ข่าว

ท่องเที่ยวเชิงเกษตรคึกคัก!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - ดลมนัส กาเจ

            ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำอย่างปัจจุบัน คนไทยเราหันมาเที่ยวในประเทศมากขึ้นเป็นลำดับ จะเห็นจากช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือที่เรียกว่าไฮซีซัน (High Season) สถานที่ท่องเที่ยว ีรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือ และอีสาน ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปื่มด่ำกับอากาศซที่หนาวเย็น

 

ท่องเที่ยวเชิงเกษตรคึกคัก!

 

             สอดคล้องกับ ของท่านอธิบดีกรมวิชาการเกษตร “สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ” ที่ได้รับรายงานว่า ตามที่กรมวิชาการเกษตรได้ส่งเสริมและพัฒนาศูนย์วิจัยพืชสวน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร และศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมัน จำนวน 20 แห่งทั่วประเทศ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรหรืออะโกรทัวร์ริซึ่ม (Agro-Tourism) ปีที่นี้ที่พักถูกจองเต็มไปหมดจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โน้น เพราะที่พักราคาถูกประมาณ 400-800 บาท/คืน และห้องพักรวมราคา 150 บาท/คน/คืน ทั้งยังมีจุดกางเต๊นท์ ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เต็มที่ 150-300 คน/ศูนย์/คืนด้วย

            ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ ที่คนไทยเราหันมาเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น เงินทองจะได้ไม่ต้องไหลออกนอประเทศ สำหรับสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดคือ อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะศูนย์ฯในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก แพร่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย เลย และหนองคาย คาดว่าปีนีเ จะมีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมมากขึ้นถึง 2.5 แสนคน เพิ่มจากปี 2559 ที่มีจำนวน 159,000 คน

 

ท่องเที่ยวเชิงเกษตรคึกคัก!

 

            อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาทางกรมวิชาการเกษตร ได้ให้ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรแต่ละแห่งได้มีการปรับปรุงทัศนียภาพให้สวยงาม จัดทำแปลงไม้ดอกไม้ประดับให้มีความหลากหลาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ นอกจากนั้น ยังจัดเตรียมที่พัก จุดกางเต๊นท์ เส้นทางและกิจกรรมท่องเที่ยวภายในศูนย์ฯ ร้านอาหาร ห้องน้ำสะอาด ลานจอดรถ และระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวชมด้วย

           กระนั้นขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยวชมภายในศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร ให้ช่วยกันรักษาความสะอาด ที่สำคัญ คือ อย่าเด็ดดอกไม้ ต้นพืช หรือเก็บผลไม้ที่อยู่ในแปลงทดลองภายในศูนย์ฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองวิจัยกันอยู่

 

ท่องเที่ยวเชิงเกษตรคึกคัก!

 

           ทางคุณจำรอง ดาวเรือง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร บอกว่า ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรที่ได้รับความนิยมมาก คือ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง และแม่จอนหลวง) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (วาวี) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก (ดอยมูเซอ) ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ (เขาค้อ) และศูนย์วิจัยพืชสวนเลย (ภูเรือ) ในช่วงหน้าหนาวจะคึกคักมากโดยเฉพาะช่วงที่ต้นนางพญาเสือโคร่งออกดอก

           ส่วนในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออก มีศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตรมีศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรภูเก็ต และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกระบี่ จะได้รับความนิยมในช่วงหน้าร้อน

           หากสนใจเข้าเที่ยวชมใน “ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้านการเกษตร” ของกรมวิชาการเกษตร สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร โทร. 0-2940-5484 ครับ!

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ