ข่าว

สืบสาน"เกษตรทฤษฎีใหม่"!!ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์"รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยจัดโครงการ 5 ประสานสืบสาน"เกษตรทฤษฎีใหม่"

 

          7 สิงหาคม 2561 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย จึงได้จัดทำโครงการ 5 ประสานสืบสาน “เกษตรทฤษฎีใหม่” ขึ้น เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาตั้งแต่ปี 2560  

 

          โดยส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีความสมัครใจจาก 882 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 70,000 ราย และปี 2561 วางเป้าเกษตรกรเข้าร่วมอีก 70,000 ราย โดยน้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองอย่างเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ของเกษตรกรตามภูมิสังคมของแต่ละพื้นที่ 

 

สืบสาน"เกษตรทฤษฎีใหม่"!!ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้

 

            ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานหนึ่ง ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการ 5 ประสานสืบสาน“เกษตรทฤษฎีใหม่” ตั้งแต่ปี 2560 โดยสนับสนุนให้เกษตรกรนำแนวทางทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการเกษตร ในพื้นที่ของตนเองตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับพื้นที่ของเกษตรเพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือน และมีรายได้เสริม  ซึ่งจากผลดำเนินงานร้อยละ 80 ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีการปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตเป็นแนวเกษตรทฤษฎีใหม่และสามารถลดรายจ่ายในในครัวเรือนร้อยละ 30 จากรายจ่ายเดิม 

 

          นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ส่วนแผนงานในปี 2561ได้วางเป้าพัฒนาแปลงสู่เกษตรทฤษฏีใหม่เต็มรูปแบบ  ทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริม  ผลผลิตที่เหลือจากการบริโภค นำมาแบ่งปันและนำไปขายเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย  และสามารถทำให้ “พอแบ่ง” ด้วยการขยายพื้นที่เพิ่ม  มีกิจกรรมที่หลากหลายขึ้นเพื่อผลผลิตจะได้เหลือแบ่งปันและมี “รายได้เสริม” หลังจากทฤษฏีในขั้นแรกจะมุ่งทำให้ “พอกิน”  โดยการเปิดสมัครเกษตรกรที่มีความพร้อมที่ “ระเบิดจากข้างใน” หรือเกษตรกรที่มีความตั้งใจจริงที่จะทำเกษตรกรทฤษฏีใหม่ด้วยตนเอง ซึ่งกรมวิชาการเกษตร จะทำหน้าที่ในการสนับสนุนปัจจัยในการผลิตควบคู่กับการถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกร

 

สืบสาน"เกษตรทฤษฎีใหม่"!!ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้

 

          “ในปี 2561กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรกลางการปรับแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปปรับแนวคิดสร้างแรงจูงใจกับเกษตรกรในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ที่ถูกต้องสามารถนำไปประยุกต์ตามแนวทางแต่ละขั้นได้  ประกอบด้วยวิชาแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  เกษตรทฤษฎี   การลดต้นทุนการผลิต การลดรายจ่าย  การสร้างผลผลิตหรือสร้างรายได้  การจัดทำบัญชีครัวเรือน  บัญชีต้นทุนการผลิต เป็นต้น”

 

          ลุงถนอม มณีแสง  วัย 67 ปี ซึ่งเป็นเกษตรกรตำบลหูช้าง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัย  นับเป็นอีกเกษตรกรต้นแบบที่สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามรอยในหลวง รัชกาลที่ 9  บนพื้นที่ 12 ไร่  ด้วยการปลูกพืชผสมผสานหลากหลาย  ทั้งกล้วย มะนาว ฝรั่ง ไม้ยืนต้นสร้างรายได้ให้ครอบครัวอย่างเป็นกอบเป็นกำ

 

สืบสาน"เกษตรทฤษฎีใหม่"!!ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้     

 

          ลุงถนอม เล่าว่าเดิมที่ปลูกพืชล้มลุก เช่น ปลูกคะน้า ปลูกข้าวโพดกิน รายได้เดือนหนึ่งก็ประมาณ 4-5 พัน บาท ครอบครัวมี 2 คน ตายาย ตอนนั้นพอกินพอใช้ เพราะปลูกข้าวกินเอง จากนั้นสมัครเข้าสู่โครงการทฤษฎีใหม่ของกรมวิชาการเกษตรในปี 2560 โดยหน่วยราชการได้นำพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์มาให้  อาทิ  นำไก่  เป็ด  ปลา ผัก มะพร้าว ให้พันธุ์พืช การยึดแนวทางพ่อหลวงทำให้มีรายได้ดีขึ้น จากการปลูกพืชที่หลากหลาย  ต้นทุนลดลง  ตอนนี้สวนสามารถขายฝรั่งได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท รายได้เพิ่มขึ้น 1 เท่า ยังไม่รวมถึงพืชผลอื่นๆ อีกหลายชนิด  นอกจากนี้ ยังได้รับการอบรมทำบัญชีครัวเรือน ซึ่งทำให้เห็นค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน สามารถนำมาควบคุมต้นทุนได้ง่ายขึ้น จะเห็นว่าถ้าค่าใช้จ่ายมากไป ก็สามารถเซฟลงมาได้ ควบคุมต้นทุนได้

 

          “การยึดแนวเกษตรปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ครอบครัวมีรายได้มั่นคงขึ้น ให้เราทำมาหากิน ทำให้รายได้เพิ่ม มีทั้งพืชระยะยาว และระยะสั้น มันสำปะหลังคือพืชระยะยาว ปลูกรวม ๆ กันไป ฝรั่งขายได้กิโลกรัมละ 20 บาท พันธุ์กิมจู ถ้าขายส่งกิโลกรัมละ 10 บาท มันสำปะหลังประมาณ 6 ไร่ ที่ข้างๆ เค้าทำยังไม่ถึงฤดูเค้ากลัวเน่า ยังไม่ถึงฤดูที่จะเก็บเกี่ยว มันสำปะหลังเราขายป้อนโรงงาน ตอนนี้ไม่ต้องวัดเปอร์เซ็นต์เค้าซื้อ 2,200 บาท ต่อ 1 ตัน ของลุงจำนวน 6 ไร่ได้ประมาณ 4 ตัน ต่อ 10,311 เดือน” 

 

สืบสาน"เกษตรทฤษฎีใหม่"!!ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้

 

          ขณะที่ นายธนกร บัวสังข์ และ นางกมล บุญเกิด สองสามีภรรยา เกษตรกรตำบลบ้านใหม่คลองเคียน  อำเภอบ้านไร่  จังหวัดอุทัยธานี  หันหนีชีวิตมนุษย์เงินเดือนจากหนุ่ม-สาวโรงงานกลับมาพลิกแผ่นดินบ้านเกิดบนพื้นที่ 7ไร่ทำฟาร์มเห็ด ปลูกข้าวไรท์เบอร์รี่  เลี้ยงปลา เป็ด ไก่ผสมผสมกันอย่างลงตัว โดยได้เริ่มเข้าโครงการ “เกษตรทฤษฎีใหม่” เมื่อปี 2560 

 

          นายธนกร กล่าวว่า เดิมเป็นหนุ่มสาวชาวโรงงานอยู่กรุงเทพฯ มองว่าระบบโรงงานเป็นอาชีพที่ไม่ยั่งยืนรายได้ 2 คนรวมกัน 4 หมื่นบาท  จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดหันมาทำเกษตร แต่ก่อนจะมาทำเกษตรก็ไปดูงานหลายๆ ที่ เช่น อ่างทอง สระบุรี เรีบนรู้การทำเห็ด ซึ่งไม่ต้องลงทุนเยอะ ก็ทำได้ และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทุกอาทิตย์ อาทิตย์หนึ่งเฉลี่ย 40 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 70 บาท รวมทั้งเดือนประมาณ 12,000 บาท  รวมทั้งได้ปลูกผักไว้กินเอง เลี้ยงเป็ด เลี้ยงปลา เสริมรายได้ 

 

สืบสาน"เกษตรทฤษฎีใหม่"!!ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้

 

          “การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำให้ชีวิตเราอยู่ดีมีสุข คือ ได้กินของที่ปลอดภัย ปลูกผักกินเองไม่ต้องซื้อแถมประหยัดเรื่องพลังงานไม่ต้องใช้ตู้เย็น   เพราะผลผลิตเก็บกินสดๆ ตลอดปี”  

 

          ทั้งหมด คือ แนวทางของในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยมุ่งหวังจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อันเกิดจากการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ครอบครัว และชุมชน โดยการสร้างอาชีพอย่างเหมาะสมกับทรัพยากรและปัจจัยการผลิตที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ