ข่าว

ใต้จะมีฝนหนักถึงวันที่ 22 ม.ค.!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

          กรมชลประทาน เดินหน้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม รับมือสถานการณ์น้ำท่วม หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกหนักภาคใต้ ช่วง 18-22 ม.ค.60 พร้อมเดินเครื่องระบายน้ำได้ตลอดเวลา

         นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้จะมีฝนตกต่อเนื่องดังนี้ ในวันที่ 17 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ส่วนช่วงวันที่ 18-22 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล

 

ใต้จะมีฝนหนักถึงวันที่ 22 ม.ค.!

 

         พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างมาก ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือลงไปติดตั้งเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักรอบใหม่

         สภาพฝนในพื้นที่ภาคใต้ ณ วันที่ 18 ม.ค. 60 วัดปริมาณฝนสูงสุดในพื้นที่ต่างๆได้ ดังนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง 32 มิลลิเมตร อ.บางสะพาน 28.2 มิลลิมเตร จ.ชุมพร อ.สวี 129 มิลลิเมตร อ.เมือง 125 มิลลิเมตร อ.ทุ่งตะโก 225 มิลลิเมตร และเขาทะลุ 162 มิลลิเมตร จ.สุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ 77 มิลลิเมตร อ.ท่าชนะ 63 มิลลิเมตร อ.พุนพิน 9.6 มิลลิเมตร จ.นครศรีธรรมราช อ.เมือง 108 มิลลิเมตร อ.นบพิตำ 80 มิลลิเมตร อ.ปากพนัง 0.8 มิลลิเมตร จ.ตรัง อ.ห้วยยอด 9.2 มิลลิเมตร อ.เมือง 19 มิลลิเมตร จ.สงขลา อ.เมือง 25 มิลลิเมตร จ.สะตูล อ.เมือง 3.2 มิลลิเมตร จ.ปัตตานี อ.สายบุรี 28 มิลลิเมตร จ.ยะลา อ.รามัน 56 มิลลิเมตร และจ.นราธิวาส อ.เจาะไอร้อง 35.8 มิลลิเมตร ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีแนวโน้มจะมีฝนตกในพื้นที่ภาคใต้ไปจนถึงวันที่ 22 ม.ค.60 นี้

 

ใต้จะมีฝนหนักถึงวันที่ 22 ม.ค.!

 

         สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันมีพื้นที่ที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 4 จังหวัดคือ ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนจังหวัดที่ยังต้องติดตามสถานการณ์น้ำและการระบายน้ำ มีดังนี้ จ.ชุมพร มีน้ำท่วมถนนสายเอเชีย เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.คืนที่ผ่านมา(17 ม.ค. 60) สูง 30–40 เซนติเมตร ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนที่คลองชุมพรบริเวณสี่แยกปฐมพร ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา(17 ม.ค.60) ขณะนี้มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 10 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำ คาดว่าระดับน้ำจะสูงสุดกว่าระดับถนนประมาณ 21 เซนติเมตร เวลาประมาณ 08.00 น. และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในเวลา 12.00 น.วันนี้(18 ม.ค. 60) จ.สุราษฎร์ธานี ฝนที่ตกลงมาในรอบนี้ ไม่ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีเพิ่มขึ้น และแนวโน้มในแม่น้ำตาปี ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

ใต้จะมีฝนหนักถึงวันที่ 22 ม.ค.!

 

          จ.ตรัง ยังคงมีน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำปากแม่น้ำตรัง อ.กันตัง ไม่ส่งผลกระทบพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน จ.พัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำปากแม่น้ำต่างๆที่ไหลไปลงทะเลสาบสงขลา จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 280 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกลงมาอีกในพื้นที่ และที่จ.สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลา บริเวณอ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และอ.สิงหนคร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.1 – 0.2 เมตร แนวโน้มลดลง

 

ใต้จะมีฝนหนักถึงวันที่ 22 ม.ค.!

 

          ในส่วนของเครื่องสูบน้ำที่ได้ทำการติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.60 ที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำจากส่วนกลางลงไปเพิ่มเติมอีก 40 เครื่อง รวมกับเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนทั้งสิ้น 279 เครื่อง ปฏิบัติงานอยู่ 152 เครื่อง สำรองไว้พร้อมปฏิบัติงาน 127 เครื่อง เพื่อเสริมศักยภาพการระบายน้ำและเตรียมพร้อมรอรับฝนตกหนักรอบใหม่ พร้อมกันนี้ ได้ย้ำให้ทุกโครงการชลประทานในภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานสถานการณ์น้ำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงทีต่อไปแล้ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ