"นครปฐม"นับว่าเลื่องชื่อเรื่องการปลูกส้มโอมากที่สุดแห่งหนึ่ง ทว่า ส่วนใหญ่นิยมปลูกในระบบเคมี แต่ก็มีเกษตรกรบางคนตระหนักถึงความสำคัญต่อระบบสุขภาพ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงหันมาทำสวนส้มโออินทรีย์กันมากขึ้น
หนึ่งนั้นคือ อุบล การะเวก อายุ 64 ปี หัวหน้ากลุ่มเกษตรอินทรีย์หอมเกร็ด เครือข่ายสามพรานโมเดล เจ้าของสวนส้มโออินทรีย์หนึ่งเดียวในพื้นที่ ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม เล่าย้อนให้ฟังว่า ครอบครัวทำสวนส้มโอมาตั้งแต่ยุคของพ่อแม้ ไม่เคยใช้ยาฆ่าหญ้าแต่ยอมรับว่าใช้ปุ๋ยเคมีบำรุงต้นส้ม
ต่อเมื่อปี 2552 หลังเออรี่รีไทร์จากอาชีพรับราชการ ลุงเขาก็กลับมาสานต่ออาชีพทำสวนส้มโอจากพ่อ พร้อมกับหันมาศึกษาเรื่องการทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมักชนิดต่างๆ เพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี
“แต่ก่อนนี้ก็ทำตามความรู้ที่เรามี ยังไม่มีเพื่อนมีกลุ่ม เพราะเกษตรกรที่ทำสวนส้มโอด้วยกัน ไม่มีใครสนใจเรื่องการทำแบบอินทรีย์เลย ด้วยความเชื่อที่ว่าเคมีคือหัวใจหลักของการทำสวนส้มโอ จนเมื่อเราได้มาเจอกับ มูลนิธิสังคมสุขใจ ที่ขับเคลื่อนโครงการสามพรานโมเดล ทำให้ได้รับองค์ความรู้ในเรื่องมาตรฐานการทำเกษตรแบบอินทรีย์แบบครบวงจร ทำให้เรามีพี่เลี้ยงที่คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการจัดการในเรื่องต่างๆ อีกทั้งยังแนะนำช่องทางการตลาดให้อีกด้วย”ลุงอุบล ให้ข้อมูล
พื้นที่ทั้งหมด 8 ไร่ ลุงอุบลปลูกส้มโอสองสายพันธุ์ คือพันทองดีและขาวน้ำผึ้ง แซมด้วยกล้วยหลากหลายพันธุ์ มะนาว เพื่อให้มีผลผลิตขายได้ทั้งปี
การทำสวนส้มโอระบบอินทรีย์ ลุงอุบล สะท้อนจากประสบการณ์ตรงให้ฟังว่า ตั้งแต่เลิกใช้ปุ๋ยเคมีสามารถ ลดต้นทุนได้ราว 80- 90 % เพราะรายได้ส่วนใหญ่หมดไปกับการซื้อปุ๋ยเคมี แต่เมื่อเข้าสู่ระบบอินทรีย์ ต้นทุนเราแค่ซื้อมูลสัตว์ (สุกร) เพื่อมาหมักทำปุ๋ยคอก ส่วนสมุนไพรที่ทำน้ำหมักชีวภาพต่างๆ เราหาเองได้ซื้อก็ราคาไม่สูงนัก นอกจากนี้มีค่าน้ำมันสำหรับเครื่องตัดหญ้า ค่าไฟไปสำหรับการให้น้ำทางสปริงเกอร์ และอื่นๆ บ้างเท่าที่จำเป็น ส่วนเงินที่เหลือนั่น คือ กำไร
ทั้งนี้ ในสวนของลุงอุบล นอกจากส้มโอ ยังปลูก กล้วยหลากหลายพันธุ์ รวมทั้งมะนาว แซมไว้ระหว่างต้นส้มโอ เพื่อให้มีผลผลิตเหล่านี้ขายได้ทั้งปี และที่สำคัญการทำสวนอินทรีย์ลดต้นทุนเห็นได้ชัด เพราะจากที่ลุงบอกเล่าถึงวิธีการใช้ปุ๋ย ใช้สารชีวภาพต่างๆ มีค่าใช้จ่ายน้อยมาก แต่ที่ลงทุนมากเห็นจะเป็นแรงกาย และความเพียรมากกว่า
ลุงอุบลยังแจกแจง คุณลักษณะพิเศษของส้มโอที่ผลผลิตระบบอินทรีย์ให้ฟังว่า ส้มโออินทรีย์ เนื้อจะแห้งไม่ฉ่ำน้ำ แม้จะเก็บไว้หลายวัน ส่วนความหวานนั้นอาจจะน้อยกว่าเคมี แต่ไม่ต่างกันมากหวานแบบธรรมชาติ ทั้งนี้ส้มโอที่ใช้เคมีก่อนเก็บจะใส่ปุ๋ยเพิ่มความหวาน เท่ากับว่ากินความหวานจากปุ๋ยเคมีเข้าไป
ส่วนราคาขายพ่อค้าทั่วไปรับซื้อเท่าเคมี คือพันธุ์ทองดีราคาหน้าสวนลูกละ 40 บาท ขาวน้ำผึ้ง 100-120 แต่ถ้าส่งขายห้องอาหารของโรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ ผ่านโครงการสามพรานโมเดล พันธุ์ทองดี ลูกละ 90 บาท ขาวน้ำผึ้งลูกละ 150 บาท
ปัจจุบัน สวนของลุงอุบล มีพื้นที่ทั้งหมด 8 ไร่ ปลูกส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งและพันธุ์ทองดีเป็นหลัก จำนวน 300 ต้น (อายุต้น 5 ปี) ให้ผลผลิตแล้วกว่า 20 ต้น ช่วงปีแรกอาจจะให้ลูกได้ไม่เยอะ แต่เมื่อต้นโตเต็มที่ พันธุ์ขาวน้ำผึ้งให้จะผลผลิตประมาณ 50-60 ลูกต่อต้น/ปี
ส่วนพันธุ์ทองดี จะได้ประมาณ 80-100 ลูกต่อต้น/ปี ซึ่งปกติส้มโอจะออกลูกครั้งแรกตอนอายุ 6 ปี และถ้าไม่มีปัญหาเรื่องรากเน่าโคนเน่าสามารถให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้นาน 20-30 ปีเลยทีเดียว
เมื่อตัวเองค้นพบความสุขที่แท้จริงในวัยเกษียณ ก็หวังอยากให้เพื่อนเกษตรกรที่ปลูกส้มโอ หันมาทำสวนส้มโอระบบอินทรีย์กันมากขึ้น อย่างน้อยช่วยลดต้นทุนในการผลิต อย่างมากคือเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองและคนในครอบครัวรวมถึงผลพลอยได้ที่กระจายสู่ผู้บริโภคโดยไม่คิดหวงความรู้
สำหรับผู้ที่สนใจ อยากเรียนรู้ เคล็ดลับความสำเร็จการทำสวนส้มโออินทรีย์ สอบถามและขอข้อมูลเพิ่มเมได้ที่ คุณอุบล การะเวก โทร. 089-134-8499 หรือ Facebook/สามพรานโมเดล