ข่าว

"อัดงบ"กว่า 4 แสนล้านภาคเกษตรยังวนที่เดิม !!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กฤษฏา"สรุป 4 ปีรัฐบาลอัดงบกว่า 4.66 แสนล้าน บวกเงินกู้อีก 4 แสนล้าน ทุ่มช่วยเกษตรกร แต่ยังวนหว่านงบในมาตรการแบบเดิมเกือบทุกยุค"

 

           19 พฤษภาคม 2561“กฤษฏา"สั่งระดมสมองทั้งกระทรวงส่องหารูปแบบใหม่จัดการบริหารภาคเกษตรได้ผลจริงยั่งยืน สรุป 4 ปีรัฐบาล อัดงบกว่า 4.66 แสนล้าน บวกเงินกู้อีก 4 แสนล้าน ทุ่มช่วยเกษตรกร แต่ยังวนหว่านงบในมาตรการแบบเดิมเกือบทุกยุค”

 

 

          นายกฤษฏา บุญราช รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.)เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงระดมสมองเสนอแนวทางการบริหารจัดการภาคการเกษตรใหม่มายังส่วนกลางด้วย จากสถิติข้อมูลเงินงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ราคาผลผลิตทางการเกษตรทั้งประเภทพืช ปศุสัตว์และประมงตกต่ำและส่วนใหญ่จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งในรูปจ่ายเงินชดเชย การประกันราคาผลผลิตหรือการรับจำนำผลผลิตหรือการใช้งบประมาณซื้อผลผลิตทางการเกษตรในราคานำตลาด

 

         " โดยจะเห็นได้ว่างบประมาณจำนวนมากในการช่วยเหลือเกษตรกรเป็นเงินกว่า 4.66 แสนล้านบาท และกรอบเงินกู้อีกกว่า 4 แสนล้านบาท แต่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรก็เป็นมาตรการเดิม ๆ ที่เคยใช้มาแล้วเหมือน ๆ กันเกือบทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นหากเราเอาเงินงบประมาณดังกล่าวมาตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร เรียกว่า  กองทุนเกษตรกรรมประชารัฐ   "

 

"อัดงบ"กว่า 4 แสนล้านภาคเกษตรยังวนที่เดิม !!!

 

         ซึ่งเสนอกฎหมายรวมกองทุนต่าง ๆ ของกระทรวงในปัจจุบันซึ่งมีจำนวน13 กองทุนให้เหลือเพียง 1 - 2 กองทุนและกำหนดระเบียบกติกาการใช้เงินกองทุนใหม่ สำหรับเงินหมุนเวียนที่จะนำเข้าส่งเข้ากองทุนเพิ่มในแต่ละปี อาจจะขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลให้นำเงินค่าธรรมเนียมส่งสินค้าเกษตรออกไปต่างประเทศบางส่วนหรือแบ่งจากภาษีอากรสินค้าเกษตร

 

        

ทำระบบใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรอย่างยั่งยืนมีประสิทธิภาพโดยออกเป็นกฎหมายหรือระเบียบกำหนดให้กองทุนเป็นกลไกช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องการหลักประกันหรือความคุ้มครองในการประกอบอาชีพทางการเกษตรจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขคำแนะนำหรือข้อกำหนดของกระทรวงหรือหน่วยงานรัฐ ซึ่งเกษตรกรที่จะได้รับความคุ้นครองจากกองทุน จะต้องปลูกพืชหรือทำการปศุสัตว์หรือทำการประมงตามแผนการผลิตที่กระทรวงหรือหน่วยงานรัฐกำหนดสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยสามารถวางแผนการผลิตได้ล่วงหน้าไม่ล้นตลาด

 

"อัดงบ"กว่า 4 แสนล้านภาคเกษตรยังวนที่เดิม !!!

 

         มีคณะกรรมการกองทุนฯขึ้นมาทำหน้าที่วางมาตรรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรเหมือนกับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีวิธีการดูแลรักษาค่าเงินบาทหรือการรักษาราคาอ้อยและน้ำตาลตามกฎหมายอ้อยและน้ำตาล หากเกษตรกรรายใดที่เป็นสมาชิกกองทุนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อกำหนด ก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือคุ้มครองจากกองทุนฯ

 

         ทั้งนี้รายงานจำนวนงบประมาณที่ใช้ในการขับเคลื่อนและช่วยเหลือด้านการเกษตร ตั้งแต่ปี 2557- 2560 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ งบกลางสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเรื่องสินค้าเกษตรต่างๆและความเสียหายจากภัยพิบัติ รวมเป็นเงิน 103,412.27 ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีของ กระทรวงที่ใช้ในการพัฒนาภาคเกษตร  เป็นเงิน 256,427.35 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 359,839.62 ล้านบาท

 

"อัดงบ"กว่า 4 แสนล้านภาคเกษตรยังวนที่เดิม !!!

         สำหรับในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เสนอขอ ครม.ช่วยเหลือด้านสินค้าเกษตร  รวมเป็นเงินจำนวน 54,361.26 ล้านบาท และกระทรวงการคลัง เสนอขอ ครม.ช่วยเหลือด้านการเกษตร รวมเป็นเงิน จำนวน 51,972.89 ล้านบาท โดยรวมทุกส่วนราชการเป็นเงินทั้งสิ้น 466,173.77 ล้านบาท ยังมีกรอบวงเงินกู้ของ ธกส.ที่ ครม. ให้ความเห็นชอบ เป็นเงินทั้งสิ้น 402,516.04 ล้านบาท แบ่งเป็น สินค้าข้าว วงเงินกู้ 151,531.34 ล้านบาท มันสำปะหลัง วงเงินกู้ 184,972 ล้านบาท ยางพารา วงเงินกู้ 63,950 ล้านบาท ปศุสัตว์ วงเงินกู้ 2,062.70 ล้านบาท

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ