ข่าว

ตะลุยดอยสูง ดูปลูก"ข้าวพันธุ์ดี"ที่บ้านนาเกียน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ - ท่องโลกเกษตร โดย - สุรัตน์ อัตตะ [email protected]

  

              วันนี้ชาวบ้านนาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นบนพื้นฐานแห่งความพอเพียงหลังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 มีพระราชประสงค์ให้นำข้าวพันธุ์ดีไปปลูกและบริโภคอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี หลังจากที่โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านนาเกียน ได้ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 โดยให้ยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินงาน 

 ตะลุยดอยสูง ดูปลูก"ข้าวพันธุ์ดี"ที่บ้านนาเกียน

              “ท่องโลกเกษตร" อาทิตย์นี้ตามองคมนตรี “พลากร สุวรรณรัฐ” ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เชิญถุงพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบแก่ราษฎรและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านนาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ พร้อมกับติดตามผลการดำเนินงานและเยี่ยมราษฎร

                องคมนตรี กล่าวว่า “บ้านนาเกียนเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากชุมชนอื่นๆ ของ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ มาก รู้สึกดีใจที่ได้มาเห็นพี่น้องชาวบ้านมีหน้าตาอิ่มเอิบสมบูรณ์พูนสุข ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ดูมีความสุขมาก คาดว่าน่าจะเป็นเพราะระบบโภชนาการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานไว้เมื่อก่อนหน้านี้ และวันนี้ได้ให้ผลผลิตมากมาย ชาวบ้านมีอาหารที่ดีมีคุณภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง รวมทั้งได้รับคาร์โบไฮเดรตที่สมบูรณ์อยู่แล้วเพราะชาวบ้านทำนาขั้นบันได ทำให้มีข้าวบริโภคตลอดทั้งปี"

 ตะลุยดอยสูง ดูปลูก"ข้าวพันธุ์ดี"ที่บ้านนาเกียน

                 พลากร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พระองค์ได้พระราชทานสิ่งจำเป็นให้เพิ่มเติมคือ เรื่องน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ชาวบ้านได้หลังจากระบบน้ำสมบูรณ์ คือ พืชผักสวนครัว ตลอดจนการเพาะปลูกไม้เมืองหนาวหลายชนิด รวมไปถึงกาแฟที่ชาวบ้านนำมาปลูกในพื้นที่บริเวณบ้าน ไม่ได้ปลูกแบบแปลงใหญ่เหมือนกับพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่บนดอยทั่วไปทางภาคเหนือ ซึ่งนอกจากจะผลิตเป็นเมล็ดกาแฟได้อย่างสมบูรณ์แล้วก็ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นกาแฟคั่วได้ด้วย ซึ่งบ้านนาเกียนมีเครื่องคั่วกาแฟที่ชาวบ้านลงทุนกันเอง คาดว่าอีกไม่กี่ปีก็จะคุ้มทุน เป็นการดำเนินการในรูปแบบของโรงงานเล็กๆ ส่วนรสชาติของกาแฟนับว่าดี เพราะปลูกในพื้นที่สูงสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอมเป็นการเฉพาะ 

              สำหรับสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านนาเกียน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 มีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือราษฎร โดยยึดแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินงาน ซึ่งพระองค์มีพระราชดำริให้นำพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางมาจัดทำเป็นพื้นที่ศึกษา ทดลอง และเป็นแหล่งเรียนรู้การทำการเกษตรอย่างถูกหลักวิชาการให้แก่ราษฎร ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่มีสภาพเสื่อมโทรม ให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ เพื่อป้องกันวิกฤติการณ์ขาดแคลนน้ำของชุมชนในอนาคต 

                ปัจจุบันสถานีพัฒนาการเกษตรฯ มีพื้นที่ดำเนินงาน 14,000 ไร่ มีหมู่บ้านเป้าหมายจำนวน 1 หมู่บ้าน คือ บ้านนาเกียน ปัจจุบันมี 156 ครัวเรือน ประชากรทั้งหมด 662 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง (โปร์) โดยผลการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานในห้วงระยะ 13 ปี ของการก่อตั้งสถานี ทำให้ราษฎรมีข้าวพืชผักและอาหารโปรตีนในการบริโภคอย่างเพียงพอ มีความรู้การทำเกษตรอย่างถูกหลักวิชาการ และได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

                   นอกจากนี้ ยังสามารถอนุรักษ์ฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่มีสภาพเสื่อมโทรม จำนวน 6,600 ไร่ ควบคู่กับการป้องกันรักษาป่าที่มีอยู่เดิมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันสภาพป่าบริเวณดอยซอยเทอลู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของชุมชน ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง เกิดความหลากหลายทางระบบนิเวศของพืชพรรณและสัตว์ป่าหายาก นกเงือกและชะนี เข้ามาอาศัยหรือหากินในบริเวณพื้นที่ป่าเพิ่มมากขึ้น และพบว่าปริมาณน้ำของลำน้ำนาเกียนซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่มีปริมาณเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จาก 51,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 60,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ชุมชนมีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคในครัวเรือน และน้ำเพื่อทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้น

           เพชรรัตน์ ประเสริฐ ราษฎรชาวกะเหรี่ยงบ้านนาเกียน ที่สมัครเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ของโครงการ และนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งหลังจากได้รับการถ่ายทอดความรู้จากเจ้าหน้าที่ของโครงการและนำมาใช้ที่บ้าน ยังได้ถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น การทำนา และปลูกผักหลังนา การปลูกกาแฟแบบสวนครัว คือปลูกในพื้นที่บริเวณบ้าน ซึ่งทางสถานีได้สนับสนุนในเรื่องของต้นพันธุ์และเมล็ดพันธุ์ให้ แรกๆ ปลูกไว้เพื่อบริโภคในครอบครัว ต่อมาผลผลิตมีมากขึ้น จึงจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนโดยนำผลผลิตมารวมกันแล้วขาย ทำให้สมาชิกมีรายได้เสริมปีหนึ่งประมาณ 2,500 บาทต่อคน

            “ปลูกกาแฟ และขยายพันธุ์พืชอื่นๆ ที่เป็นพันธุ์ไม้ป่าแล้วนำตอจากพันธุ์ท้องถิ่นมาเสียบยอดด้วยพันธุ์ดีที่ทางสถานีสนับสนุน เนื่องจากพันธุ์พืชท้องถิ่นต้นตอจะหากินเก่งแต่ผลผลิตไม่ค่อยสมบูรณ์และมีรสชาติไม่อร่อย จึงเสียบยอดโดยใช้พันธุ์ที่ดีมีคุณภาพ ก็จะได้ต้นพันธุ์ที่หากินเก่งและให้ผลผลิตที่ดีตรงตามความต้องการของผู้บริโภค”

         

            ทั้งนี้เพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวไม่เพียงพอต่อการบริโภค ในพื้นที่โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านนาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ งานพัฒนาพันธุ์ข้าวนาที่สูงได้ศึกษาพันธุ์การเปรียบเทียบผลผลิต การพัฒนาพันธุ์ข้าวนา ที่สูงให้เป็นพันธุ์บริสุทธิ์ เพื่อสนับสนุนกิจกรรม “ธนาคารข้าวพระราชทาน” พบว่า นอกจากจะได้พันธุ์ข้าวพื้นเมืองข้าวไร่ มีชื่อพันธุ์บือขะสอ และพันธุ์บือพะดู ที่เกษตรกรนิยมนำมาเพาะปลูกในพื้นที่ ทำให้ราษฎรบนพื้นที่สูงที่ทำนาแบบขั้นบันไดได้รับผลผลิตข้าวที่สมบูรณ์และเพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปี  

                นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่า การปลูกกาแฟ และมะขามป้อม โดยกาแฟเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันมีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปกาแฟบ้านนาเกียน มีสมาชิกประมาณ 20 คน มีรายได้จากผลผลิตกาแฟ ราว 140,000 บาท และคาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตและรายได้จากกาแฟจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ