ตะลุยงานไอทีบี 2018 ที่ “เบอร์ลิน”

 

         ถือเป็นงานใหญ่แห่งปีสำหรับการท่องเที่ยวระดับโลกภายในชื่อ International Tourism Borse (ITB) 2018 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-11 มีนาคม  ที่ผ่านมา  เป็นงานมหกรรมท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก จัดครั้งแรกเมื่อปี 2509 และจัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี  มีผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาร่วมงานกว่า 180 ประเทศเพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ

       “ท่องโลกเกษตร” อาทิตย์นี้จะพาไปตะลุยต่างแดน ตามรัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา “วีระศักดิ์ โควสุรัตน์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) “ยุทธศักดิ์ สุภสร” และคณะ บินข้ามน้ำข้ามทะเลมุ่งหน้าสู่มหานครเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อเยี่ยมชมความอลังการงานสร้างของงานมหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี ภายใต้ชื่อ International Tourism Borse (ITB) 2018

       งานปีนี้จัดขึ้นที่ศูนย์จัดแสดงสินค้านานาชาติมีชื่อว่า เมสซี ฮอลล์ ซึ่งเป็นฮอลล์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ประกอบด้วยอาคารขนาดใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อกัน โดยจะแบ่งเป็นโซนๆ มีทั้งหมด 26 โซน แต่ละโซนจะมีหลายประเทศมารวมกันและเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ในส่วนของประเทศไทยถูกจัดให้อยู่โซนเอเชีย ซึ่งเป็นโซนสุดท้ายโซน 26 ประกอบด้วยประเทศต่างๆ ในอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ สปป.ลาวฯลฯ โดยได้รับการจัดสรรพื้นที่จัดแสดงจำนวน 1,700 ตารางเมตร มีการออกแบบคูหาและตกแต่งภายใต้อะเมซิ่งไทยแลนด์  ในแนวคิด Open to the new shade ของประเทศไทย ภายในมีบูธผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวทั้งเป็นหน่วยงานรัฐ อย่างกทม. ภูเก็ต พัทยา การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส และภาคเอกชน เช่น ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ อีก 83 ราย โดยการนำของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการมาออกบูธจัดแสดงในครั้งนี้

         ติดกับโซนประเทศไทยก็จะเป็นของอินโดนีเซีย เห็นสโลแกนติดหราว่าวันเดอร์ฟูล อินโดนีเซีย  ถัดมาเป็นของฟิลิปินส์และมาเลเซีย ไกลออกไปหน่อยก็จะเป็นสปป.ลาว เมียนมาร์ ซึ่งอยู่ในโซนเดียวกับจีน เกาหลีและญี่ปุ่น  จะสังเกตว่าปีนี้ของจีนและญี่ปุ่นจัดได้ใหญ่มาก มีกิจกรรมการแสดงจากแต่ละมณฑลทุกวัน ใช้สีแสงเสียงอย่างอลังการเพื่อเชิญชวนนักเที่ยว ส่วนสปป.ลาว ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เนื่องจากปีนี้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวลาวด้วย    

         หลังเดินวนเวียนอยู่ในโซนเอเชียอยู่พักใหญ่จึงเดินข้ามไปอีกฮอลล์เป็นโซน 6-7-8 ซึ่งเป็นโซนยุโรป หนึ่งในนั้นเป็นพื้นที่จัดแสดงของประเทศเจ้าภาพประเทศเยอรมนี บอกตามตรงว่ายิ่งใหญ่เอามากๆ มีการจำลองจุดเด่นของเมืองต่างๆ มาจัดแสดงไว้เป็นภาพ 3 มิติ พร้อมจัดเจ้าหนา้ที่คอยบรรยายเพิ่มเติมด้วย มีการนำตั๋วเครื่องบินจำลองของสายการบินแห่งชาติลุฟต์ฮันซามาโชว์ไว้ภายในฮอลล์ด้วย

     เพลิดเพลินกับโซนยุโรปที่ดูจะมีการนำเสนอความเป็นไฮเทคโนโลยี เมื่อลัดเลาะไปโซนอเมริกาใต้ซึ่งอยู่อีกฟากจากโซนยุโรปดูต่างกันราวฟ้ากับเหวเพราะโซนนี้จะโชว์ความเป็นธรรมชาติ ท้องทะเล ผืนป่าและทุ่งหญ้าซาฟารีจำลองเสมือนจริงยกมาไว้ภายในฮอลล์ ไม่ว่าจะเป็นโคลอมเบีย อาร์เจนตินา หรือบราซิล ล้วนมีการนำของดีจากธรรมชาติมาโชว์แข่งกันอย่างดุเดือด ขณะที่โซนทวีปแอฟฟริกาจะถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพร้อมอาหารเป็นไฮไลท์

     ขณะที่กำลังเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวของประเทศแอลจีเรีย ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของแอฟฟริกาก็เจอะเจอสาวหน้าตาคมเข้มนั่งแกะสลักลวดลายถ้วยชามดินเผาอยู่ที่บูธ พร้อมแนะนำตัวเองว่าชื่อ "ฟาริดา" เป็นช่างปั้นฝีมือดีที่มาโชว์การแกะลวดลายในงานนี้บอกว่าประเทศแอลจีเรียเพิ่งมาร่วมงานเป็นปีแรก เนื่องจากเพิ่งเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว เธอบอกว่าจุดเด่นของประเทศแอลจีเรียอยู่ที่ความงดงามของทะเลทรายซาฮารา และการได้ขี่อูฐ 

        ใช้เวลาเกือบค่อนวันในการเดินชมความอลังการงานสร้างของประเทศต่างๆ ก่อนกลับแวะฟังข้อมูลจากผู้ว่าการ ททท. “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ที่บูธประเทศไทย ถึงเหตุผลทีี่ททท.จำเป็นต้องใช้เวทีนี้ในการดึงนักท่องเที่ยวจากยุโรปมาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เพราะจากสถิติในปี 2560 มีจำนวนถึง 837,000 คน เป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียและมีระยะเวลาพำนักที่ยาวนานเฉลี่ย 17-25 วัน โดยมีจุดแข็งสำคัญคือหาดทรายขาว ทะเลสวย ร่ำรวยธรรมชาติที่หาได้ยากยิ่งในประเทศแถบยุโรป

                                                      .......................................................................