เรื่องร้อนๆ ทางการเกษตร

                ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าร้อนก็เลยมีเรื่องร้อนๆ เกี่ยวกับการเกษตรเข้ามาหลายเรื่องด้วยกัน เมื่อสองสามวันก่อนผมได้มีโอกาสคุยกับรุ่นพี่ที่เชี่ยวชาญเรื่องของแมลงอีกครั้ง คือ รศ.ดร.วิบูลย์ จงรัตนเมธีกุล โดยในครั้งก่อนได้คุยกันในเรื่องของแมลงที่เป็นอาหาร แต่ในครั้งนี้ได้มีโอกาสคุยกันอีกครั้งกลับกลายเป็นเรื่องของแมลงศัตรูพืช ในช่วงนี้อย่างที่เราทราบกันก็คือมีการระบาดของของหนอน Fall armyworm ชนิดใหม่ในข้าวโพด และเท่าที่ทราบก็กินพื้นที่ไปหลายจังหวัดในประเทศไทย โดยเมื่อช่วงเดือนที่แล้วผมได้ไปดูงานในแปลงข้าวโพดหวานที่เชียงราย ก็สังเกตเห็นต้นและฝักข้าวโพดหวานที่ถูกหนอนกัดกินเหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าก็เป็นหนอนปกติธรรมดาสามัญทั่วไปหรือหนอนชนิดนี้

                 เท่าที่ได้คุยกันก็ได้ข้อมูลมาว่าเจ้าหนอนชนิดใหม่นี้มีถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ในทวีปอเมริกา แต่ในปี 2559 เกิดการระบาดใหญ่ในแอฟริกา แต่ในอเมริกาเองได้มีมาตรการกำจัดหนอนชนิดนี้กันจนสิ้นซาก ผมจึงเกิดความสงสัยว่ามันไปถึงแอฟริกาได้อย่างไร ก็ได้คำตอบว่าก็คงติดไปกับสินค้าเกษตรที่ส่งจากอเมริกาไปแอฟริกา แต่เมื่อไม่นานนี้ก็พบอีกที่อินเดีย และในช่วงนี้ก็พบบริเวณประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ไม่น่าเชื่อว่าพวกผีเสื้อกลางคืนของหนอนชนิดนี้สามารถบินได้ไกลเป็นร้อยกิโลเมตรต่อคืน

                 ดังนั้นจึงไม่แปลกที่การระบาดจึงกระจายตัวไปได้อย่างรวดเร็วในหลายจังหวัดของประเทศไทย ก็คงเป็นเรื่องร้อนๆ ที่พี่น้องเกษตรกรต้องป้องกันและกำจัดเจ้าหนอนชนิดนี้กันต่อไป เพราะถ้าขืนยังควบคุมไม่ได้ภายในระยะเวลาอันใกล้คงสร้างความเสียหายแก่ผลผลิตของพี่น้องเกษตรกรเราเพิ่มขึ้นและอาจลุกลามไปยังพืชชนิดอื่นต่อไปได้

                 เรื่องร้อนๆ อีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ซึ่งพูดกันมานานในบ้านเรา โดยมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการใช้เพื่อการเกษตรในบ้านเรา ผมได้คุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ ในวงการเกษตรหลายท่าน เพื่อขอความรู้และความคิดเห็น เพราะตัวผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสารเคมีพวกนี้ ข้อมูลที่ได้ก็มีความแตกต่างกันไป ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ก็มีเหตุผลสนับสนุนข้อดีข้อเสียในการใช้สารเคมี ผมเองยังชั่งใจไม่ถูกเลย

                แต่สำหรับเรื่องการใช้สารเคมีทางการเกษตรนี้มีข้อมูลปรากฏอยู่บนโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก และการให้ข้อมูลบางครั้งเทไปทางเดียวคือถ้าดีก็ดีไปเลย ถ้าไม่ดีก็ไม่ดีเลย และก็มีอยู่บ้างที่ให้ข้อมูลทั้งสองทาง แต่สถานการณ์แบบนี้ทำให้คนในสังคมที่ได้รับข้อมูลค่อนข้างสับสนและเกิดการขัดแย้งทางความคิดในเรื่องนี้ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องทั้งสองด้านและปราศจากอคติ จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ครับ 

                ทุกวันนี้ผมเดินไปไหนมาไหนก็มักถูกเพื่อนๆ นอกวงการเกษตรถามว่า ตกลงการใช้สารเคมีเพื่อการเกษตรนี่ดีหรือไม่ดี มันอันตรายขนาดไหน ควรใช้หรือไม่ใช้ต่อไป ทำไมบางประเทศเลิกใช้ไปแล้ว คำถามเหล่านี้ล้วนต้องการคำตอบทั้งสิ้น ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย แต่ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นคำตอบของแต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกันไป

          เฉกเช่นเดียวกับเรื่องร้อนๆ อีกเรื่องก็คงหนีไม่พ้นนอกเรื่องของ พ.ร.บ.ข้าว เรื่องนี้ก็คงคล้ายๆ กับเรื่องราวของการใช้สารเคมี ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดของคนในสังคม ดังนั้นเรื่องของการให้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน และการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง ซึ่งปัญหาหลายๆ เรื่องในบ้านเรานั้นเกิดจากความไม่ชัดเจนในการให้ข้อมูลรอบด้านที่ตรงไปตรงมา บางครั้งคนที่รู้เรื่องก็ไม่อยากพูดมากเพราะอาจเป็นการเปลืองตัวโดยใช่เหตุ 

               ท้ายที่สุดในช่วงนี้อากาศก็ร้อน วงการเกษตรก็ร้อน เราๆ ท่านๆ คงต้องใช้วิจารณญาณในการดำเนินชีวิตกันมากขึ้นครับ !