ข่าว

ปั้นสหกรณ์การเกษตรเป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ ตั้งเป้า 823 แห่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปั้นสหกรณ์การเกษตรเป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ ตั้งเป้า 823 แห่ง

 

            กรมส่งเสริมสหกรณ์ชูโครงการ 1 สหกรณ์ 1 อำเภอ ปั้นสหกรณ์การเกษตรให้เป็นองค์กรหลักทางเศรษฐกิจและสังคมระดับอำเภอในทุกจังหวัดทั่วประเทศ คัดสหกรณ์เป้าหมาย 823 แห่ง พัฒนาความเข้มแข็งขององค์กรควบคู่กับการพัฒนาด้านธุรกิจ ใช้กลไกสหกรณ์ดูแลความเป็นอยู่ให้ชาวบ้านมีรายได้ที่มั่นคง สามารถปลดหนี้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

   

        วันที่ 7 ม.ค. นายพิเชษฐ์  วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในปี 2562 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการ 1 สหกรณ์ 1 อำเภอ เป็นนโยบายหลักที่จะผลักดันให้สหกรณ์การเกษตรทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักทางเศรษฐกิจและสังคมระดับอำเภอในทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรจากสมาชิกและเกษตรกรในชุมชน รวมถึงทำหน้าที่ในการส่งผ่านความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากรัฐบาลไปสู่ประชาชน  โดยภาครัฐจะใช้กลไกสหกรณ์เป็นเครื่องมือในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่และส่งเสริมรายได้ให้กับชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ให้มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้เพียงพอจนสามารถปลดหนี้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

            เบื้องต้นกรมฯคัดเลือกสหกรณ์การเกษตรที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการ 823 แห่ง และประเมินศักยภาพของสหกรณ์แต่ละแห่ง ทั้งในด้านการบริหารจัดการองค์กรและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะต้องพัฒนาควบคู่กัน เนื่องจากทั้งสองเรื่องนี้จะส่งผลต่อความเข้มแข็งของสหกรณ์  โดยแต่ละสหกรณ์จะทำแผนพัฒนาองค์กร เริ่มตั้งแต่การสร้าง ความเข้าใจในบทบาทและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิก การพัฒนากรรมการสหกรณ์และผู้นำกลุ่มสมาชิก  การเพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ายจัดการและการพัฒนาการให้บริการแก่สมาชิก และการวางระบบการบริหารงานสหกรณ์โดยยึดหลักธรรมาภิบาล  ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำเนินงานของสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่นแก่สมาชิกและประชาชนทั่วไปมากยิ่งขึ้น

            ส่วนการพัฒนาด้านการดำเนินธุรกิจ กรมฯได้แบ่งสหกรณ์ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ สหกรณ์กลุ่มที่ 1 มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจรวบรวมและแปรรูปผลผลิตการเกษตรระดับสูง จำนวน 34 แห่ง กลุ่มที่ 2 สหกรณ์มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจรวบรวมและแปรรูปผลผลิตการเกษตรระดับปานกลาง จำนวน 121 แห่ง กลุ่มที่ 3 สหกรณ์ที่ต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพการรวบรวมผลผลิต จำนวน 328 แห่งและสหกรณ์ที่ต้องได้รับการผลักดันให้ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิต จำนวน 316 แห่ง   ซึ่งกรมฯจะผลักดันให้สหกรณ์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการจัดการผลผลิตการเกษตรของแต่ละอำเภอ โดยยกระดับทั้งเรื่องคุณภาพและราคาสินค้า พัฒนากระบวนการผลิต การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างอัตลักษณ์ให้กับสินค้าสหกรณ์ในแต่ละพื้นที่  โดยกรมฯได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) อบรมความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และสินค้าของสหกรณ์ แบ่งเป็นสินค้าหลัก 13 ชนิด อาทิ ข้าว ข้าวโพด ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน อ้อย ผักและผลไม้ โคเนื้อ โคนม ประมง ปศุสัตว์และอื่น ๆ ซึ่งทางสหกรณ์จะต้องสำรวจข้อมูลการผลิตสินค้าว่าปัจจุบันนี้สมาชิกส่วนใหญ่ผลิตสินค้าชนิดใด และสินค้าเหล่านั้นช่วยสร้างรายได้มากน้อยเพียงใด

            

            โดยสหกรณ์จะต้องมีส่วนเข้ามาดูแลสมาชิกตั้งแต่เริ่มต้นการปลูก การเก็บเกี่ยวและรวบรวมผลผลิต การแปรรูปไปจนถึงการตลาด สิ่งสำคัญคือต้องเน้นย้ำให้สมาชิกผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและตรงกับ ความต้องการของผู้บริโภค  ซึ่งจะทำให้สินค้าสหกรณ์มีตลาดรองรับที่แน่นอนและสามารถขายได้ราคาดี  กรมฯคาดหวังว่า                     หากสหกรณ์เป้าหมายในโครงการ 1 สหกรณ์ 1 อำเภอ สามารถพัฒนาตัวองค์กรให้เข้มแข็งและดำเนินธุรกิจได้ประสบผลสำเร็จ ก็จะเป็นตัวอย่างให้กับสหกรณ์อื่น ๆ ได้ใช้แนวทางนี้มาพัฒนาการดำเนินงานของสหกรณ์ เพื่อให้สามารถดูแลอาชีพและความเป็นอยู่ของสมาชิก และทำหน้าที่เป็นองค์กรหลักในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละชุมชน             ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นขึ้นต่อไป

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ