ข่าว

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นเศรษฐกิจเมืองประมงสู่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน      

 

                “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” คำขวัญจ.สมุทรสาคร เมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การประมง และเกษตรกรรม จากข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ประจำปี พ.ศ 2558 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) พบว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของจ.สมุทรสาคร ยังคงขยายตัวจากปีก่อน และยังเป็น 1 ใน 10 ของจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัวอยู่ในระดับสูงตลอดมา 

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

               “สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพเพียบพร้อม ทั้งในด้านอุตสาหกรรม การประมง เกษตรกรรม หัตถกรรม การท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สมดังคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” และยังมีทำเลที่ตั้งที่ติดกับกรุงเทพมหานคร สะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยสินค้าอย่างหลากหลายที่ขึ้นชื่อของจังหวัด”

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

                 ถ้อยแถลงเชิญชวนของ "ประภัสสร์ มาลากาญจน์" ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ระหว่างเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์” (SAMUTSAKHON ON THE SHOW) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 สิงหาคม ณ ลานกิจกรรมสแควร์โซน C ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และบริเวณชั้น 3 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นงานมหกรรมที่นำเสนอของดีจังหวัดสมุทรสาคร ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้สัมผัส ณ กลางใจกรุง ในรูปแบบทันสมัยและแปลกใหม่ที่ผู้เข้าชมงานจะต้องอัศจรรย์ใจ

                อย่างไรก็ตาม ศักยภาพเหล่านี้อาจยังไม่ได้รับการชูบทบาทให้โดดเด่น เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของสาธารณชนและดึงดูดความสนใจให้ทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเยือน จ.สมุทรสาคร ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างประสบการณ์ให้อย่างสุดประทับใจ ซึ่งในแผนพัฒนาจังหวัด ปี 2561-2564 ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดเอาไว้ว่า “เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เกษตรและอาหารปลอดภัย ท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ สังคมเป็นสุข” 

 

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

                  เนื่องจาก จ.สมุทรสาคร มีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เหมาะกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรือแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่บันทึกในประวัติศาสตร์เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ผู้ซื่อสัตย์ จงรักภักดี และป้อมวิเชียรโชฎก ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อป้องกันข้าศึกทางทะเลเหมาะแก่การเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์

                นอกจากนี้ยังมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนสินค้าโอท็อป เครื่องปั้นดินเผา ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ผล ดูจากข้อมูลตัวเลข ในปี 2559  ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยือน จ.สมุทรสาคร ทั้งไทยและต่างชาติรวมทั้งสิ้น 1,443,746 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2.38% และมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 2,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5.89%

                  ส่วนสินค้าโอท็อป มีผลิตภัณฑ์จำนวน 268 ราย รวม 572 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดก็คือ เครื่องเบญจรงค์ ทำให้ จ.สมุทรสาคร มีรายได้จากผลิตภัณฑ์โอท็อปในปี 2560 รวมทั้งสิ้น 3,274 ล้านบาท เฉพาะเครื่องเบญจรงค์อย่างเดียวก็ทำรายได้ถึง 108 ล้านบาท 

                    ถึงกระนั้นความโดดเด่นของสมุทรสาคร นอกจากมีผลิตภัณฑ์เด่นๆ แล้วยังสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าาสนใจอีกมากมายทั้งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม  เช่น ท่าฉลอม ซึ่งยังคงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์ของชุมชนดั้งเดิม และเป็นก้าวแรกของชุมชนจีนในสยาม หรือบ้านแพ้ว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน และยังจะได้ชมการประดิษฐ์งานฝีมือเบญจรงค์ที่ผสานไว้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างลงตัว 

                “จะมีของดีจาก 3 อำเภอ 3 สไตล์ เมืองสมุทรสาคร กระทุ่มแบน และบ้านแพ้ว ในจัดแสดงในงานให้ได้สัมผัสกัน ส่วนแผนการท่องเที่ยวโดยหลักแล้วจะเป็นวันเดย์ทริป พี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานครก็ไปเยี่ยมไปชมไปกิน ไปสัมผัสบรรยากาศของเมืองประมงแล้วกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ จากกรุงเทพฯ” ผู้ว่าฯสมุทรสาครกล่าวเชิญชวน 

              นับเป็นอีกงานใหญ่ของจังหวัดสมุทรสาครที่นำของดีมาโชว์กลางกรุงให้คนเมืองได้สัมผัส

   

                                            

 ยกระดับ“ท่าฉลอม”สู่ท่องเที่ยวเชิงชุมชน 

             ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม รองประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง(วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด กล่าวถึงการจัดทำโครงการนำร่องท่าฉลอม ซึ่งเป็นตำบลที่เคยรุ่งเรืองในอดีตและเคยเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและคมนาคมมาก่อน แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นชุมชนที่เงียบเหงา โดยประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่เป็นเด็กและคนชรา อันเป็นผลพวงจากอาชีพประมงที่ซบเซาทำให้หลายคนต้องเลิกทำประมงและอาชีพที่เกี่ยวข้องส่งผลให้เศรษฐกิจของท่าฉลอมตกต่ำไปอย่างมาก ขณะที่คนหนุ่มสาวย้ายไปหางานทำที่อื่น

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

           “สมัยก่อนตำบลท่าฉลอมเจริญกว่าตำบลมหาชัยมาก แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าม การจัดทำโครงการนำร่องโดยการฟื้นชุมชนเก่าแก่ของท่าฉลอมที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายความเป็นอดีตจะทำให้ตำบลแห่งนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง” 

           เขายอมรับว่าท่าฉลอมเป็นชุมชนที่มีจุดน่าสนใจหลายประการ ส่วนใหญ่คนไทยรู้จักท่าฉลอมผ่านบทเพลง “ท่าฉลอม” และยังเป็นตำบลแห่งแรกของไทยที่ถูกจัดตั้งให้เป็นสุขาภิบาลหัวเมืองเมื่อปี 2448 ในสมัยรัชกาลที่ 5 และยังโดดเด่นด้วยรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง ซึ่งเริ่มเดินรถในปี 2450 นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ จนเป็นที่มาของคำว่า “ท่าจีน” ในปัจจุบัน อันเป็นต้นกำเนิดของจ.สมุทรสาคร

         โดยจุดสนใจเหล่านี้ สมุทรสาครพัฒนาเมืองได้นำมาใช้เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่ท่าฉลอมและได้เริ่มดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงชุมชนเพื่อการพัฒนาเมืองมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 จนปัจจุบัน โดยมีการจัดตั้ง “บ้านท่าฉลอม” ให้เป็นศูนย์ท่องเที่ยวและกิจกรรมชุมชนของท่าฉลอมเพื่อให้เป็นศูนย์ที่ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวและประวัติเรื่องราวที่น่าสนใจของท่าฉลอม รวมทั้งเป็นศูนย์ที่ใช้สำหรับจัดกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนท่าฉลอมอีกด้วย

 

 "สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์" ฟื้นศก.เมืองประมงสู่ความยั่งยืน

        “สิ่งเราได้ดำเนินไปแล้วในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาคือมีการจัดประชุมกับชุมชนท่าฉลอมหลายครั้งในหลายพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมเพื่อให้ทราบถึงประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับ มีการอบรมอาสาพัฒนาเมืองเพื่อช่วยงานและกิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ ปัจจุบันมีอาสาพัฒนาเมืองแล้วประมาณ 50 คน มีการซ่อมแซมสามล้อรับจ้างถีบฟรีทั้งหมดจำนวน 20 คัน มีการจัดทำแผนที่ท่องเที่ยว มีโครงการความร่วมมือกับ ม.มหิดล นิด้า และคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร ในการอนุรักษ์และจัดทำแผนชุมชน เป็นต้น” รองประธานสมุทรสาครพัฒนาเมืองแจงรายละเอียดการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ก่อนพาเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ใน ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ