ข่าว

พายเรือชมสวน"กัมปงในดงปรือ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พายเรือชมสวน"กัมปงในดงปรือ" แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรชานกรุง      

 

      กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในพื้นที่ชานกรุง หลังชาวชุมชนทุ่งครุรวมพลังจัดกิจกรรมภายใต้ชื่องาน" “กัมปงในดงปรือ” ล่องเรือชมธรรมชาติ ลองลิ้มส้มบางมดสดๆ จากสวน ดูฟาร์มเลี้ยงแพะและช็อป ชิม ชิล สินค้าพื้นถิ่น ของกินพื้นเมืองในทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน หลังเปิดทดลองมา 4 เดือนปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม​

พายเรือชมสวน"กัมปงในดงปรือ"

พายเรือชมสวน"กัมปงในดงปรือ"

 

              ท่องโลกเกษตร อาทิตยนี้ตาม "อนิรุจ นุชมี" ประธานกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร มาดูวิถีชีวิตชุมชนของชาวบ้านทุ่งครุในพื้นที่พุทธบูชา ซอย 36 ซึ่งเป็นชุมชนที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนและเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะเลี้ยงแพะและแกะ 

              “แต่เดิมของชาวทุ่งครุจะที่รู้จักกันแต่ก่อนว่าบางมด คือการทำนา ต่อมามีการปรับเปลี่ยนมาทำสวนส้มตั้งแต่ปี 2508 พื้นที่นาจึงเปลี่ยนสภาพมาเป็นสวนส้ม ซึ่งส้มบางมดมีชื่อเสียง เนื่องจากรสชาติหวานไม่เหมือนส้มจากพื้นที่อื่นเพราะปลูกในเขตพื้นที่ที่เป็นดินสองน้ำ เป็นดินน้ำกร่อยที่ผสมระหว่างดินจากแม่น้ำเจ้าพระยากับน้ำทะเล และปีหนึ่งจะได้บริโภคส้มบางมดเพียงหนเดียวเนื่องจากใช้เวลาออกผล 8 เดือนจึงจะสามารถเก็บขายได้” 

               ปัจจุบันส้มบางมดเหลือน้อยลงเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งครุจึงรวมตัวกันเพราะต้องการอนุรักษ์พื้นที่ทำการเกษตรในเขตทุ่งครุ อนุรักษ์น้ำและลำคลองที่กำลังจะหมดไปและต้องการให้คนทั่วไปรู้ว่าส้มบางมดยังคงเหลืออยู่และชาวบ้านจะร่วมกันอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่คู่กับพื้นที่แห่งนี้

             "ชาวบ้านที่นี่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรภายใต้ชื่องาน “กัมปงในดงปรือ” ซึ่งความหมายของชื่อนี้มาจากคำว่า “กำปง” ซึ่งคนอิสลามในสี่จังหวัดภาคใต้ หมายถึงหมู่บ้านหรือชุมชน ส่วนคำว่า “ดงปรือ” เกิดจากสภาพโดยรอบของพื้นที่ทุ่งครุมีสภาพเป็นสวน บางแห่งมีต้นปรือหรือต้นธูปฤๅษีขึ้นจำนวนมาก จึงตั้งชื่อกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ชุมชนแห่งนี้ว่า “กำปงในดงปรือ” โดยจะจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ซึ่งได้เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 2561 แต่ละเดือนจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาเยี่ยมชมและท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้ไม่ขาดสาย

             กุสุมา อินสมะพันธ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการวิสาหกิจชุมชนดารุ้ลอิบาดะห์พุทธบูชา 36 เผยกับ"คมชัดลึก"ว่า วิถีชีวิตของชาวชุมชนทุ่งครุมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีสินค้าเด่นที่เป็นเอกลักษณ์จึงคิดหาทางพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ไม่ไกลจากกลางเมืองหลวงมากนัก จึงได้ร่วมกับชาวบ้านในชุนจัดกิจกรรมขึ้นภายใต้ชื่อ “กัมปงในดงปรือ” เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในชุมชน

             "เมื่อมาที่นี่ก็จะมีโอกาสสัมผัสถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งครุและมีโอกาสไปชมสวนส้มบางมดและเลือกซื้อส้มถึงในสวนแบบสดๆ มีเส้นทางให้ปั่นจักรยานชมสวน และการท่องเที่ยวทางเรือ โดยจะมีชาวบ้านนำเรือมาบริการ พาล่องเรือไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในชุมชน เที่ยวชมธรรมชาติและสภาพแวดล้อมโดยล้อมที่มีความร่มรื่นเต็มไปด้วยสวนผลไม้และฟาร์มปศุสัตว์

               โดยจุดแรกจะนำไปดูฟาร์มแพะ ซึ่งมีทั้งแพะเนื้อและแพะนม และสามารถป้อนนมให้ลูกแพะและลิ้มรสชาตินมแพะสดๆ ใหม่ๆ จากฟาร์ม ชมสวนมะพร้าว โดยเกษตรกรจะขึ้นต้นมะพร้าวและมีบริการน้ำมะพร้าวที่มีรสชาติหอมหวาน มีการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคนในชุมชน อาทิ ขนมไทยโบราณ ทั้งขนมเทียน ทองม้วนนมสด ขนมจาก ข้าวต้มมัด ขนมฟักทอง" 

              นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อของชุมชนทั้งก๋วยเตี๋ยวแกงและก๋วยเตี๋ยวกะทิสูตรโบราณ และยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน ทั้งพายเรือ ฝึกสานปลาตะเพียนจากทางมะพร้าว ทำลูกชุบ ทำทองม้วนสดนมแพะ ทดลองยกยอจับปลา และเกษตรกรจะนำผลผลิตจากสวนมาจำหน่าย เช่น ผักบุ้ง มะละกอ กล้วย ดอกแค และกลุ่มสตรีในชุมชนจะนำผ้าปาเต๊ะ ซึ่งเป็นชุดของสตรีชาวมุสลิมใส่และคนในชุมชนตัดเย็บกันเองมาจำหน่าย มีบริการนวดผ่อนคลาย ซึ่งตลอดช่วงเวลาของการท่องเที่ยวที่นี่จะมีจุดถ่ายรูปตลอดเส้นทาง

                 เชิญชวนผู้สนใจเดินทางมาท่องเที่ยว “กัมปงในดงปรือ” ณ วิสาหกิจชุมชนดารุ้ลอิบาดะห์พุทธบูชา 36 โดยกิจกรรมในเดือนเมษายนจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.08-6936-8299 และ 06-4931-6040 ทุกวันในเวลาราชการ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ