กรมชลเดินหน้าเร่งรัดก่อสร้างอ่างเก็บน้ำยะรมรับบการเปิดสนามบินเบตง
นายประพิศ จันทร์มา ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมชลประทานวางแผนก่อสร้างอ่างเก็บน้ำยะรม อ.เบตง จ.ยะลา โดยกำหนดระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ. 2560-2563) นั้น ตนได้สั่งการให้สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 16 เร่งรัดก่อสร้างอ่างเก็บน้ำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาพื้นที่การเกษตร การอุปโภคบริโภคครอบคลุมพื้นที่ ต.ยะรมทั้งตำบลแล้ว ยังสอดรับกับท่าอากาศยานเบตงที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2562 และคาดว่าจะเปิดให้บริการต้นปี 2563
“เป็นการเร่งรัด เพื่อให้ครอบคลุมเป้าหมายทุกด้านพร้อมๆ กันเลยทีเดียว เพราะคณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติก่อสร้างโครงการสนามบินเบตงในปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของโครงการพัฒนาเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ”
อ่างเก็บน้ำยะรม มีขนาดความจุอ่าง 8.34 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ชลประทาน 3,500 ไร่ ขณะเดียวกันแก้ไขปัญหาราษฎรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค
แผนงานก่อสร้างเดิมของอ่างเก็บน้ำยะรม ประกอบด้วย ก่อสร้างทำนบดินหัวงานและอาคารประกอบ และงานก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ (พ.ศ.2560-2563)
อ่างเก็บน้ำยะรมจะเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค รวมทั้งน้ำประปาสำหรับสนามบินเบตง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ ประกอบด้วยประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งจะพัฒนาเฉพาะพื้นที่ที่กำหนด ไม่ได้ครอบคลุมทั้งประเทศ โดยประเทศไทยกำหนดพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล โดยจัดทำพื้นที่นำร่อง 3 แห่ง ได้แก่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งจะเน้นด้านการท่องเที่ยว การบริการ และการค้าเป็นพิเศษที่สามารถเชื่อมโยงไปยังประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียได้สะดวกยิ่งขึ้น
ตามแผนการก่อสร้างสนามบินเบตง ต.ยะรม อ.เบตง เริ่มก่อสร้างในปี 2560 และอาคารผู้โดยสารจะแล้วเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และทางวิ่งสนามบินแล้วเสร็จเดือนกรกฎาคมเดียวกัน และเป็นส่วนสำคัญเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากปีละ 6 แสนคน เป็น 1 ล้านคน เนื่องจากสะดวกในการเดินทาง จากเดิมต้องใช้เวลาเดินทางจากสนามบินหาดใหญ่หรือสนามบินนราธิวาส 3-4 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง