ปลูกเมล่อนแก้จน

           เกษตรกรนำพื้นที่ 72 ตารางเมตร กางมุ้งปลูกเมล่อน พืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ใช้น้ำน้อย เหมาะกับช่วงหน้าแล้ง สร้างรายได้ คราวละ 3-4 หมื่นบาท

            เกษตรกรนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจาอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้กับพืชเศรษฐกิจ โดยใช้พื้นที่ดินที่ว่างเปล่า ขนาด 72 ตาราง เมตร ที่มีขนาด กว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตรของนายชาญพิชญ์คูณ ถาวรศักดิ์เกตุ เกษตรกรตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร เจ้าของสวนต้นเมล่อน ฟาร์ม ถูกติดตั้งดัดแปลง ทำโรงเรือนแบบกางมุ้ง ซึ่งภายในได้ทำการเพาะปลูกเมล่อน ปลอดสารเคมีแบบกางมุ้งจำนวนกว่า 200 ต้น ซึ่งกำลังออกผลผลิตเต็มที่พร้อมตัดส่งให้กับลูกค้าสร้างรายได้ถึง คราวละ 3-4 หมื่นบาท และกำลังขยายความรู้ ไปยังชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อปลูกเป็นการสร้างรายได้ ในการทำการเกษตรแบบใหม่ นำมาประยุกต์ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง

           นายชาญพิชญ์คูณ ถาวรศักดิ์เกตุ เกษตรกรสวนเมล่อน ระบุว่า เมล่อน เป็นพืชที่ปลูกได้ในพื้นที่น้อย และเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย เหมาะสำหรับการทำการเกษตรในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งจะใช้เวลาปลูก เพียง 2-3 เดือน ก็สามารถออกผลิต ตัดจำหน่ายได้ โดยจะจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ ไม่ต่ำกว่า 100 บาท ในการตัดจำหน่ายแต่ละครั้ง จะมีรายได้ ไม่ต่ำคราวละ3- 4 หมื่นบาท

        สำหรับ เมล่อน เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับแตงไทย บางท้องที่เรียก แตงเทศ หรือ แตงหอม มีลักษณะผลค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักมาก เปลือกหนา ส่วนผิวเปลือกมีทั้งแบบเรียบ และแบบมีร่างแห หรือ มีร่องยาวจากขั้วถึงท้ายผล เนื้อมีสีส้มหรือสีเหลือง มีรสหวาน และมีกลิ่นหอมซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมปลูกกันมาก และเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งเป็นพืชที่ใช้พื้นที่น้อย เมื่อเทียบกับรายได้สูง ซึ่งผู้ใดที่สนใจในการทำการเกษตรแบบใหม่ นำมาประยุกต์ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ของรัชกาลที่9 สอบถามความรู้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่นายชาญพิชญ์คูณ ถาวรศักดิ์เกตุ เกษตรกรตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตรเบอร์โทรศัพท์ 097-9217226