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 41% แหล่งน้ำขนาดเล็ก จำนวน 141,739 แห่ง ปริมาณน้ำ 1,885 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 38%

      โดยแผนการจัดสรรน้ำทั้งประเทศในช่วงฤดูแล้ง ปี 2561/62 จำนวน 23,100 ล้าน ลบ.ม. ผลการจัดสรรน้ำทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.61 ถึงปัจจุบัน มีการจัดสรรแล้วทั้งสิ้น 20,043 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 87% ของแผนการจัดสรรน้ำ คงเหลือ 3,057 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 13% โดยลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำแล้ว 7,734 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 106% ของแผน ลุ่มน้ำชี- มูล มีการจัดสรรน้ำแล้ว 1,046 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 96% ของแผน และลุ่มน้ำแม่กลอง จัดสรรน้ำแล้ว 4,416 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 77% ของแผน

     “สทนช.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดตรวจสอบข้อมูลแหล่งน้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบ ได้แก่ เขื่อนอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อรวบรวมจัดทำฐานข้อมูลแหล่งน้ำ สำหรับการบริหารจัดการน้ำและการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์แล้งต่อเนื่องถึงต้นฤดูฝน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้มีการเล่นน้ำอย่างประหยัด และใช้น้ำทุกหยดอย่างรู้คุณค่า รวมทั้งขอให้เล่นน้ำอย่างสร้างสรรค์ เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ พร้อมขอส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางไป-กลับภูมิลำเนา ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ อยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่น และขอให้มีความสุขตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้” เลขาธิการสทนช. กล่าวในตอนท้าย 

 

                                       

                        กรมชลเตรียมพร้อมน้ำปล่อยน้ำช่วงสงกรานต์

         ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ทุกหน่วยงานดูแลประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยกรมชลประทานได้จัดตั้งศูนย์บริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ซึ่งในปี 2562 ได้สั่งการให้สำนักงานชลประทาน โครงการชลประทาน โครงการก่อสร้างขนาดกลาง และสำนักเครื่องจักรกล ที่มีที่ตั้งริมถนนสายหลักและสายรอง จัดตั้งศูนย์ให้บริการประชาชนกระจายทั่วประเทศ 117 แห่ง บริการน้ำดื่ม อาหารว่างตามความเหมาะสม รวมทั้งจัดเตรียมห้องน้ำสะอาดไว้คอยบริการ ระหว่างวันที่ 12 -17 เมษายน 2562 ช่วงเวลา 08.30 -16.30 น. เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางไปท่องเที่ยว หรือ กลับภูมิลำเนาได้จอดรถพักผ่อนระหว่างทาง ช่วยลดอุบัติเหตุ ภายใต้แนวคิด ไม่ไหวอย่าฝืน แวะเติมความสดชื่น ได้ที่จุดบริการประชาชนกว่า 117 แห่ง ทั่วประเทศ

       สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ประชาชนสามารถใช้น้ำที่อยู่ในระบบชลประทาน ซึ่งกรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรไว้เพื่อการรักษาระบบนิเวศควบคู่กับการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตรไว้แล้ว ซึ่งจะมีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับเล่นสงกรานต์อย่างแน่นอน อีกทั้ง ยังได้เปิดอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ประชาชนได้เล่นน้ำสงกรานต์คลายร้อนกันตลอดเทศกาลสงกรานต์นี้

         อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปีนี้จะไม่มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้ง ในเขตพื้นที่ชลประทาน แต่ขอประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในอนาคตให้ได้มากที่สุดด้วย ท้ายสุดนี้ ขอให้พี่น้องชาวไทยทุกท่านที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวทั่วไทย ขอให้เดินทางไปกลับโดยสวัสดิภาพ เหนื่อยนักก็แวะพักที่จุดบริการประชาชนของกรมชลประทาน ได้บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ