ก.เกษตรฯบูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับนาแปลงใหญ่ มุ่งเน้นการพัฒนาด้านการตลาดข้าว ผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
นางสาวชุติมา บุญประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่ าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็ นประธานการประชุมเพื่อเชื่ อมโยงและพัฒนาการตลาดสินค้าข้ าวนาแปลงใหญ่ ณ ห้องประชุมพะยูน อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง ว่า การจัดประชุมดังกล่าวมีวัตถุ ประสงค์ เพื่อให้เกิดการบูรณาการทุ กภาคส่วนร่วมกันทั้งภาครั ฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่ อนการดำเนินงานนาแปลงใหญ่ และมุ่งเน้นการพัฒนาด้ านการตลาดข้าวโดยมีการจั ดทำแผนการผลิตให้สอดคล้องกั บความต้องการของตลาด อีกทั้งเพื่อบริหารจั ดการนาแปลงใหญ่ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหน่ วยงานภาครัฐ ได้แก่ หน่ วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และภาคส่วนที่เป็นตัวแทนของอุ ตสาหกรรมข้าว ตั้งแต่ระดับต้นทาง-ปลายทาง
นางสาวชุติมา กล่าวต่อไปว่า ได้หารือถึงแผนการผลิตข้ าวครบวงจรที่ได้ผ่านการพิ จารณาโดยคณะกรรมการนโยบายและการ บริหารจัดการข้าว (นบข.) เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560 มีการคาดการณ์ปริมาณความต้ องการข้าว เป้าหมาย 29.5 ล้านตัน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ ประกาศพื้นที่ส่งเสริมการปลูกข้ าวจำนวน 66.69 ล้านไร่ เพื่อผลิตข้าวให้สอดคล้องกั บความต้องการของตลาด โดยมีการกำหนดพื้นที่การปลูกข้ าวในระดับจังหวัด และมีโครงการนาแปลงใหญ่ ซึ่งสนับสนุนให้เกษตรกรมี การรวมกลุ่ม เปลี่ยนวิธีการผลิตเพื่อลดต้นทุ นการผลิต เพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่าผลผลิต การบริหารจัดการ และการตลาด โดยในปี 2559 มีนาแปลงใหญ่รวมทั้งประเทศจำนวน 425 แปลง คิดเป็นพื้นที่ 1.047ล้านไร่ และในปี 2560 มีนาแปลงใหญ่เพิ่มขึ้นจำนวน 750 แปลง พื้นที่ 744,000 ไร่
อย่างไรก็ตาม จะดำเนินงานในรู ปแบบโครงการประชารัฐ ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนมี บทบาทในการยกระดับคุณภาพชีวิ ตของเกษตรกร โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่ างภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ระดับต้นทางถึงปลายทาง เกษตรกรต้องมีการรวมตัวกั นในการผลิตข้าวคุณภาพทั้ง GAP และข้าวอินทรีย์ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวกั บการผลิต เช่น ผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าว ต้องมีการบริหารจัดการรถเกี่ ยวร่วมกันอย่างเป็นระบบ ผู้ประกอบการปุ๋ยและการอารั กขาพืช ให้คำแนะนำการใช้ที่ถูกต้องกั บชาวนาและจำหน่ายในราคาที่เป็ นธรรม รวมถึง ผู้ประกอบการโรงสีข้าว วางแผนให้มีโรงสีที่ได้มาตรฐาน GMP มาให้บริการสีข้าว GAP และข้าวอินทรีย์ อีกทั้ง ยังมีบทบาทในการให้ข้อมูลด้ านการตลาดแก่เกษตรกร นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ Modern Trade เพิ่มช่องทางการจำหน่ายข้าวคุ ณภาพ เช่น ลดค่าแรกเข้าผู้ส่งออกข้าวคุ ณภาพ ช่วยทำตลาดข้าวคุณภาพของไทยในต่ างประเทศในราคาที่สูงกว่าข้าวทั่ วไป การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวเป็ นอาหารเสริมหรือเครื่องสำอาง ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในสัดส่ วนที่สูงให้แก่ผลิตภัณฑ์จากข้าว เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง