การซื้อสินค้าเกษตรออนไลน์ของผู้บริโภค

                 ช่วงนี้ผมยังขอวนเวียนอยู่กับเรื่องของออนไลน์อีกสักระยะหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขียนเกี่ยวกับเรื่องการขายสินค้าเกษตรออนไลน์ของเกษตรกรไป วันนี้นึกได้ว่าในช่วงปีที่แล้วมีนิสิตปริญญาโทที่ดูแลขอทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการซื้อสินค้าเกษตรออนไลน์ของผู้บริโภคไทย ซึ่งก็เป็นอีกแง่มุมที่น่าสนใจ ด้วยพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ในช่วงหลังๆ นี่ชอบซื้อสินค้าออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งสินค้าทางการเกษตรด้วยเช่นกัน

              ผมเองเคยนึกสงสัยว่ามีเว็บไซต์และเพจต่างๆ รวมถึง Social commerce ที่ขายสินค้าเกษตรเกิดขึ้นมากมาย ทำให้เกิดทางเลือกกับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีร้านค้าในลักษณะออนไลน์แบบนี้เพิ่มมากขึ้นก็ล้วนเป็นคู่แข่งกัน ผู้บริโภคก็มีจำนวนและกำลังการซื้อค่อนข้างจำกัด บวกกับสินค้าเกษตรมีตลาดปกติอยู่แล้วทั้งในตลาดสดทั่วไป ห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ยังมีร้านสินค้าเกษตรปลอดภัยแบบเป็นสมาชิกอีก ยิ่งทำให้ทางเลือกของผู้บริโภคมีค่อนข้างสูง

             ดังนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นว่าลักษณะของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าเกษตรออนไลน์เป็นอย่างไร ผู้บริโภคซื้อสินค้าเกษตรออนไลน์ด้วยเหตุผลอะไร ซื้อสินค้าประเภทไหน ซื้อมากซื้อน้อย ความถี่และปริมาณการซื้อ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการซื้อ แต่เราศึกษาในมุมมองของนักส่งเสริมการเกษตร ซึ่งคงมีความแตกต่างไปจากมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์และนักการตลาดไปบ้าง โดยลักษณะผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าเกษตรออนไลน์ยังคงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเป็นหลัก ทำงานประจำ 

            พูดง่ายๆ ก็คือเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก และทราบข้อมูลสินค้าเกษตรจากเพจต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ เพราะทุกวันนี้ผมว่าคนไทยทุกคนอย่างน้อยก็มีสมาร์ทโฟนเป็นอวัยวะติดตัวก็ว่าได้ตั้งแต่เด็กที่พอใช้งานได้จนถึงผู้สูงอายุที่สามารถปรับตัวใช้เทคโนโลยีพวกนี้ได้ ดังนั้นข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าเกษตรจึงเข้าถึงตัวผ่านช่องทางนี้ได้ง่ายที่สุด ส่วนสินค้าที่ซื้อกันมากก็เป็นสินค้าเกษตรแปรรูปเป็นหลักในลักษณะของกิน ของใช้ และเครื่องสำอางที่มีขนาดไม่ใหญ่ สะดวกต่อการจัดส่ง ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและความเสียหาย 

             ส่วนสินค้าเกษตรที่เป็นของสดก็มีความต้องการในการซื้อที่เป็นลำดับรองลงมา ส่วนหนึ่งผู้บริโภคจะกังวลในเรื่องกลัวสินค้าเสียหายบอบช้ำและความสดใหม่ ไม่เหมือนกับการไปเลือกซื้อในตลาดด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องความหลากหลายของสินค้าที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายประเภท หลายราคานี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชอบการซื้อสินค้าแบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายที่จะต้องเดินทางออกนอกบ้านหรือที่ทำงานเพื่อไปซื้อสินค้า เนื่องจากในทุกวันนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการทำงาน การเดินทาง หรือแม้กระทั่งวันหยุดเองยังหาเวลาที่จะไปเดินตลาดจริงๆ ค่อนข้างยาก

          ในอีกด้านหนึ่ง ก่อนหน้านี้ผู้บริโภคจะมีความกังวลเรื่องการชำระเงินค่าสินค้าที่มีหลายรูปแบบ ทั้งการโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้ขายก่อน การชำระเงินผ่านตัวแทนอย่าง paypal การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การชำระแบบเก็บเงินปลายทาง แต่ในปัจจุบันเรื่องของความปลอดภัยในการชำระเงินผ่านช่องทางที่กล่าวมาข้างต้นมีระบบการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น จึงทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งก็ส่งผลให้การซื้อขายสินค้าเกิดง่ายขึ้น โดยผู้บริโภคสามารถตัดสินใจในการชำระเงินง่ายก็ส่งผลให้เกิดการซื้อขายได้ง่ายขึ้นเช่นกัน 

            นอกจากนี้โดยอุปนิสัยของผู้บริโภคไทยจะให้ความสำคัญกับการใส่ใจและดูแลลูกค้า ดังนั้นเรื่องของการสื่อสารเพื่อสอบถามความพึงพอใจและเข้าใจความรู้สึกของผู้บริโภค จึงเป็นสิ่งสำคัญมากอีกด้านหนึ่งที่ไม่ควรละเลย นิสัยคนไทยรักแล้วรักเลยครับ เปลี่ยนใจยากถ้าเจอการบริการด้านการขายดีๆ