ข่าว

“หลุบคา” พลิกป่าช้าชัยภูมิเป็นศูนย์ศก.พอเพียงครบวงจร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“หลุบคา”เดินตามรอยเท้าพ่อ  พลิกป่าช้าชัยภูมิเป็นศูนย์ ศก.พอเพียงครบวงจร

 
             นายสลิต  หาญอาสา ประธานโครงการ 9101  ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนตำบลหลุบคา อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ  เปิดเผยว่า ตำบลหลุบคา  มีพื้นที่สาธารณะประโยชน์ว่างเปล่า อยู่เดิม จำนวน  9  ไร่ บริเวณบ้านหลุบคา หมู่ที่ 1  ซึ่งบางส่วนเป็นป่าเสื่อมโทรม และเป็นที่ ฌาปนกิจศพ (ป่าช้า) ประชาชนใน 10 หมู่บ้าน  ทางชุมชนและหน่วยงานราชการ จึงหารือกันที่จะนำพื้นที่ดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์  ด้วยการพัฒนาปรับปรุงเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนตามแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ซึ่งได้เริ่มโครงการเมื่อปี พ.ศ. 2557  เป็นต้นมา โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลหลุบคาและหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมอาชีพต่างๆ ให้เกษตรกรเพื่อเพิ่มรายได้ และการส่งเสริมแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนใหญ่เป็นการจัดการอบรม ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง  แต่การดำเนินการดังกล่าวยังไม่ประสบความสำเร็จ  เนื่องจากยังขาดแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ ที่ครบวงจร  ประชาชนหลายรายไม่สามารถนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ได้  เนื่องจาก ปัจจัยพื้นฐาน ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และทรัพยากรไม่เหมือนกัน เกษตรกรยังประสบปัญหาหนี้สินอยู่มาก
                นายสลิต  กล่าวต่อว่า โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อฯ ของ ต.หลุบคา ได้มีการแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 กิจกรรมคือ 1.กิจกรรมในศูนย์การเรียนรู้ฯ ใช้งบประมาณ จำนวน 2  ล้านบาท โดยการจัดสัดส่วนที่ทั้ง 9 ไร่ ออกเป็น   แปลงปลูกข้าวไรท์เบอรี่ พร้อมเลี้ยงปลาในแปลงนา  แปลงปลูกกล้วย  พื้นที่เลี้ยงสัตว์ เช่น หมูหลุม ไก่ไข่  พื้นที่ทำปุ๋ยอินทรีย์  เรือนเพาะเห็ดนางฟ้า  เรือนเพาะชำกล้าไม้ สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ประชาชนที่สมบูรณ์แบบและครบวงจร ซึ่งผลผลิตที่ได้จากศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ก็ส่งต่อไปให้กลุ่มแม่บ้านแปรรูปเป็นอาหาร
            2. กิจกรรมการแปรรูปอาหารปลาร้าบอง   ได้งบประมาณจำนวน 3 แสนบาท  ดำเนินการโดยกลุ่มแม่บ้าน ซึ่งจะนำผลผลิตที่ได้จากศูนย์เรียนรู้ไปทำการแปรรูป เพื่อนำมาจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับกลุ่ม และ
3. โครงการแปรรูปอาหารจากผลผลิตทางการเกษตร ที่ เช่น ปลาส้ม  ไข่เค็ม กล้วยฉาบ ขนมดอกจอก ขนมปั้นสิบ  เป็นต้น จำนวน 2 แสนบาท  ซึ่งเป็นผลผลิตจากศูนย์เรียนรู้ฯ
            นายสลิต  กล่าวอีกว่า  โครงการ 9101 ตามรอยพ่อฯ เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างแท้จริง และสร้างความยั่งยืน สร้างความรักสามัคคีให้ชุมชน ต.หลบคาอย่างมาก มีเกษตรกรได้ประโยชน์มากกว่า 1,000 ราย มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้ง ด้านการเกษตรอินทรีย์ ด้านการปศุสัตว์  และ ด้านการประมง  ประชาชนทั่วไปสามารถศึกษาและเรียนรู้และน้อมนำไปปฏิบัติต่อตนและครัวเรือนได้  นอกจากนี้ยังสร้างความเข้มแข็งและรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชนบนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  ทั้งยังส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เน้นการลดต้นทุน  เพิ่มผลผลิต  และพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน  และสนับสนุนให้ชุมชนเกษตรกรให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาภาคการเกษตร สามารถพึ่งตนเองได้ อันจะนำไปสู่การพัฒนาการเกษตรของชุมชนอย่างยั่งยืน
            ด้านนายสมจิตร ธีระบุญชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 7 จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน  เป็นโครงการที่ มติ ครม.ให้ดำเนินการ ในพื้นที่ความรับผิดชอบของศูนย์ฯ ทั้ง 8 จังหวัดอีสานใต้  มีจำนวน 1,650 ชุมชน รวมกว่า 2,800 โครงการ รับงบประมาณมาทั้งหมดประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเจตนาของรัฐบาลคือต้องการสนับสนุนงบประมาณให้เกษตรกรกรนำไปพัฒนาอาชีพในชุมชนของตนเองอย่างยั่งยืน  โดยจัดสรรให้ชุมชนละประมาณ 2.5 ล้านบาท ขณะนี้ทุกโครงการได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปทั้งหมดแล้วเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560ในระยะที่ 1 จากนี้ไปจะเป็นการขยายผลให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป  ทุกโครงการต้องเกิดจากแนวคิดของประชาชนในชุมชนเอง ทุกโครงการมีความโปรงใส่ตรวจสอบได้
            สำหรับจังหวัดชัยภูมิ ได้ดำเนินโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี ภายใต้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) จำนวน 16 ศูนย์ โดยจัดแบ่งพื้นที่ชุมชนเพื่อบริหารการด้านการเกษตร 155 ชุมชน ดำเนินโครงการทั้งหมด 292 โครงการ งบประมาณ 387,286,900 บาท ประชาชนได้รับประโยชน์ 170,076 ราย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ