สืบสานพระราชปณิธาน“พระมารดาแห่งไหมไทย”

            สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงให้ความสำคัญและทรงพระกรุณาในการส่งเสริมอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแก่พสกนิกร สนับสนุนอาชีพทางด้านหัตถกรรมการทอผ้าไหมลวดลายต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2513 จากพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงงานด้านหม่อนไหมด้วยพระวิริยะอุตสาหะมาโดยตลอด ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไหม ทอผ้าไหม มีอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้พึ่งพาตนเองได้ 

           ​กรมหม่อนไหมในฐานะหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีภารกิจในการดำเนินการสนองงานสืบสานอนุรักษ์อาชีพด้านหม่อนไหม ควบคู่ไปกับการพัฒนาและส่งเสริมให้เกษตรกรหม่อนไหมให้สามารถประกอบอาชีพหม่อนไหมได้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน มุ่งเน้นการขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพของบุตรหลานของเกษตรกรให้เป็นผู้สืบทอดอาชีพด้านหม่อนไหมอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติทั้ง 21 ศูนย์ ซึ่งตั้งอยู่ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ

           เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 85 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2560 กรมหม่อนไหมขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงเล็งเห็นความสำคัญในการประกอบอาชีพด้านหม่อนไหมของเกษตรกร จึงจัดทำโครงการสิงหาสืบสานงานพระมารดาแห่งไหมไทยเพื่อเฉลิมพระเกียรติและเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกรมหม่อนไหมให้เป็นที่ประจักษ์ต่อไปด้วย

              จะเห็นว่าในช่วงปี 2560 นี้ กรมหม่อนไหมภายใต้การนำของอธิบดี “สุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา” ได้สร้างผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์  โดยการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ตลอดจนมีการสร้างการรับรู้ การถ่ายทอดนโยบายลงสู่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่และได้จัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติตามภารกิจของกรมหม่อนไหมปีงบประมาณ 2560 เพื่อประกอบการประเมินศักยภาพในการเป็นส่วนราชการที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยสอดคล้องกับการขับเคลื่อน 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน

            สุดารัตน์กล่าวถึงผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปีงบประมาณ 2560 ว่ามีหลายโครงการเด่นสามารถเห็นเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าหม่อนไหม (ศพก.)  จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย จุดเรียนรู้ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกหม่อนผลสด ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ซึ่งใช้ในการประชุมเครือข่ายประชารัฐหม่อนผลสดเกษตรกรและหน่วยงาน ตลอดจนใช้อบรมหลักสูตรการผลิตหม่อนผลสดปลอดภัยตามระบบจีเอพี จุดที่ 2 เป็นจุดเรียนรู้ด้านการลดต้นทุนการผลิตและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหม่อนไหม ต.บ้านหัน อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ และจุดสุดท้ายเป็นจุดเรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านไหมอุตสาหกรรม ต.หนองแดง อ.แม่จริม จ.น่าน 

              โครงการส่งเสริมระบบเกษตรแปลงใหญ่ที่กรมหม่อนไหมได้ดำเนินโครงการจำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ และอ.แม่จริม จ.น่าน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร อ.บ้านแท่นและอ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และอ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พื้นที่รวม 3,244 ไร่ เกษตรกรได้รับประโยชน์ 1,316 ราย 

            ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญในการจัดตั้งธนาคารปัจจัยการผลิตด้านหม่อนไหม โดยมีการจัดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.สกลนคร มหาสารคาม ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี และนครพนม โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่มีการแจกจ่ายท่อนพันธุ์หม่อนแก่เกษตรกร จำนวน 57,892 ราย จำนวนท่อนพันธุ์ 2,889,050 ท่อน รวมทั้งสิ้น 71 จังหวัด ตลอดจนส่งเสริมความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง การจัดทำบัญชีครัวเรือน และออกติดตามเยี่ยมเยียนให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในโครงการจำนวน 1,423 ราย รวมถึงโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านหม่อนไหม โดยมีพื้นที่เป้ามหมาย 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน นครราชสีมา สุรินทร์และหนองคาย ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว ส่วนเป้าหมายปี 2561 เพิ่มอีก 2 จังหวัด ได้แก่ แพร่และน่าน  

             นอกจากนี้กรมหม่อนไหมได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อขยายเครือข่ายให้ผลิตภัณฑ์หม่อนไหมเป็นที่รู้จักกว้างขวางยิ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับ 6 สถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาลวดลายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมไทย เป็นการอนุรักษ์และพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญา การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการทอผ้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด  การร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) มุ่งสืบสานพระราชเสาวนีย์สมเด็จนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาหม่อนไหมสู่เยาวชนรุ่นใหม่ในโรงเรียนตชด. ให้มีความรู้ความสามารถในอาชีพด้านหม่อนไหม ตลอดจนการสร้างรายได้ระหว่างเรียน  และร่วมกับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ต่อยอดการจำหน่ายมัลเบอร์รี่สดและน้ำมัลเบอร์รี่ เป็นโยเกิร์ตและไอศกรีม เป็นต้น  

           ไม่เพียงเท่านั้นยังได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและยังร่วมกับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนผลิตภัณฑ์จากเส้นไหมไทยพื้นบ้านจากกลุ่มเกษตรกรหม่อนไหม เพื่อให้บริษัทการบินไทยนำไปมอบเป็นของระลึกให้แก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศบนเครื่องบินอีกด้วย

                                                       .......................................................