ข่าว

 ถอดบทเรียน"เลี้ยงผึ้งชันโรง"ผสมเกสรพืชผลการเกษตร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ - ท่องโลกเกษตร

  

แม้ผึ้งชันโรงจะมีประโยชน์มหาศาลในการผสมเกสรไม้ผลช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต ทว่าเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงผึ้งผิดประเภทหรือเลี้ยงชันโรงไม่ถูกวิธีอาจสร้างความเสียหายแก่ผลิตผลทางการเกษตรได้ ด้วยเหตุนี้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง จึงได้เปิดเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการถอดบทเรียน “ผึ้งชันโรงเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจทางการเกษตร” ผ่านระบบทางไกลของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.จันทบุรี เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

โดยมุ่งเน้นให้เจ้าหน้าที่ได้พัฒนาตนเองให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานด้วยการนำการเรียนรู้ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (e–Learning) มาให้ความรู้และพัฒนาบุคลากร เพื่อเสริมสร้างทักษะให้แก่เจ้าหน้าที่และเกษตรกรให้สามารถปฏิบัติงานด้านการเกษตรในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

“ที่ผ่านมาสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง ได้มีการสร้างการรับรู้ ด้วยการพัฒนารูปแบบ การดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเป็นกลไก พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกร เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอและไม่สามารถเข้าถึงตัวเกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง จึงได้ผลิตบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาในหลากหลายรูปแบบ มีการเผยแพร่ผ่านระบบออนไลน์หน้าเว็บไซต์ของสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่และเกษตรกรที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก สามารถศึกษาได้ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา" 

ชาตรี บุญนาค ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดสัมมนา โดยเนื้อหาของบทเรียนประกอบด้วย ความสำคัญและลักษณะทั่วไปทางชีววิทยาของผึ้งชันโรง การจัดการการเลี้ยงผึ้งชันโรง ประโยชน์และการสร้างมูลค่าเพิ่มของผึ้งชันโรง การแปรรูปผลิตภัณฑ์ผึ้งชันโรง พร้อมทั้ง กรณีศึกษาจากเกษตรกรผู้ใช้ประโยชน์จากการเลี้ยงผึ้งชันโรงเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยใช้ผึ้งชันโรงเป็นตัวช่วยผสมเกสรให้พืชผลทางการเกษตรทำให้มีการติดผลมากขึ้น

เห็นได้จากความสำเร็จของ สวัสดิ์ กิจเจริญ เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งชันโรง ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี หนึ่งในเกษตรกรที่เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ ซึ่งได้นำผึ้งชันโรงมาเลี้ยงเพื่อใช้ผสมเกสรในสวนผลไม้ มากว่า 10 ปี ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรที่ปลูก ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เพิ่มปริมาณผลผลิต และจากความสำเร็จนี้จึงทำให้มีเกษตรกรรายอื่นๆ เดินทางมาศึกษาเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งชันโรง เพื่อนำไปเลี้ยงในพื้นที่สวนของตนเองเพิ่มขึ้นทุกปี

“ที่ผ่านมาเกษตรกรส่วนใหญ่แทบจะไม่รู้จักผึ้งชันโรง บางรายมีการนำผึ้งชนิดอื่นมาเลี้ยง แต่ก็ต้องประสบปัญหา เนื่องจากผึ้งชนิดอื่นออกหากินไกลจากรัง และเกษตรกรบางรายมีการนำสารเคมีมาใช้ในแปลงเพาะปลูกทำให้ผึ้งตาย ขณะที่ผึ้งชันโรงหากินใกล้ จึงไม่เป็นปัญหาในเรื่องนี้ และผึ้งชันโรงยังเป็นผึ้งที่ขยันออกหากิน ทำให้การผสมเกสรเป็นไปได้ดีกว่า”  สวัสดิ์ เผยข้อมูล

ขณะที่ผลไม้มีเปอร์เซ็นต์การติดผลเพิ่มขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังช่วยลดเรื่องการใช้สารเคมีและปุ๋ย ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตลดลงได้ไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ผลผลิตมีความสมบูรณ์และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เกษตรกรเกิดความพึงพอใจ และเชื่อมั่นว่าการเลี้ยงผึ้งชันโรงสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้จริง

ทางด้าน ชยุทกฤดิ นนทแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดจันทบุรี ระบุว่า บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (e–Learning) เรื่อง “ผึ้งชันโรงเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจทางการเกษตร” ที่กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร เขต 3 จังหวัดระยอง ได้ผลิตออกมานี้ จะนำไปขยายผลลงสู่สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอ เพื่อให้เกษตรกรที่สนใจการเลี้ยงผึ้งชันโรงเป็นตัวช่วยในการผสมเกสร สามารถเข้าไปศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเองในทุกๆ ขั้นตอน

จากประสบการณ์ในการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชันโรง มากว่า 25 ปี ยังมีแนวคิดที่จะให้เกษตรกรเลี้ยงผึ้งชันโรงเพื่อเป็นแมลงช่วยผสมเกสรพืชผลทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต มากกว่าการนำน้ำหวานของผึ้งชันโรงมาจำหน่าย เนื่องจากน้ำหวานของผึ้งชันโรงนั้น มีราคาแพง หายาก และเกรงว่าในอนาคตหากมีความต้องการในน้ำหวานของผึ้งชันโรงมากขึ้น วัตถุประสงค์และการใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของผึ้งชันโรงที่ใช้เป็นตัวช่วยผสมเกสรก็จะเปลี่ยนไป

“ผมเน้นส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงผึ้งชันโรง เพื่อเป็นแมลงผสมเกสรพืชเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพราะการที่เกษตรกรเลี้ยงผึ้งชันโรงมากขึ้น การใช้สารเคมีก็จะลดลง และจากนั้นผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้ง รวมถึงผลผลิตจากพืชที่ผึ้งชันโรงช่วยผสมเกสร ก็ปราศจากสารเคมีและสารพิษ ซึ่งสุดท้ายก็คือ สุขภาพของเกษตรกรที่ดูแลแปลงเพาะปลูกและของผู้บริโภคจะปลอดภัย ห่างไกลจากสารเคมี" ชยุทกฤดิ กล่าวย้ำ

ผึ้งชันโรง จึงนับเป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรสวนผลไม้ในปัจจุบัน และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการใช้ผึ้งชันโรงผสมเกสรพืชผลทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ