ข่าว

 จ่ายไม่ไหวทำไงดี !

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร

            คุณขจรศักดิ์ พาหมาเกรทเดนไปรักษาพยาธิหนอนหัวใจ ได้รับใบประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษาว่าสามหมื่นบาท  จึงไม่รู้ว่าจะรักษาหรือซื้อหมาใหม่ดี ?

              คุณทอมต้องจ่ายค่าผ่าตัดกระดูกสันหลังเพื่อรักษากรณีกระดูกสันหลังกดทับไขสันหลัง จนเป็นอัมพาต ค่าใช้จ่ายสามหมื่นห้า จะผ่าหรือซื้อรถเข็นให้ดี ?

             คุณลิลลี่ช่วยลูกหมาจรจัดมาแต่ดันเป็นไข้หัด จะตายก็ไม่ตาย ยังป่วยเรื้อรังด้วยอาการไวรัสหัดขึ้นสมอง จำต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อรักษาตามอาการ ใจยังไม่ต้องการฉีดยาให้หลับไป (การุณยฆาต) แต่บิลมาขณะนี้เก้าพันกว่าบาทแล้ว ฯลฯ

             เป็นท่านผู้อ่านจะทำอย่างไรดีกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปเพื่อรักษาสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรา จะมีวิธีใดบ้างนอกเหนือจากทำเป็น “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” ซึ่งไม่น่าจะเหมาะสมนัก

             บังเอิญไปเห็นของฝรั่งเขาเขียนแนะนำคนเลี้ยงหมาไว้ถึงปัญหาจ่ายไม่ไหว จะทำอย่างไรดี โดยดัดแปลงมาให้เป็นแบบไทยไว้ ลองติดตามสิครับ เผื่อจะนำไปใช้ได้

             หยิบยืม : แนวนี้แน่นอน เงินไม่มีก็ต้องหยิบยืมจากคนใกล้ชิด ญาติสนิท มิตรสหาย โชคดีเจอคนเข้าใจก็พอได้ แต่บางคนพอรู้ว่าจะยืมไปช่วยรักษาหมาละก็ เจอคำด่าแทนซะนี่

              เจรจา : การขอเจรจากับคุณหมอ หรือฝ่ายการเงินของคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ เพื่อขอผ่อนผันแบ่งจ่ายเป็นงวด หรือตัดจากบัตรเครดิตเป็นงวดๆ แม้กระทั่งการขอลดค่าใช้จ่าย แต่อย่าต่อแบบซื้อของตามตลาดนะครับ คงไม่สำเร็จแน่

                กองทุนสงเคราะห์สัตว์ : เดี๋ยวนี้ตามโรงพยาบาลสัตว์ของส่วนราชการโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะสัตวแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย อาจมีบริการกองทุนสงเคราะห์สัตว์ เช่นเดียวกับของคนให้ความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลสัตว์ป่วยอนาถา เอกชนบางแห่งก็มีบ้างเหมือนกัน

                เปลี่ยนหรือย้ายสถานพยาบาล : เพื่อไปเลือกใช้แหล่งที่ค่าใช้จ่ายถูกลง เปรียบเสมือนคนป่วยก็ตรงที่ย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเอกชนไปเข้าโรงพยาบาลรัฐหรือหลวง ก็นับว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงมาก แต่อาจพบปัญหาเตียงหรือกรงไม่ว่าง คิวยาว รอนานมากอีกนั่นเอง

              ประกันสุขภาพ : ในต่างประเทศมีการประกันภับ “สุขภาพ” สำหรับหมามานมนานแล้ว ทำให้เขาสามารถให้การรักษาพยาบาลแก่หมาอย่างเต็มที่ ด้วยวิธีทันสมัยเท่าเทียมคน เช่น ตรวจด้วยเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ (CT SCAN) หรือคลื่นแม่เหล็ก (MRI) ฯลฯ บ้านเราก็ดูเหมือนจะเริ่มมีแล้วลองหารือดูครับ แต่ต้องทำประกันไว้ก่อนมิใช่ป่วยแล้วค่อยซื้อประกัน มันไม่ทันการณ์ครับ ฯลฯ

              อย่าคิดสั้นทิ้งหมา หรือชักดาบ ยังมีทางออกให้อีกไม่น้อยใช่ไหมครับ!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ