ไม้ประดับในงานเกษตรแฟร์

 

             งานเกษตรที่เหมือนเป็นต้นแบบในการจัดงานอื่นทั่วไป ที่ไม่ได้มีเพียงงานแฟร์แห่งทุ่งบางเขนเดิมไปเสียแล้ว แต่งานต้นตำรับที่รวบรวมทุกสรรพสิ่งทางการเกษตรตั้งแต่ต้นจนปลายน้ำทั้งทางตรงและโดยอ้อมมาอยู่ในงานที่ดูคึกคักดั่งมนต์ขลังอย่างที่น้อยคนนักจะไม่รู้จักงานเกษตรแฟร์จากรั้วนนทรี ที่มีต่อเนื่องมายาวนาน และในบางปีก็มีงานวันเกษตรแห่งชาติวนมาจัดร่วมกัน ทำให้งานดูยิ่งใหญ่ หลากหลายอลังการยิ่งขึ้นไปอีก 

 

 

 

 

             ในช่วงการจัดงานของทุกปี มักมีวาระและโอกาสสำคัญด้วยคือการคืนถิ่นของบรรดาศิษย์เก่าที่จบออกไปรับใช้สังคมในทั่วทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่องนานนับ 76 ปีมาแล้ว โดยที่ทุกคนยังระลึกถึงสถาบัน บุคลากร และเพื่อน พี่ น้อง อยู่ตลอดมา และทุกๆ เทศกาลนี้เหล่าบรรดานิสิตเก่าก็มักเดินทางมุ่งสู่งานคืนสู่เหย้าในโอกาสนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงานเกษตรแฟร์ ยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่รู้จักงานแฟร์ทางการเกษตรยิ่งขึ้น ให้ประทับรอยจารึกในใจเราตลอดเรื่อยมา

              งานปีนี้มีการออกร้านตามล็อกที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้เป็นหมวดหมู่ ตามกลุ่มสินค้า มีทั้งการจัดแสดงและจำหน่ายไปถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ อีกทั้งมีการจัดนิทรรศการ การฝึกวิชาชีพ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ ผลไม้ อาหาร สัตว์เลี้ยง โซนกิจกรรมนิสิต ตลาดน้ำนนทรี และที่สำคัญคือยังมีการจำหน่ายพันธุ์ไม้ดอก ไม้ผล ตลอดจนไม้ประดับสวยงามร่วมสมัยอีกมากมาย ที่เป็นไปตามกระแสนิยมหรือย้อนยุคบ้าง เพื่อให้ได้เก็บหาสะสมจากที่มีมาบริการในงานนี้นั่นเอง 

                นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายตามแต่จังหวะและโอกาสจะมาถึง ผมเองได้เดินในงานครั้งนี้นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยเดินชมและร่วมกิจกรรมในงานเมื่อครั้งได้อยู่หอพักภายในผ่านมาแล้วกว่า 35 ปี ได้เห็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นโดยตลอดเรื่อยมา และปีนี้ก็นับเป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนโฉมการจัดงานให้เป็นไปในทิศทาง “กรีนแฟร์” เพื่อร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามทิศทางที่จะทำให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ โดยเริ่มจากสถาบันการศึกษาของเรา และยังเชิญชวนทุกคนหิ้วถุงผ้า ลดการใช้ถุงพลาสติก งดการใช้โฟม ร่วมกันคัดแยกขยะ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ เพื่อประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เรียกได้ว่าพ่วงหัวใจสีเขียวไปเที่ยวงานเกษตรแฟร์นั่นเอง

              พันธุ์ไม้ที่มีการนำมาออกร้านในงานจะอยู่ละแวกโซนเดียวกันโดยต่อเนื่อง มีสลับของอื่นแต่สอดคล้องกันตั้งแต่ประตู 1 เลียบคู่ขนานไปกับถนนงามวงศ์วาน ทอดยาวไปถึงโค้งมุมสนามฟุตบอล อย่างคนที่เคยเดินในปีก่อนๆ จะรู้กันดี แต่หากเพิ่งได้เดินในปีแรกคงต้องวางแผนในการเดินสักหน่อยถึงจะทั่วงาน ซึ่งแต่ละปีก็อาจได้เห็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ ไม้ประดับชนิดใหม่ๆ แบบเริ่มต้นขายสู่สาธารณะเป็นครั้งแรกในงานนี้ หรือมีชนิดพันธุ์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างไม่ทวนกระแสก็มีให้เห็นในงานนี้ด้วยเช่นกัน

       

      นับเป็นงานที่ทำให้เราได้เห็นทิศทางการผลิตและตลาด ที่พอจะคาดคะเนความเคลื่อนไหวของสินค้าหลายกลุ่ม รวมไปถึงความนิยมในกลุ่มไม้ใบประดับที่มีการเคลื่อนตัวตามเศรษฐกิจและมีการผลิตได้ดี พร้อมนำมาทำการตลาดได้ขายกระจายออกไปเพิ่มจากปีก่อนๆ ที่นับช่วงการเปิดตัวใหม่จะมีราคาสูง และยิ่งหากได้รับความสนใจมากในอดีตด้วยแล้ว ในปีถัดๆ ไปก็อาจมีการขยายเพิ่มปริมาณมากขึ้นไปด้วยตามความนิยมอย่างต่อเนื่องในสินค้า จนอาจขยายลามไปสู่งานอื่นๆ ที่จัดหลังงานเกษตรแฟร์ก็ได้

               ในท่ามกลางงานแฟร์ขนาดใหญ่ที่บรรจุร้านค้าและผู้คนที่มาจากทั่วทุกสารทิศ ทุกคนที่ได้เดินในงานล้วนมีวัตถุประสงค์สอดคล้องหรือต่างกันไปบ้าง แต่ในภาพรวมแล้วการที่จะได้เข้าไปในที่ที่ได้รวบรวมของดีมาจากแต่ละภูมิภาค หลากหลายด้วยสินค้าชั้นนำซึ่งได้มารวมกันในสถานที่เฉพาะจุดและช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยเพียงเราได้มีเวลาเข้าไปเดินชมก็เท่ากับว่าได้ย่นระยะทางและเวลาที่จะไปหาสิ่งเหล่านั้นในที่ต่างๆ ยังแต่ละจุดจัดแสดงและจำหน่ายที่ต้นกำเนิดเลยก็ว่าได้ 

              แต่หากใครที่พลาดการเก็บบรรยากาศเดินชมและเลือกช็อปก็สามารถตั้งเป้าหมายในโอกาสต่อไปช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ ที่มีการกล่าวได้ว่าให้จำง่ายว่า ใครไม่แฟร์ !! แต่ เกษตรแฟร์ !!!