ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) ว่า พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งหามาตรรับมือแก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดช่วงปิดเทอม2/2559 เพื่อลดความเดือนร้อนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ 1.6 หมื่นราย พร้อมมีนโยบายให้มีการเพิ่มคุณภาพและมาตรฐานของนมโรงเรียนให้สูงขึ้นในปีการศึกษา 2560 เพื่อให้เด็กนักเรียนได้ดื่มนมคุณภาพและปรับวิธีการจัดสรรโควตาให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใสกับผู้ประกอบการ รวมทั้งตอบสนองและประโยชน์แก่นักเรียน เกษตรกรและสหกรณ์อย่างยั่งยืนรวมทั้งเร่งหามาตรการในการรับมือสถานการณ์นมล้นตลาดในช่วงปิดภาคเรียนอย่างรัดกุม
จากนโยบายดังกล่าว เร็วๆนี้อสค.ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม(สคน.) ได้เชิญสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมนม /ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมทั้ง 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมอุตสาหกรรมผลิตอาหารนมไทย สมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ สมาคมผู้ผลิตนม ยู.เอช.ที สมาคมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและแปรรูปผลิตภัณฑ์นม และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนมโรงเรียน 70รายทั่วประเทศเพื่อชี้แจงและติดตามข้อมูล การบริหารจัดการน้ำนมดิบช่วงปิดภาคเรียนให้มีการปฏิบัติดูแลในการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์โคนมทั่วประเทศให้เป็นไปมติของคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนกับอ.ส.ค. ที่จะต้องดูแลรับผิดชอบน้ำนมดิบตอลดช่วงระยะเวลาปิดภาคเรียนตามข้อตกลงที่ได้ทำ MOU กันไว้คือ กำหนดให้แต่ละรายช่วยกันผลิตนมโรงเรียนชนิด UHT เก็บตลอดช่วงระยะปิดเทอมหรือเพื่อการอื่นใด
นอกจากนี้ในการหารือยังไม่มีการหารือถึงการยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการของโครงการนมโรงเรียน ปีการศึกษา 2560 อีกด้วย ส่วนแนวทางแก้ปัญหานมล้นตลาดในระยะยาว หนึ่งในอีกมาตรการสำคัญคือขอความร่วมมือให้สมาคม/ผู้กอบการอุตสาหกรรมนมช่วยกันรณรงค์ให้คนไทยดื่มนมมากขึ้นผ่านเทศกาลที่สำคัญหรือออกเคญเปญสร้างแรงจูงใจการดื่มนม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 2560-2569 ที่มีเป้าหมายเพิ่มการบริโภคนมร้อยละ 4 จากปัจจุบันคนไทยบริโภคอยู่ที่ประมาณ 14-15 ลิตร/คน/ปี ซึ่งในส่วนของอสค.ปัจจุบันครองสัดส่วนตลาดนมโรงเรียนอยู่ที่ 900 ล้านบาท/ปีและทุกสัปดาห์ที่ 3ของเดือนกันยายนของทุกปีจะจัดกิจกรรมวันดื่มนมโรงเรียนโลกเพื่อกระตุ้นให้เด็กไทยเห็นความสำคัญของการดื่มนม