ข่าว

 เยือนศูนย์พัฒนาอาชีพ"ลุ่มน้ำปาย"สานต่องานพระราชา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 เยือนศูนย์พัฒนาอาชีพ"ลุ่มน้ำปาย"สานต่องานพระราชดำริช่วยชาวเขา    

 

           ด้วยสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน มีที่ราบน้อย การสร้างแหล่งเก็บกักน้ำจึงมีความจำเป็นสำหรับอาชีพทำการเกษตรของเกษตรกรบนพื้นที่สูง อย่างเช่นจ.แม่ฮ่องสอน   

            “ท่องโลกเกษตร” อาทิตย์นี้ขึ้นเหนือตามดูงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นำโดยองคมนตรี “พลากร สุวรรณรัฐ” ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมคณะอนุกรรมการ เดินทางไป จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อประชุมติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ และตรวจเยี่ยมโครงการศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ (ท่าโป่งแดง) ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

                หลังจากรับฟังผลสรุปการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำที่มีอายุการใช้งานมานาน และจะต้องปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งสิ้นจำนวน 181 โครงการ แยกเป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ รวม 110 โครงการ มีโครงการที่จะต้องปรับปรุงซ่อมแซม จำนวน 12 โครงการ พร้อมกันนี้ยังได้ติดตามโครงการที่ยังคั่งค้างในพื้นที่ภาคเหนือรวม 39 โครงการ ซึ่งจากการติดตามและขับเคลื่อนโครงการของคณะอนุกรรมการฯ ที่ผ่านมาสามารถขับเคลื่อนไปแล้ว 35 โครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนอีก 4 โครงการ โอกาสนี้ องคมนตรีและคณะ ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อให้โครงการสามารถขับเคลื่อนไปได้ ทั้งนี้เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดความยั่งยืนเพื่อสร้างประโยชน์สุขแก่ราษฎรยิ่งขึ้นต่อไป

              จากนั้นองคมนตรีและคณะได้เดินทางไปยังโครงการศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปาย ตามพระราชดำริ (ท่าโป่งแดง) ต.ผาบ่อง อ.เมือง เพื่อติดตามการดำเนินงานและเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ ซึ่งเป็นศูนย์บริการและพัฒนา 1 ใน 4 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์พัฒนาลุ่มน้ำปาย ศูนย์พัฒนาที่สูงปางตอง ศูนย์พัฒนาในสอยและศูนย์พัฒนาห้วยมะเขือส้ม ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2522 เพื่อช่วยเหลือราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยพื้นราบ ไทยใหญ่ และกะเหรี่ยง ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างทั่วไป ให้มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในบริเวณพื้นที่ชายแดนให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น

               โดยดำเนินการในลักษณะพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นกรอบแนวทางดำเนินงานควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ และการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แบ่งการดำเนินงานเป็น 9 ฐานเรียนรู้ ได้แก่ ฐานเรียนรู้ด้านการจัดการน้ำ สร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการประกอบอาชีพของเกษตรกร ฐานเรียนรู้ด้านป่าไม้ ส่งเสริมให้ราษฎรอนุรักษ์สร้างป่า สร้างรายได้และอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน ฐานเรียนรู้ด้านไฟป่า สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การป้องกันไฟป่า 

                ฐานเรียนรู้ด้านดิน ส่งเสริมการอนุรักษ์ดินและน้ำ การปรับปรุงดินด้วยการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ การปลูกหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริ ฐานเรียนรู้ด้านพืช จัดทำแปลงต้นแบบการปลูกพืช เช่น มะคาเดเมีย กาแฟ มะนาว มะม่วง ฝรั่ง โกโก้ แปลงเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ แปลงผลิตพืชอินทรีย์ และการเพาะขยายพันธุ์ไม้ ฐานเรียนรู้ด้านข้าว จัดทำแปลงเรียนรู้ด้านการผลิตข้าวหลายสายพันธุ์ เช่น ข้าวขาวดอกมะลิ 105, ข้าวพันธุ์ กข อาทิ กข16 กข 21 ฯลฯ ข้าวหอมนิล ฐานเรียนรู้ด้านปศุสัตว์ ดำเนินการเลี้ยงอนุรักษ์สัตว์ในท้องถิ่น และสัตว์หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ เพื่อกระจายสัตว์พันธุ์ดีสู่เกษตรกร รวมทั้งจัดทำแปลงสาธิตการปลูกพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์

       

 

       ฐานเรียนรู้ด้านประมง ผลิตพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อแพร่ขยายพันธุ์ปล่อยในแหล่งน้ำปีละ จำนวน 1 ล้านตัว เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในโครงการ “รักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน” ลุ่มน้ำปาย ส่งเสริมการเลี้ยงปลาในบ่อดิน และฐานเรียนรู้ด้านการจัดการฟาร์ม ส่งเสริมสนับสนุนการประกอบอาชีพให้เกษตรกรถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร ส่งเสริมการทำเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ยังได้จัดทำแปลงเรียนรู้กล้วยไม้ พืชสมุนไพรต่างๆ แปลงกุหลาบตามพระราชเสาวนีย์ และขยายผลไปยังหมู่บ้านเครือข่ายอีกด้วย

               ปัจจุบันนี้ ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายฯ ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จครบทุกด้าน รวมทั้งดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อต่างๆ เพื่อให้ราษฎรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ทั้งนี้เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็สร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศชาติยิ่งขึ้นต่อไป 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ