ที่โกเหน่งฟาร์ม อยู่ด้านหลังสำนักงานการไฟฟ้าส่
วนภูมิภาค อ.กะปง คุณวัชรินทร์ พิศาลวีรวงศ์ หรือ โกเหน่ง อายุ 43 ปี หนุ่มนักเรียนนอก ที่หลังจากจบปริญญาโท จากประเทศอเมริกา ก็ทำงานเป็นพนักงานของบริษั
ทใหญ่ในเมืองหลวง เป็นเวลานานถึง 18 ปี จนมีตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้จั
ดการอาวุโส IT SUPPORT และได้ตัดสินใจลาออกกลับมาบ้
านเกิด ยึดอาชีพเกษตรกรรุ่นใหม่หรื
อสมาร์ทฟาร์มเมอร์ โดยการสร้างโรงเรือนเพื่อปลู
กเมลอนพันธุ์ซูบาริคิงและพันธุ์
คิโมจิ ซึ่งเป็นสายพันธุ์พรีเมี่
ยมนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่
นโดยตรง ชุดแรกได้ปลูกจำนวน 350 ต้น ใช้การจัดการเรื่องน้ำและปุ๋ยด้
วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งพบว่าได้ผลดี มีการจองซื้อผ่านระบบออนไลน์
จนเกือบหมดในราคากิโลกรัมละ 160 บาท นอกจากนั้นทางฟาร์มได้สร้างมู
ลค่าเพิ่มให้ผลผลิตด้
วยการแกะลวดลายเมลอนตามที่ลูกค้
าต้องการ
คุณวัชรินทร์ พิศาลวีรวงศ์ เปิดเผยว่า หลังจากเรียนจบก็ทำงานที่กรุงเทพฯมานานกว่า18 ปี และได้ตัดสินใจจะกลับมาช่วยดูแลสวนของครอบครัว โดยก่อนจะลาออกงานประจำนั้น ได้ทดลองปลูกเมลอนตามที่ว่างในบ้านพักมาระยะหนึ่งแล้ว และพบว่าน่าจะนำมาปลูกเป็นอาชีพเสริมได้ เพราะสามารถใช้เวลาว่างจากการดูแลพืชเศรษฐกิจหลักมาดูแลเมลอนได้ สำหรับเมลอนพันธุ์ซูบาริคิงจะใช้ระยะเวลาการปลูกจนเก็บเกี่ยว 80-85 วัน ส่วนพันธุ์คิโมจิใช้เวลา 90-95 วัน โดยตนเองจะผสมเกสร ให้ติดลูกประมาณ 4 ผล/ต้น เมื่อลูกใหญ่ประมาณเท่าไข่เป็ด จะคัดเลือกเฉพาะลูกที่สมบูรณ์ไว้เพียงลูกเดียว เพื่อให้ได้ลูกที่มีคุณภาพที่สุดและได้จัดทำระบบจ่ายน้ำจ่ายปุ๋ยอย่างมาตรฐาน เพื่อให้ง่ายต่อการให้ปุ๋ยแต่ละสูตรในแต่ละช่วงของการเจริญเติบโตของเมลอน การปลูกในโรงเรือนกางมุ้ง จะสามารถควบคุมการผลิต ป้องกันแมลงและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี
เมลอนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เสริมสร้างกระดูกและฟัน มีวิตามินต่างๆ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ดวงตา และเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ลดความเครียดและยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะไม่มีไขมัน สามารถซื้อเป็นของขวัญพิเศษแก่ผู้รับ โดยทุกขั้นตอนการผลิตทางดกเหน่งฟาร์มได้ผสมผสานการดูแล ความเข้าใจ ความเอาใจใส่ทุกผล เพื่อให้ได้เมลอนที่มีคุณภาพสูงสุดให้ลูกค้า