ข่าว

"สอบ"เลขาฯสปก.ถ่วงเอาคืนที่ดินสวนปาล์มชุมพร !!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รมว.เกษตรฯ"ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริงเลขาธิการสปก.  เหตุถ่วงการเอาคืนที่ดินสวนปาล์มชุมพรจากนายทุน       

          14 มิถุนายน 2561 นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง  นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(สปก.)  

 

 

กรณีที่ไม่เร่งรัดดำเนินการเรียกที่ดินคืนจากจากบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด  จำนวน  6 พันไร่ แปลงที่ 83   จังหวัดชุมพร  ทั้งที่สำนักงานกฤษฏีกาได้มีหนังสือตอบกลับมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2560  ว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินของสปก.แล้ว ตั้งแต่สปก.มีแผนงานโครงการกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมาย ตามที่มีคำสั่งคสช.ที่ 36/2559 ใช้มาตรา 44 เรียกคืนที่ดินจากผู้ถือครองรายใหญ่โดยมิชอบ และกรมป่าไม้ ได้ยอมรับว่าที่ดินดังกล่าวไม่ผูกพันกับกรมป่าไม้แล้ว แต่เมื่อสอบถามความคืบหน้า กลับได้รับคำตอบว่ากฤษฎีกายังไม่ตอบกลับมา ทำให้ตนต้องมาเร่งรัดดำเนินการเอง  ทั้งที่เป็นหน้าที่ของเลขาฯสปก.ตามคำสั่งคสช. ที่ 36/2559   เมื่อตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงก็จะได้รู้ว่าเหตุจากความล่าช้าคืออะไร เพราะขณะนี้ประชาชนกว่าเกือบพันคน รอที่ดินดังกล่าว 


สำหรับประเด็นสำคัญที่ต้องสอบก็คือ เมื่อกฤษฏีกาตอบมาเช่นนั้น ทำไมสปก.ไม่เข้าดำเนินการ และเมื่อได้สอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ก็ได้รับคำตอบจากเลขาธิการสปก. ไม่ชัดเจน   โดยตนเป็นฝ่ายนโยบาย ที่เพิ่งเข้ามาก็ต้องรัดกุม  จนต้องมีหนังสือด่วนที่สุด ที่กษ. 1204/2728  ลงวันที่  18 พ.ค.  2561  เรียนรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)  เพื่อขอทราบผลการพิจารณาของกรมป่าไม้ กรณีที่แปลงที่ 83  แปลงในการครอบครองของบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด 6,083   ไร่  

 

ขอให้ยืนยันอำนาจอีกครั้งเพื่อจะได้เข้าดำเนินการและจะได้ไม่มีปัญหาขัดแย้งระหว่างสองหน่วยงาน เมื่อกรมป่าไม้ยังไม่ตอบ  ทำให้ฝ่ายนโยบายต้องมีคำสั่งให้สปก.จังหวัดชุมพร ชะลอการเข้าไปยึดคืนพื้นที่ทั้งที่ได้เตรียมแผนร่วมกับฝ่ายความมั่นคงแล้ว  ตามแผนวันที่  12 มิ.ย.  2561และเมื่อวันที่  12 มิ.ย. วันเดียวกันทราบว่า รักษาการอธิบดีกรมป่าไม้ ได้มีหนังสือด่วนที่สุดว่าได้แจ้งรมว.ทส. ว่าได้มีหนังสือถึงสำนักทรัพยากรป่าไม้เขต 11 และสปก.จังหวัดแล้วว่า  ที่ดินไม่อยู่ในอำนาจของกรมป่าไม้ มาตั้งแต่ 15พ.ย.2560 และ 9 ก.พ. 61   ว่าเป็นอำนาจของสปก.   

"ดังนั้นชัดเจนว่าเป็นที่ดินสปก. ทำไมเลขาธิการสปก.ไม่มีการสั่งการเข้าดำเนินการ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่มีแผนจะเข้าดำเนินการ 12มิ.ย.61  แทนที่จะรายงานให้ผมเข้าใจว่าเหตุการณ์ถึงไหนแล้วเพื่อดำเนินการ  ยังตอบผมไม่ได้ จนต้องมีหนังสือถามกันไปมา และสุดท้ายกลายเป็นว่า สปก. ไม่เข้าไปดำเนินการเอง ก็ต้องสอบออกมาว่าเพราะอะไรถึงไม่ดำเนินการ    ซึ่งเมื่อวันที่  13 มิ.ย.  ผมได้สั่งการให้สปก.จังหวัดชุมพรเดินหน้าตามแผนและขอหมายจากศาลเข้าไปในพื้นที่  "นายกฤษฏา กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีดังกล่าว  กรมป่าไม้แจ้งว่า ได้มีหนังสือถึงสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดชุมพร ทราบตั้งแต่วันที่ 31  มี.ค. 60  แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงผลการรือเรื่องอำนาจในการบริหารที่ดินแปลงที่ 83  ของบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด จำนวน  6 พันไร่  และวันที่ 15 พ.ย. 60  และในวันที่  9 ก.พ. 2561 กรมป่าไม้ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ทส. 1602.3/2535-36  แจ้งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 สุราษฏร์ธานี  ถึงผลการพิจารณาของกฤษฎีกา ว่าพื้นที่ป่าดังกล่าวไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าที่ไม่มีภาระผูกพันกับกรมป่าไม้อีกต่อไป  ให้กระทรวงเกษตรฯโดยเลขาธิการฯสปก.ประสานกับสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินการในพื้นที่ต่อไป  

 

นอกจากนั้น เมื่อวันที่  12 มิ.ย.  61  รองปลัดกระทรวงทรัพย์ รักษาการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ได้มีหนังสือตอบปลัดกระทรวงทส. ยังอ้างถึง หนังสือของสำนักการอนุญาตกรมป่าไม้ เรียนอธิบดีกรมป่าไม้ลงวันที่ 11 มิ.ย. 61  ว่าได้คืนคำขออนุญาตของบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด ที่ได้ยื่นกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 คืนไปแล้ว และเพื่อไม่ให้เอกชนนำมาอ้าง ยังให้จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 สุราษฏร์ธานี  ส่งหนังสือในบริษัทเอกชนด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ