ข่าว

"ย่านาง"ราชินีแห่งสมุนไพร รักษาได้สารพัดโรค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ย่านาง"ราชินีแห่งสมุนไพร รักษาได้สารพัดโรค

 “ย่านาง”ที่ขึ้นตามริมรั้วใช้บำบัดรักษาโรคต่างๆมาแต่โบราณ จนได้ฉายา"ราชินีแห่งสมุนไพร”ปัจจุบันถูกใช้อย่างแพร่หลายในแพทย์ทางเลือก
เป็นไม้เถาเลื้อย มีชื่อภาษาอังกฤษ Bamboo grass ภาคเหนือเรียก จ้อยนาง ภาคกลางเรียก เถาย่านาง เถาวัลย์เขียว และภาคใต้เรียก ยาดนาง 
ต้น เป็นเถาเลื้อยได้ไกล 2-3 เมตร รากมีขนาดใหญ่
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกแบบสลับ รูปไข่ ปลายเรียว ใบยาว 5-10 ซม. 
ดอก สีเหลือง ออกตามซอกใบเป็นช่อยาว ช่อหนึ่งๆมี 3-5 ดอก
ผล กลมรีเล็ก สีเขียว เมื่อแกเป็นสีเหลืองอมแดงและกลายเป็นสีดำ
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้น แสงแดดเต็มวัน
สรรพคุณทางยา : ราก - แก้ไข้ เช่น ไข้พิษ ไข้เหนือ ไข้หัด ไข้ฝีดาษ ไข้ทับระดู และอาการเบื่อเมา 
-รากเป็นหนึ่งในส่วนประกอบตำรับยา 5 ราก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขประกาศใช้ในบัญชียาสมุนไพร รักษาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะเริ่มแรกได้ โดยนำรากแห้งต้มกับน้ำครั้งละ 1 กำมือ แล้วดื่มก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง 
ใบ - เป็นส่วนที่ถูกนำมาใช้รักษาโรคมากที่สุด เพราะมีฤทธิ์เย็น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ในตำราสมุนไพรจัดให้ย่านางเป็นยาอายุวัฒนะ มีประโยชน์ดังนี้ : 
ป้องกันและบำบัดโรคหัวใจ,ป้องกันและลดการเกิดโรคมะเร็ง,ภูมิแพ้ไอจาม มีน้ำมูกและเสมหะ,แก้เกร็ง ชัก ตะคริว,เหงือกอักเสบเรื้อรัง,โรคเบาหวาน โดยลดน้ำตาลในเลือด,ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรีย,ลดปวดตามกล้ามเนื้อ
ป้องกันเกิดโรคริดสีดวงทวาร,ตับอักเสบ,ไทรอยด์เป็นพิษ,เกาต์,ความดันโลหิตสูง และสำหรับผู้ที่เป็นมะเร็ง หากดื่มน้ำใบย่านางเป็นประจำ จะทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งจะฝ่อและเล็กลง
เถา - ช่วยลดความร้อนและแก้พิษตานซาง และยังมีข้อมูลทางเภสัชวิทยาระบุว่า สามารถช่วยต้านมาลาเรีย และยับยั้งการหดเกร็งของลำไส้ได้
คุณค่าทางโภชนาการ: ใบย่านาง 100 กรัม มีคุณค่าดังนี้ พลังงาน 95 กิโลแคลอรี่,เส้นใย 7.9 กรัม,แคลเซียม 155 มิลลิกรัม,ฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม,เหล็ก 7.0 มิลลิกรัม,วิตามินเอ 30625 มิลลิกรัม, 
วิตามินบีหนึ่ง 0.03 มิลลิกรัม,วิตามินบีสอง 0.36 มิลลิกรัม,ไนอาซิน 1.4 มิลลิกรัม,วิตามินซี 141 มิลลิกรัม,โปรตีน 15.5%,ฟอสฟอรัส 0.24%,โพแทสเซียม 1.29%,แคลเซียม 1.42% และแทนนิน 0.21%
ประโยชน์ด้านอื่นๆ : ชะลอการเกิดผมหงอก ทำให้ผมดำและนุ่มชุ่มชื้น และนำมาทำอาหาร โดยเฉพาะเมนูที่มีส่วนผสมของหน่อไม้ เพราะน้ำใบย่านางช่วยต้านพิษกรดยูริกที่มีในหน่อไม้ได้ 
วิธีทำน้ำใบย่านาง : ส่วนประกอบ ใบย่านาง 10-20 ใบ (ตามความเข้มข้นที่ต้องการ)/ใบเตย 3 ใบ/บัวบก 1 กำมือ/หญ้าปักกิ่ง 3-5 ต้น/ใบอ่อนเบญจรงค์ 1 กำมือ/ใบเสลดพังพอน 1 กำมือ/ว่านกาบหอย 5 ใบ 
-นำใบสมุนไพรต่างๆตัดเป็นชิ้นเล็ก นำไปโขลกหรือปั่นด้วยเครื่องปั่นให้ละเอียดจนเป็นน้ำ (ปั่น 30 วินาที) เสร็จแล้วนำมากรองผ่านผ้าขาวบางหรือกระชอนอีกที
คำแนะนำ : บางคนที่รู้สึกว่ากินยาก เหม็นเขียว ให้นำน้ำย่านางไปต้มให้เดือดแล้วนำมาดื่ม หรือจะผสมกับน้ำสมุนไพรชนิดอื่นๆก็ได้ เช่น ขิง ตะไคร้ ขมิ้น น้ำมะพร้าว น้ำมะนาว น้ำตาล หรือแม้แต่น้ำเฮลล์บลูบอยก็ได้
-ควรดื่มน้ำย่านางสดๆก่อนอาหารหรือตอนท่องว่าง ครึ่งแก้ว 3 ครั้งต่อวัน
-ควรดื่มแต่พอดี หากรู้สึกแพ้ ผะอืดผะอม ลดความเข้มข้นของสมุนไพรลง
-ควรดื่มทันทีที่ทำเสร็จ เพราะถ้าทิ้งไว้นานเกินไปจะเกิดกลิ่นเหม็นเปรี้ยว แต่นำมาแช่ตู้เย็นได้และควรดื่มภายใน 3 วัน

ที่มา :https://medthai.com 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ