ข่าว

สมุนไพรตีนนก ช่วยขับลม ใบตำพอกแผล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - นายสวีสอง

          ตีนนก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีชื่อวิทยาศาสตร์ Vitex pinnata L. จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา (LAMIACEAEหรือLABIATAE) มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า สมอป่า สมอหิน สวองหิน (นครราชสีมา), ตะพุน ตะพุนทอง ตะพุ่ม (ตราด), เน่า (ลพบุรี), สมอตีนนก (ราชบุรี), ไข่เน่า (นครราชสีมา, ลพบุรี), กะพุน ตะพรุน (จันทบุรี), กานน สมอกานน (ราชบุรี, ประจวบคีรีขันธ์), นนเด็น (ปัตตานี), กาสามปีก (ภาคเหนือ), ตีนนก สมอบ่วง (ภาคกลาง), โคนสมอ (ภาคตะวันออก), นน สมอตีนเป็ด (ภาคใต้), ลือแม (มาเลย์-นราธิวาส), ไม้ตีนนก (ไทลื้อ) เป็นต้น

สมุนไพรตีนนก ช่วยขับลม  ใบตำพอกแผล

         ตีนนกมีลักษณะ ลำต้นตรง สูงได้ประมาณ 5-10 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มแผ่กว้างทึบ เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลปนเทา แตกเป็นสะเก็ดยาว ตามกิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมสี่มุมตามยาว ทั้งกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนนุ่มขึ้นปกคลุม พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าชายหาด และชายป่าพรุทั่วทุกภาคของประเทศ  ใบประกอบแบบฝ่ามือ มีใบย่อย 3-5 ใบ ออกจากจุดเดียวกัน เรียงแบบตรงข้ามและตั้งฉาก ก้านช่อใบยาวประมาณ 5-14 เซนติเมตร ส่วนก้านใบย่อยไม่มี ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปใบหอกถึงรูปไข่แกมใบหอก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-13 เซนติเมตร ใบย่อยตรงกลางจะมีขนาดใหญ่กว่าใบย่อยด้านข้าง ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบ เนื้อใบหนา หลังใบเป็นสีเขียวเข้ม มีขนสาก ๆ ขึ้นประปราย ส่วนท้องใบมีสีจางและมีขนนุ่มขึ้นหนาแน่น เส้นแขนงใบมี 8-14 คู่ เส้นใบย่อยเป็นแบบเส้นร่างแห มองเห็นได้ชัดเจนทางด้านท้องใบ ยอดอ่อนมีขนคล้ายกำมะหยี่ ผิวใบด้านบนเรียบ ส่วนด้านล่างมีขนสั้น ๆ ขึ้นหนาแน่น ขนนุ่ม ก้านใบแผ่เป็นปีก ก้านใบย่อยสั้นมาก

สมุนไพรตีนนก ช่วยขับลม  ใบตำพอกแผล

         ออกดอกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง โดยจะออกที่ซอกใบและที่ปลายกิ่ง ยาวประมาณ 7-20 เซนติเมตร ดอกย่อยมีจำนวนมาก กลีบดอกมี 5 กลีบ กลีบบนมี 4 กลีบ ส่วนกลีบล่างมี 1 กลีบ กลีบดอกเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วงอ่อน โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปถ้วย ปลายแยกออกเป็น 2 ปาก ดอกมีเกสรเพศผู้ 4 อัน ติดกับหลอดกลีบดอก แบ่งเป็นอันยาว 2 อัน สั้น 2 อัน เกสรเพศเมียมีรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ส่วนกลีบเลี้ยงดอกจะมี 5 กลีบ เชื่อมติดกันเป็นรูปหลอดรูปถ้วย ปลายแยกเป็นติ่งรูปสามเหลี่ยม มีขนสั้น ไม่มีก้านดอก[1]ออกดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 

         ผลเป็นผลเดี่ยว สด ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยงติดคงทน ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีม่วงถึงดำ ภายในมีเมล็ดเดียวแข็ง[1]เป็นผลในช่วงประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม

       สรรพคุณทายาเปลือกต้น แก่น และราก นำมาบดให้เป็นผง ใช้ละลายกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไข้ รากมีสรรพคุณเป็นยาช่วยขับลม ผลใช้เป็นยาแก้บิด ใบใช้ตำพอกแผล 

ที่มา: https://medthai.com/herb

         www.เกร็ดความรู้.net/สมุนไพรไทย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ