เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ"จาก"ศูนย์เรียนรู้"สู่อาชีพผู้ต้องขัง

            กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของเมืองตราด หลังกรมหม่อนไหมผนึกกรมราชทัณฑ์ สร้างอาชีพแก่ผู้ต้องขัง ด้วยการพัฒนา “เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ” อ.เขาสมิง สู่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรครบวงจร เป็นต้นแบบให้แก่เรือนจำทั่วประเทศ ด้วยการเน้นทักษะความรู้ด้านการปลูกหม่อน การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม เพื่อสร้างอาชีพและรายได้เลี้ยงตนเองหลังพ้นโทษ

               “ท่องโลกเกษตร” อาทิตย์นี้ตามอธิบดีกรมหม่อนไหม "ศิริพร บุญชู" ไปดูกิจกรรมผู้ต้องขัง การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหมที่เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ อ.เขาสมิง จ.ตราด โดยกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จัดฝึกอบรมอาชีพด้านหม่อนไหมให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ ดำเนินงานตามโครงการกำลังใจ ในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อคืนคนดีสู่สังคม โดยจัดอบรมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแก่ผู้ต้องขังก่อนพ้นโทษ เพื่อให้มีความรู้ติดตัวไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

             “สำหรับเรือนจำที่มีพื้นที่ว่างเพียงพอ กรมหม่อนไหมจะเข้าไปส่งเสริมความรู้การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอย่างครบวงจร ตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม ปลูกหม่อนผลสด สาวเส้นไหม ฟอกย้อมสีเส้นไหม ทอผ้าไหม และแปรรูปผลิตภัณฑ์หลายอย่าง อาทิ ชาหม่อน แปรรูปหม่อนผลสด ผลิตรังไหมสดเพื่อจำหน่าย ฯลฯ ส่วนเรือนจำที่มีพื้นที่จำกัดและไม่มีพื้นที่ปลูกหม่อน จะส่งเสริมความรู้ด้านการฟอกย้อมสีเส้นไหม การทอผ้าพื้นและผ้าไหมเป็นต้น” อธิบดีกรมหม่อนไหมเผยระหว่างนำเยี่ยมชม

            “เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ” อ.เขาสมิง จ.ตราด เป็นหนึ่งในเรือนจำต้นแบบที่กรมหม่อนไหมได้ดำเนินงานบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ ภายใต้โครงการกำลังใจ ในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในเรือนจำ เพื่อเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้ต้องขังให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียงเมื่อพ้นโทษ

            ปัจจุบันเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ มีพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ แบ่งการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามศาสตร์พระราชา มีน้ำใช้ตลอดปี มีสวนป่า ปลูกพืชผสมผสาน ปลูกไม้ผล มีบ่อเลี้ยงปลาและเลี้ยงสัตว์นานาชนิด เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพให้แก่ประชาชนทั่วไปและได้รับพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวดเรือนจำดีเด่น ด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ในปัจจุบันเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ ได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.ตราด ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านเศรษฐกิจพอเพียง

             “นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเรือนจำชั่วคราวเขาระกำจะได้เรียนรู้งานด้านหม่อนไหมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการปลูกหม่อนผลสดในระบบอินทรีย์ รวมทั้งการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม อาทิ สบู่โปรตีนไหม ครีมอาบน้ำ แชมพู คุกกี้โปรตีนไหม สมูทตี้หม่อนผลสด ทอฟฟี่โปรตีนไหม โอ่งใส่ทิชชูผ้าไหม เป็นต้น จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาดูงานในพื้นที่ดังกล่าวและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากหม่อนไหมเป็นของขวัญของฝากติดมือกลับบ้าน เพื่อสนับสนุนการสร้างอาชีพและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ต้องขัง” อธิบดีกรมหม่อนไหมกล่าว

               ชุติกาญจน์ รัชตะปิติ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา เปิดเผยว่า เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ จ.ตราด อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดนครราชสีมา กรมหม่อนไหมได้ทำข้อตกลงเอ็มโอยูกับกรมราชทัณฑ์ เข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม ช่วยให้ผู้ต้องขังมีสุขภาพจิตดีขึ้นลดความเครียดระหว่างต้องโทษ และมีอาชีพติดตัวไปหลังพ้นโทษ โดยอบรมความรู้เรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม รวมทั้งสนับสนุนต้นหม่อนผลสด พันธุ์เชียงใหม่ ให้อดีตผู้ต้องขังนำไปปลูก รวมทั้งสนับสนุนด้านการตลาด โดยนำสินค้าไปจำหน่ายในงานแสดงสินค้าต่างๆ และนำมาจำหน่ายในงานอุ่นไอรักที่ผ่านมาด้วย

               ชุติกาญจน์กล่าวอีกว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา มีผู้ต้องขังที่พ้นโทษ และประสบความสำเร็จในการนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประกอบอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตนเอง เช่น ในรายของ ธาดา ทริดสังข์ ผู้พ้นโทษจากเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ จ.ตราด ซึ่งได้นำความรู้ด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ผลิตน้ำหม่อน แยมหม่อนจำหน่ายในตลาดนัด และเปิด “เพจบ้านน้ำหม่อน” เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพื่อเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้ครอบครัวอีกด้วย ส่วนผู้ต้องขังในบ้านดินหม่อนไหม ซึ่งเป็นผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ที่ใช้เครื่องหมายการค้า “น้ำหม่อนจากเขาระกำ” จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายสินค้า โดยสินค้าขายดีที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั่วไปได้แก่ หม่อนผลสด เครื่องดื่มสมูทตี้ น้ำหม่อนแปรรูป และสินค้าแปรรูปอื่นๆ อีกมากมาย

          “นักโทษชั้นดี ที่เข้าร่วมกิจกรรมบ้านดินหม่อนไหม กับกรมหม่อนไหม จะมีความสุขกับการทำงาน เกิดความผ่อนคลาย ไม่เครียด พวกเขามีใจรักในงานบริการ หลังเปิดที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง พวกเขามีโอกาสเจอนักท่องเที่ยวทุกวัน ได้ขายสินค้าผลงานของพวกเขา โดยเฉพาะสมูทตี้มัลเบอรี่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีมาก ทำให้พวกเขามีกำลังใจในการทำงานอย่างมีความสุข” ชุติกาญจน์สรุปทิ้งท้าย

              นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จในการบูรณาการหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังในการสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้หลังพ้นโทษและยังเป็นแบบอย่างให้แก่เรือนจำอื่นทั่วประเทศอีกด้วย