ข่าว

ล่องเรือชมบัวงาม“บึงบอระเพ็ด”แวะดูผลผลิตการเกษตรที่อ.ลานสัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - สุรัตน์ อัตตะ

          ความหลากหลายทางชีวภาพที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติของพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างประกอบด้วยนครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตรและอุทัยธานี จึงเป็นที่มาของโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จัดโดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาของแต่ละจังหวัดเพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจโดยทั่วไป ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า“เป็นศูนย์กลางธุรกิจข้าว สินค้าเกษตร การท่่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมล้ำค่า” โดยมีกลยุทธ์ที่จะส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวให้บริการที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน

ล่องเรือชมบัวงาม“บึงบอระเพ็ด”แวะดูผลผลิตการเกษตรที่อ.ลานสัก

               “ท่องโลกเกษตร”อาทิตย์นี้จะพาไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวจ.นครสวรรค์และอุทัยธานี หลังจากก่อนหน้านี้ขึ้นเหนือตะลุยเมืองชาละวันและกำแพงเพชรมาแล้วตามโครงการ“Media Fame Trip” โดยเริ่มจากวัดคีรีวงศ์ จ.นครสวรรค์ ชมพระจุฬามณีเจดีย์สมัยสุโขทัย ไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิมและล่องเรือชมทัศนียภาพยามเช้าของบึงบอระเพ็ด ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 1.2 แสนไร่เต็มไปด้วยบัวงามหลากหลายสายพันธุ์และวิถีชีวิตของนกอพยพนานาชนิด พร้อมฟังตำนานเล่าขานความดุร้ายของจระเข้ยักษ์“ไอ้ด่างเกยไชย”จากไกด์กิติมศักดิ์ อลงกรณ์ ไตรคุ้มดัน ผอ.สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจ.นครสวรรค์ ก่อนมาสัมผัสถนนคนเดินยามค่ำคืนใจกลางเมืองปากน้ำโพ

               วันรุ่งขึ้นเดินทางต่อไปยังจ.อุทัยธานี สิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อเดินทางไปถึงเข้าไหว้สักการะหลวงพ่อฤษีลิงดำ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดท่าซุง ภายในวิหารแก้ว จากนั้นขึ้นไปสักการะพระพุทธมงคลอันเลื่องชื่อที่วัดสังกัสรัตนคีรี บนยอดเขาสะแกกรัง ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอุทัยธานีมาอย่างยาวนาน พื้นที่บริเวณบนยอดเขาสะแกกรังนี้ ชาวอุทัยถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีศาสนสถานสำคัญอยู่หลายอย่าง อาทิ พระพุทธบาทจำลอง มณฑปทรงไทยที่ตั้งอยู่ตรงสุดปลายบันไดบนยอดเขา และ“ระฆัง 100 ปี”สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในปี 2443

                ก่อนตะวันบ่านคล้อยล่องเรือมวิถีชีวิตชาวแพริมน้ำสะแกกรังที่ประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังสร้างรายได้หลัก ว่ากันว่ามาเที่ยวอุทัยธานีถ้าไมได้รับประทานปลาแรดและผลิตภัณฑ์จากปลาแรด ถือว่ายังมาไม่ถึงจ.อุทัย ก่อนมาสัมผัสถนนคนเดินยามค่ำคืนที่ตรอกโรงยาใจกลางเมือง ซึ่งมีอาทิตย์ละครั้งในทุกวันเสาร์ สองฝากฝั่งของถนนมีสินค้าพื้นเมืองหลากหลายให้เลือก โดยเฉพาะหมูปิ้งร้อยคิว สินค้าขึ้นชื่อของตรอกโรงยามาอย่างยาวนาน สนนราคาไม้ละ 4 บาท พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด สอบถามได้ความว่าที่มาของหมูปิ้งร้อยคิวก็เพราะมีคนมารอคิวซื้อเป็นร้อยกว่าจะได้ของดี

               หลังนั่งจิบกาแฟโบราณที่ร้านเก่าแก่ พร้อมลิ้มลองอาหารพื้นถิ่นอันเลื่องชื่อนั่นก็คือซาลาเปาปลาแรด  จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่อำเภอลานสักเพื่อไปชมความงามทางธรรมชาติของป่าหุบตาด ซึ่งเป็นป่าดึกดำบรรพ์อยู่กลางหุบเขาและเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องนาคี ซึ่งตรงกับงานประกวดมะม่วง-มะยงชิด ของดีลานสัก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 มีนาคม 2560 โดยเพิ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้สนใจมาจับจ่ายซื้อผลไม้กันอย่างคับคั่ง

                อรรถพร เฉยพันธ์ นักวิชาการชำนาการ สำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานีี ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินการประกวดมะม่วง-มะยงชิดบอกว่าจ.อุทัยธานีเป็นอีกจังหวัดที่ปลูกไม้ผลกันมาก  โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้และมะยงชิด  ถือว่าเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของอ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มีรสชาติหอม หวาน กรอบ อร่อย โดยเฉพาะความหวานนั้นส่วนใหญ่ไม่ต่ำกว่า 15-16 บริด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะด้วยสภาพดินที่ดีและมีภูมิอากาศที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของไม้ผลทั้งสองชนิดนี้ 

              "เพิ่งจัดเป็นปีแรกได้รับการตอบรับดีมากจากชาวสวนและนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด บอกเลยว่ามะยงชิดที่นี่ลูกใหญ่และหวานมาก มะม่วงน้ำดอกไม้ก็เช่นกัน แต่ผลผลิตเกือบทั้งหมดจะส่งออกต่างประเทศ โดยจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวน เขาให้ราคาดีมาก ชาวสวนจึงไม่ค่อยเดือนร้อนในเรื่องราคา  มีเท่าไหร่ซื้อหมด  ทำให้ไม่ค่อยมีการประชาสัมพันธ์ คนทั่วไปจึงไม่ค่อยรู้ว่าอุทัยธานีจะมีมะยงชิดและมะม่วงน้ำดอกไม้" นักวิชาการเกษตรคนเดิมเผย พร้อมชี้ให้ดูมะยงชิดที่คว้ารางวัลที่1 มีหวานสูงถึง 20 บริด

                 เสร็จจากเดินชมงานเทศกาลมะม่วง-มะยงชิดของดีลานสัก จากนั้นเดินทางต่อยังบ้านผาทั่งเพื่อชมการทอผ้าลายโบราณของกลุ่มทอผ้าพื้นเมืิองบ้านผาทั่ง ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ โดยเริ่มต้นจากคุณแม่ทองลี้ ภูริผล ซึ่งเป็นประธานกลุ่มได้คิดรวบรวมกลุ่มสตรีเกษตรกร เพื่อใช้เวลาว่างจากงานหลักที่เก็บเกี่ยวผลผลิตให้เป็นประโยชน์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 จากนั้นในปี 2545 ก็จัดตั้ง “ศูนย์ผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่ง” ขึ้นมา และได้รวบรวมผ้าทอ ซึ่งเป็นผลงานของชาวบ้านมาจัดจำหน่ายมากมาย

                 ปทีป สมบุญพูลพิพัฒน์ ผอ.สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจ.อุทัยธานีบอกว่าความมีเอกลักษณ์ของผ้าทอโบราณบ้านผาทั่ง จนมีชื่อเสียงนั้นมาจาก ผ้าทอลายโบราณที่สืบทอดกันมานับร้อยปีของชาวลาวครั่ง และลาวเวียงที่อพยพมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการสืบสานวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นผ้าทอที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่แห่งต้นฉบับได้อย่างครบถ้วน ทั้งความละเอียดอ่อนของลายผ้า สีสัน ซึ่งย้อมด้วยวัสดุจากธรรมชาติที่สืบทอดกันมาราว 200-300 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะหาที่ไหนไม่ได้แล้วในปัจจุบัน จึงทำให้ ผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่งนี้ แตกต่างจากผ้าทอจากที่อื่น ๆ จนได้รับรางวัลจากยูเนสโก(Unesco)

                 ก่อนกลับได้แวะชมความงามของวัดถ้ำเขาวง พุทธสถานเรือนไทยในหุบเขาเพื่อความเป็นสิรมงคล พร้อมภาวนาหากมีโอกาสจะกลับมาเยือนอีกครั้ง! 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ