ข่าว

ปลูกผักบุ้งแก้จน!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย -สุรชัย พิรักษา

 ชาวบ้านบ้านม่วงเหนือ หมู่ 2 และบ้านม่วงพัฒนา หมู่ 16 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 40 ครัวเรือน ปลูกผักบุ้งเป็นอาชีพเสริมหลังฤดูทำนา เพราะเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยและมีอายุสั้น โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศร้อนเอื้อต่อการเติบโตของผักบุ้ง ใช้เวลาปลูกเพียง 15 วันก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ต่างจากพืชชนิดอื่นที่ต้องใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 1 – 2 เดือนจึงจะเก็บผลผลิตได้ อีกทั้งการปลูกผักบุ้งยังเป็นพืชที่ดูแลง่าย โดยชาวบ้านจะใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ผสมแกลบ หาได้เองจากท้องถิ่นไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลงทำให้ผักบุ้งปลอดสารเป็นที่ต้องการของตลาด โดยแต่ละวันชาวบ้านจะมีออเดอร์ส่งตลาดและลูกค้าขาประจำทั้งร้านอาหาร ร้านเนื้อย่างทุกวันๆ ละกว่า 40 กิโลกรัมต่อราย บางรายนำไปวางขายเองตามตลาด ซึ่งจะมีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 5 – 20 บาท ช่วงเทศกาลที่มีความต้องการผักบุ้งจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้ผักบุ้งมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 50 – 60 บาท ทำให้ชาวบ้านที่ปลูกผักบุ้งขายมีรายได้เสริมเข้าครัวเรือนเฉลี่ยวันละ 500 – 1,000 บาทต่อราย บางรายยึดอาชีพปลูกผักบุ้งขายมานานกว่า 10 ปี สามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรีได้

นายประเสริฐ แบรัมย์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านบ้านม่วงเหนือ บอกว่า ปลูกผักบุ้งขายเป็นอาชีพเสริมมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ละวันจะต้องเก็บผักบุ้งส่งให้กับร้านค้าประจำวันละ 40 กิโลกรัม โดยทางร้านจะรับซื้อประจำในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ไม่ว่าช่วงนั้นราคาผักบุ้งจะถูกหรือแพงกว่านี้ก็ตาม ทำให้มีรายได้จากการปลูกผักบุ้งขายวันละ 800 บาท

ด้านนายประยูร พะนมรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านม่วงเหนือ กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นจากการทำนาแล้วชาวบ้านในหมู่บ้าน และบ้านม่วงพัฒนา หันมาปลูกผักบุ้งขายเป็นอาชีพเสริมกว่า 40 ครัวเรือนเพราะเป็นพืชที่มีอายุสั้นและใช้น้ำน้อย และผักบุ้งของชาวบ้านที่ปลูกยังปลอดสารเพราะใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ผสมแกลบ ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดโดยแต่ละวันชาวบ้านก็จะมีออเดอร์ส่งผักบุ้งให้ลูกค้าขาประจำไม่น้อยกว่ารายละ40 กิโลกรัม หากเป็นช่วงเทศกาลก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ