ข่าว

"โกสต์(แดง)ด่างวัว"เครฟิชเงินล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - สุรัตน์ อัตตะ

         หลังที่กระแสการเลี้ยง “กุ้งเครฟิช” หรือ “กุ้งสวยงาม” กำลังเป็นที่นิยมจนสามารถสร้างราคาให้กับกุ้งสายพันธุ์ต่างๆได้ตั้งแต่ราคาหลักร้อย จนไปถึงหลักล้านบาท จึงเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาเลี้ยงกุ้งกันแทบทุกครัวเรือน เพื่อที่จะต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจแบบครัวเรือน หรืออาจจะพัฒนาการเพาะพันธุ์กุ้งจนก้าวสู้การเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงกุ้งสวยงามจนเป็นที่รู้จักของตลาดกุ้งสวยงามจนทำให้ทุกวันนี้เริ่มมีการเปิดเป็นตลาดนัดซื้อขายกุ้งทั้งในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยในแต่ละครั้งที่มีการจัดตลาดซื้อขายกุ้งประชาชนและบรรดาฟาร์มกุ้งต่างๆก็จะเดินทางไปร่วมงานเพื่อหาเลือกซื้อกุ้งมาเป็นพ่อแม่พันธุ์กันเป็นจำนวนมาก

"โกสต์(แดง)ด่างวัว"เครฟิชเงินล้าน

       กระทั่งล่าสุดเสี่ยเจ้าของร้านอาหารหอบเงินล้านซื้อกุ้งโกสต์ด่างวัว(สีแดง)เพศผู้ มีชื่อว่า“เจ้าขุนช้าง”ของ กนกภูมิ ศิริรัตน์หรือโต้ เจ้าของฟาร์มบ้านป่าเครฟิสคากี้โกสต์ ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้กระแสเครฟิชฟีเว่อร์ได้รับความสนใจทั้งจากลูกค้าและเจ้าของฟาร์มเป็นทวีคูณแล้วมันมีดีอะไรที่เครฟิชโกสต์ด่างวัว มีราคามูลค่าสูงถึงเพียงนี้ จนได้รับการยืนยันจากบรรดาสาวกเครฟิชและเจ้าของฟาร์มว่าโกสต์(แดง)ด่างวัวเป็นเครฟิชที่มีราคาสูงที่สุดในขณะนี้ 

        ยิ่งไปกว่านั้นปลายสัปดาห์ที่แล้ว(4-5 มี.ค.60)ทางกลุ่ม “CRAYFISH O.M.G.” เปิดโลก “กุ้งเครฟิช” หรือ “กุ้งสวยงาม” ก็ได้จัดงานใหญ่“CRAYFISH BIGSURPRISE” บริเวณลานเดอะมอลล์ พาร์ค ข้างน้ำตกหน้าห้างเดอะมอลล์ โคราช ไฮไลท์พบกับกุ้งค่าตัวแพงหลัก 100,000 บาท ถึง 1 ล้านบาท ประมูลกุ้งจากฟาร์มต่างๆเพื่อการกุศลและบูธอุปกรณ์เลี้ยงกุ้ง พร้อมกิจกรรมเทิดพระเกียรติรัชกาลที่9  ก็ยิ่งทำให้กระแสเครฟิชได้รับความสนใจมากขึ้นตามลำดับ   

"โกสต์(แดง)ด่างวัว"เครฟิชเงินล้าน    

       “ต้องบอกว่าเครฟิชสายพันธุ์โกสต์จะได้รับความนิยมมากที่สุดและมีราคาซื้อขายสูงที่สุดในปัจจุบัน โดยเฉพาะโกสต์(แดง)ด่างวัว มีการซื้อขายระดับหลักล้าน จุดเด่นของมันก็คือมีสีเดียว ตัวเดียวในโลก แต่ละตัวจะมีสี มีลายที่ไม่เหมือนกัน ราคาขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละฝ่ายที่จะตกลงกัน ส่วนใหญ่จะซื้อไปเสริมบารมี ใครได้ครอบครองจะทำมาค้าขายร่ำรวยและเป็นหนึ่งเดียวในโลกเหมือนกับกุ้ง ซึ่งมันเป็นความเชื่อนะ”

        ยิ่งศักดิ์ พูลศักดิ์ เจ้าของบีบี ฟิช ฟาร์ม(BB Fish Farm)ผู้เพาะเลี้ยงและจำหน่ายกุ้งสวยงามหรือเครฟิช ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการให้เหตุผลที่โกสต์ด่างวัว สีแดงมีราคาสูง ขณะที่กุ้งโกสต์โดยทั่วไปราคาซื้อขายราคาอยู่ที่หลักพันยันหลักหมื่นเท่านั้นและเครฟิชแต่ละฟาร์มจะมีโกสต์ด่างวัวเฉลี่ยคอกละ 2-3 วันเท่านั้น ซึ่งลักษณะเด่นของโกสต์ด่างวัวจะมีสีขาวเป็นพื้น แล้วมีลวดลายเหมือนวัวเป็นจุดๆ กระจายไปทั่ว ทั้งก้าม หัว และลำตัว แต่ละจุดสีไม่ติดเป็นแพจนเกิดสีเต็ม

"โกสต์(แดง)ด่างวัว"เครฟิชเงินล้าน

        ที่จริงโกสต์ด่างวัวนั้นมีหลากหลายสี ซึ่งเป็นด่างที่หลายๆ คนหมายปอง หวังมีครอบครองในคอลเลคชั่น อาจมีลักษณะแบบต่างๆ ตามที่ว่ามาผสมผสานกันในตัวเดียวได้ เช่น อาจจะมีด่างวัวปนกับด่างแบบอื่นๆ ในตัวเดียวกัน หรือมีลุ้นในการลอกคราบแต่ละครั้ง ว่าจะด่างมากขึ้น หรือสีกลับมา เครฟิชนั้นจะมีเปลือกหนาเป็นชุดเกราะคลุมส่วนหัว-อกและลำตัว ส่วนขา  มี 2 ประเภทคือขาเดินและขาว่ายน้ำ สำหรับขาเดินจะมี 5 คู่ด้วยกัน ขาเดินคู่แรกสุดเป็นก้ามที่แข็งแรงใหญ่ไว้ป้องกันตัวและต่อสู้  ส่วนขาว่ายน้ำนั้นจะเป็นแผ่นแบนๆ

         ต้องบอกว่าเครพิชไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองบ้านเรา แต่นำเข้ามาจากต่างแดน โดยส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเซียตะวันออก และออสเตรเลีย ปัจจุบันมีการค้นพบมากกว่า 500 ชนิดแล้ว โดยมากกว่าครึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ในธรรมชาติกุ้งเครฟิชจะอาศัยอยู่ตามโขดหินหรือใต้ขอนไม้อยู่ในทั้งลำธาร หนองน้ำ และทะเลสาป เครฟิชในโลก แบ่งออกเป็นหลายตระกูล แต่ที่นิยมเลี้ยงในบ้านเราแบ่งเป็น 3 สายประกอบด้วย กุ้งสายพี หรือกุ้งก้ามหนามหรือกุ้งสีมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาและยุโรป กุ้งสาย ซี. หรือกุ้งก้ามเรียบ กุ้งป่า มีถิ่นกำเนิดในโซน ออสเตรเลีย ปาปัวนิวกินี และอินโดนีเซีย และสุดท้ายกุ้งเครแคระ เพราะมีขนาดเล็ก 3-4 ซม.   

     เครฟิชทั้ง 3 สายมีหลักการเลี้ยงที่คล้ายคลึงกัน โดยธรรมชาติ กุ้งทุกชนิดชอบออกหากินในเวลาคืน ไม่ชอบแสง ดังนั้นกลางวันอาจจะนอนหรือหลบทั้งวัน จึงต้องการที่หลบซ่อนและปิดบังจุดที่กุ้งจะปีนหลบหนีได้ ยกเว้นกุ้งที่ได้รับการเพาะเลี้ยงจะคุ้นเคยกับการเลี้ยงและฝึกอาหาร มีก้ามเป็นอาวุธไว้ต่อสู้ป้องกันตัวเอง กุ้งตัวผู้จะมีขนาดของก้ามที่ใหญ่โตสง่างาม สีสรรสวยงามและแข็งแรงกว่ากุ้งตัวเมีย    และแยกกันกินแยกกันอยู่หรืออาจจับคู่ในระยะสั้นๆ จึงไม่ควรเลี้ยงปนกันหลายตัวในที่แคบๆ ส่วนมากจะกุ้งจะไม่จำว่าเป็นคู่ของมัน ถ้าหิวหรือลอกคราบอาจทำร้ายกันได้เสมอ

        ผู้เลี้ยงสามารถเลี้ยงกุ้งเครฟิช ในภาชนะใดๆก็ได้ ที่มีการถ่ายเทน้ำที่ดี ไม่ร้อนเกินไป อุณหภูมิน้ำ ประมาณ 23 -28 องศา อาจจะเป็นครึ่งบกครึ่งน้ำก็ได้ น้ำครึ่งตู้ น้ำเต็มตู้ก็ได้ หากจะเลี้ยงหลายๆตัวแต่ต้องกว้างขวางเพียงพอ กุ้งใหญ่ขนาด 3-4 นิ้ว 1 ตัว ใช้พื้นที่อย่างน้อย 1 ฟุต ถ้าจะเลี้ยงหลายตัวควรเลือกเลี้ยงกุ้ง สายเดียวกัน ไซซ์ไล่เลียกัน เพื่อให้มันสามารถปกป้องตัวเองได้ มิเช่นนั้นกุ้งตัวเล็ก มักจะถูกรังแกและมีโอกาสที่จะถูกจับกิน ที่สำคัญต้องที่หลบซ่อนใช้ขอนไม้ กระถางดินเผา กระถางต้นไม้แตกๆ อุปกรณ์ที่เจาะเป็นโพรง หรือท่อพีวีซีตัด เป็นท่อนๆให้กุ้งหลบอาศัยในเวลากลางวัน สิ่งสำคัญต้องปิดฝาหรือจุดที่กุ้งจะปีนหนีได้ 

     สำหรับกุ้งเครฟิชที่ได้รับความนิยมเลี้ยง เพาะพันธุ์และจำหน่ายในประเทศไทย มีดังนี้

     1.บลูเพิร์ล(Cherax Albidus.) มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย โตเต็มที่ 6-8 นิ้ว มีอายุ 4-8 ปี บลูเพิร์ล เป็นกุ้งชนิดหนึ่งที่ผู้เลี้ยงหลายคนนั้นหวังอยากได้ครองครอง จะเรียกได้ว่าเป็น สุดยอดของกุ้งเครฟิชในประเทศไทย บลูเพิร์ลเป็นกุ้งที่เลี้ยงน้ำค่อนข้างเย็น ก้าวร้าวเล็กน้อย ลักษณะที่สังเกตุได้ชัดคือสีเปลือก จะมีสีฟ้า จนฟ้าเข้ม ก้ามหนา ใหญ่ ข้อก้ามขาว ตาดำสนิท ปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้กุ้งสามารถปรับสภาพให้เข้ากับประเทศไทยแล้ว และผู้เลี้ยงเครฟิชส่วนใหญ่จะมีกุ้งชนิดนี้ไว้ในครอบครองแล้ว

      2.เดสทรัคเตอร์(Cherax Destructor.) มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย โตเต็มที่ 6-8 นิ้ว อายุประมาณ 4-8 ปี เดสทรัคเตอร์ เป็นกุ้งที่หลายๆคนที่เลี้ยงกันอยู่ขณะนี้ เข้ามาในประเทศได้ไม่นานก็สามารถเพาะพันธุ์ได้ และมีขายทั่วไป เป็นกุ้งที่ถือว่าทน และมีความคล้ายคลึงกับ บลูเพิร์ล แต่ต่างกันตรงที่มีหลากหลายสี ตั้งแต่น้ำเงินเข้ม น้ำตาลไหม้ น้ำตาลเขียว น้ำตาลกาแฟ สีดำ ขาว ฯลฯ ซึ่งสีเหล่านี้ก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ ข้อก้ามสีแดง กินเก่ง ดุ ก้าวร้าว อาหารกินทุกอย่าง

      3.ก้ามแดง(Cherax Quadricarinatus.) มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย โตเต็มที่ 12 นิ้วโดยประมาณ มีอายุประมณ 4 ปี ก้ามแดงเป็นกุ้งชนิดแรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยทดลองเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร เป็นกุ้งมีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างเร็วและมีขนาดที่ใหญ่ คนไทยเรียกกันว่า บลูล็อป และที่เด่นอีกอย่างคือ แถบด้านข้างของก้ามที่มีสีแดง สีส้ม เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของกุ้งชนิดนี้ ซึ่งจะพบแถบสีที่บริเวณก้ามของเพศผู้เท่านั้น แต่ในเพศเมียนั้นจะไม่มีแถบสี เลี้ยงง่ายและมีการปรับตัวให้เข้าต่อสภาพแวดล้อมที่รวดเร็ว ทนต่อทุกสภาพอากาศ

      4.ม้าลาย(Cherax Peknyi.) มีถิ่นกำเนิดแถบปาปัวนิวกินี และ อีเรียจาย โตเต็มที่ 5-6 นิ้วโดยประมาณ อายุประมาณ 4 ปี กุ้งม้าลายเป็นกุ้งสาย C ตัวแรกๆที่มีการนำเข้ามาในประเทศไทย เป็นกุ้งที่ค่อนข้างเลี้ยงง่าย กุ้งที่มีลายเป็นปล้อง ดำขีดขาวเหมือนกับม้าลาย และมีสีส้มเหลือบๆ แต่ในต่างประเทศเรียกกว่ากุ้งเสือ เพราะมีลายพาด มีนิสัยที่ค่อนข้างก้าวร้าว ชอบหลบ ก้ามขนาดใหญ่ ทั้งแถบขาว และแถบฟ้าผสมเทา กุ้งส่วนมากที่พบในประเทศไทยจะเป็นกุ้งที่นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย มีการเพาะพันธุ์นั้นมีค่อนข้างน้อยเพราะสีสรรไม่ค่อยเป็นที่ต้องการของของกลุ่มนักเลี้ยงเท่าที่ควร

     5.แอปปิค็อต(Cherax holthuisi.) มีถิ่นกำเนิดแถบ ปาปัวนิวกินี และ อีเรียจายา โตเต็มที่ 5-6 นิ้วโดยประมาณ อายุประมาณ 4 ปี เป็นกุ้งที่มีสีส้มทั้งตัว คล้ายๆ แคร็อต แต่ในประเทศไทยมีการนำเข้ามาจาก อินโิดนีเซีย ที่นำเข้ามามีทั้งสี ส้มเข้ม และส้มอ่อนๆเลี้ยงยาก เจริญเติบโตช้า เป็นกุ้งที่ชอบหลบ

     6.นิวเรด(Cherax Sp.Red Brick.) มีถิ่นกำเนิดแถบปาปัวนิวกินี และ อีเรียจายาเช่นกัน โตเต็มที่ 5-8 นิ้วอายุประมาณ 4 นิวเรดเป็นกุ้งอีกตัวที่เป็นที่นิยมกันของกลุ่มผู้เลี้ยง เนื่องจากเป็นกุ้งที่มีสีแดงเลือดหมู และมีน่าสนใจในการเลี้ยงเป็นอย่างมาก ลักษณะเด่นของกุ้งชนิดนี้มีลำตัวสีแดงเลือดหมูทั้งตัว ก้ามมีขนาดใหญ่ และแถบของก้ามนั้นมีสีขาวหรือสีครีม มี 2 แบบ คือ กุ้งที่แดงทั้งตัว กับกุ้งที่แดง แค่หัวแต่ตัวจะออกเขียวผสมเทา ซึ่งหลายคนเรียกว่า อิเรี่ยนไทเกอร์ หรือ บลูบริก

     7.บลูมูน(Cherax Sp.Blue Moon.) มีถิ่นกำเนิดแถบ ปาปัวนิวกินี และ อีเรียจายาอีกเช่นกัน โตเต็มที่ 5-6 นิ้ว อายุประมาณ 4 ปี บลูมูน เป็นกุ้งตัวสีน้ำเงินเข้มผสมเทา มีจุดขาวผสมบริเวณลำตัว ทำให้มองดูเหมือนดาวบนฟ้าตอนกลางคืน ก้ามสีน้ำเงินเข้ม ขอบก้ามครีม ขาสีน้ำเงิน ปลายหางสีส้มหรือเหลืองเป็นกุ้งที่สวยงามมากอีกตัว ที่มาจากแถบ ปาปัวนิวกินี แถบ อีเรียจายา แต่ในประทเศไทย สีของกุ้งลดลงไปมาก และการเลี้ยงค่อนข้างยากเพราะเป็นกุ้งนำเข้าและอัตราการลอกคราบนั้นถือว่าต่ำมาก

     8.อิเรี่ยน จาย่า(Cherax Sp.Irian Jaya.) มีถิ่นกำเนิดแถบ ปาปัวนิวกินี และ อีเรียจายา โตเต็มที่ 5-6 นิ้ว มีอายุประมาณ 4 ปี อีเรียน จายา เป็นกุ้งที่ลำตัวมีสีน้ำเงินเข้ม หลังชมพูม่วง ก้ามใหญ่ สีน้ำเงินเข้ม มีแถบทีครีมที่ขอบก้าม แต่ในบางตัวนั้นอาจมีสีอื่นที่หลากหลาย ในต่างประเทศเรียกกุ้งชนิดนี้ว่า กุ้ง 7 สี หรือ กุ้งเรนโบว์ เพราะใน 1 ตัวนั้นมีสีที่ไม่ค่อยซ้ำกัน

     10.ไตรคัลเลอร์(Cherax Sp.Tri-Color.) มีถิ่นกำเนิดแถบปาปัวนิวกินี และ อีเรียจายา โตเต็มที่ 5-6 นิ้ว มีอายุประมาณ 4 ปี ไตรคัลเลอร์เป็นกุ้งอีกตัวที่มีสีสันนั้นไม่ค่อยแน่นอน  หัวและลำตัวนั้นมีสีน้ำตาล ก้ามมีสีน้ำเงิน และ ปลายหางสีส้ม

     11. ออเร้นเทล เพอ(Cherax Sp.Orange Tail.) ,uถิ่นกำเนิดแถบ ปาปัวนิวกินี และ อีเรียจายา โตเต็มที่ 5-6 นิ้ มีอายุประมาณ 4 ปี ออเร้นเทล เป็นกุ้งเจ้าปัญหาอีกตัวที่นำเข้ามาแล้วเกิดข้อสงสัยว่ามันคืออะไร การนำเข้ามาช่วงแรกนั้น ก้าม หัว ลำตัว นั้น มีสีดำ และกางมีสีส้ม แต่เมื่อนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย นั้น ออก เป็นสีฟ้า สีน้ำเงิน สีม่วง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือเค้าเดิม เลยทำให้มีการตั้งชื่อใหม่ จาก ออเร้นเทล เป็น เพอเพิล

            อ้าว ใครสนใจเครฟิชสายพันธุ์ไหนก็ลองเลือกหากันได้ แต่ก็ต้องดูเงินในประเป๋าด้วยนะจะบอกให้!

                                                               .................................................................... 

ที่มา: http://aqua.c1ub.net/forum

        BB Fish Farm /fb     

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ