ข่าว

พลิกวิถีชุมชนรัตนาธิเบศร์ด้วยศก.พอเพียง 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พลิกวิถีชุมชนรัตนาธิเบศร์ด้วยศก.พอเพียง    ลดรายจ่ายปลูก“ผักปลอดสาร”บริโภคเอง 

 

              ชุมชนหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้น้อมนำหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการมุ่งเน้นให้คนในชุมชนพึ่งพาตนเองมากกว่าปัจจัยภายนอก ขณะเดียวกันยังได้ส่งเสริมให้ชาวชุมชนหันมาปลูกผักปลอดสารไว้บริโภคเอง และแบ่งปันเพื่อนบ้าน เหลือก็ขาย ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ในครัวเรือน

            ปวินันท์ จินดาวัฒน์ แกนนำชุมชนหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ เล่าว่า ชุมชนยังมีกลุ่มคนที่นิยมปลูกผักปลอดสารไว้บริโภคในครัวเรือน ส่วนหนึ่งก็ได้ขยายการปลูกให้แก่ผู้ที่สนใจรายอื่นๆ จึงได้เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อทำโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและบริโภคผักปลอดภัยในครัวเรือน โดยได้ดูแลผู้เข้าร่วมโครงการอย่างใกล้ชิดทั้ง 53 ครัวเรือน โดยแบ่งพี่เลี้ยงลงไปดูแล 1 คน ต่อ 10 ครัวเรือน จดบันทึก คลุกคลี มองเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นเคล็ดลับของความสำเร็จของโครงการ แม้ว่าจะจบโครงการไปแล้ว แต่ทุกคนยังปลูกผักไว้กินกันเองเหมือนเดิม บางรายสามารถขยายผลปลูกขายได้อีกด้วย

            “ผลผลิตที่ได้แม้จะไม่มากมาย แต่ก็เป็นผักปลอดสารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ลดการจับจ่ายอาหารสำเร็จรูป เป็นการพึ่งพาตนเอง และเป็นการน้อมนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อีกด้วย” แกนนำคนเดิมกล่าว

             เช่นเดียวกับ ปราณี วุฒิเธียร ชาวชุมชนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งประกอบอาชีพธุรกิจมีรายได้มากมาย ทุกวันดูจะวุ่นวายอยู่กับธุรกิจที่ทำ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะนำเอาหลักคำสอนของ “พ่อ” มาใช้ ด้วยการใช้ที่ดินขนาด 8 ไร่ของตัวเองย่านปทุมธานี ทำเกษตรผสมผสานควบคู่ไปด้วย และดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง

            เธอบอกว่า ที่ดินที่ทำเกษตรผสมผสานอยู่ได้จัดสรรพื้นที่ตามทฤษฎีออกเป็น 4 ส่วน คือ สระน้ำ พื้นที่เลี้ยงสัตว์ พื้นที่ปลูกผัก และพื้นที่ปลูกไม้ผล ผักและผลไม้ที่ปลูกหลายชนิด เราไม่ได้ปลูกเพื่อขาย เราเน้นปลูกกินเอง เหลือก็นำมาแบ่งปันเพื่อนๆ และชาวชุมชน เราไม่ต้องไปซื้อเขากิน ผักและผลไม้ที่ปลูกก็ปลอดสาร ปลอดภัยต่อร่างกาย

            “คำว่าพอเพียงแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน สำหรับตัวเองแล้ว พอกิน พออยู่ เลี้ยงคนในครอบครัวให้มีความสุขความเจริญ รุ่งเรือง เหลือก็เอาไปแบ่งปัน เราเอาความเป็นเพื่อนบ้าน เหมือนที่คำโบราณสอนไว้ว่า ปลาตัวเดียวกินทั้งปีก็ไม่หมด เรามีผักผลไม้ในบ้านในสวนก็เอามาแบ่งกัน เราอยู่กันแบบนี้ในชุมชนของเรา” ปราณีกล่าวอย่างภูมิใจ 

              ขณะที่ วิลาสินี นุ่มน้อย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวถึงการน้อมนำเอาหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้ในชุมชนว่า เราส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนเดินตามแนวทางที่พระองค์ท่านสอนไว้ ในการพึ่งพาตนเอง ปลูกผักกินเอง อยู่อย่างพอเพียง พออยู่พอกิน ตลอดจนการทำบัญชีในครัวเรือน โดยทางชุมชนจะส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือน

              “ชุมชนเมืองอย่างเราสามารถทำได้ เศรษฐกิจพอเพียงอยู่ที่ไหนก็ทำได้ คำว่าพอเพียง ไม่ใช่แค่เรื่องปลูกผักเพียงอย่างเดียว อยู่ที่ว่าเราจะน้อมนำเอาส่วนไหนมมาปรับใช้” ผช.ผญบ.คนเก่งของชุมชนรัตนาธิเบศร์ กล่าวในตอนท้าย

             ชาวชุมชนหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แค่ชนบทเท่านั้น แต่สังคมเมืองก็สามารถทำได้เช่นกัน วันนี้กว่า 3,200 ครัวเรือนของชุมชนหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ จึงมีความสุขทั้งกาย และใจ ด้วยการเดินตามคำพ่อสอน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ