ข่าว

สะท้อนความจริง“คนปลูกยาสูบ!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

         บรรดาพืชที่เกษตรกรปลูกหลังทำนาในภาคเหนือหลายจังหวัดนิยมปลูก"ยาสูบ"เพราะเป็นพืชอายุสั้น ผู้รับซื้อกำหนดราคาแน่นอน อย่างพื้นที่ จ.น่าน เกษตรกรรวมกลุ่มปลุกพบว่ามีรายได้ดีกว่าทำนาข้าว พื้นที่ 1 ไร่ สร้างผลกำไรถึงไร่ละ 1 หมื่นบาท ใช้เวลา 2 เดือนเก็บใบบ่มได้แล้ว

 

สะท้อนความจริง“คนปลูกยาสูบ!

        สกาวรัตน์ โลหะโชติ นายกสมาคมผู้เพาะปลูกผู้บ่มและค้าใบยาสูบจังหวัดน่าน บอกว่า จ.น่าน มีเกษตรกรที่ปลูกใบยาสูบ 1,200 ครัวเรือน เฉลี่ยครอบครัวละ 5-7 ไร่ โดยทางโรงบ่มจะเป็นผู้เตรียมปัจจัยการผลิตให้ทุกอย่าง พร้อมส่งพนักงานไร่ไปส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกที่ได้รับอนุญาติให้ปลูกใบยาสูบอย่างถูกต้อง และรับซื้อทั้งหมดในราคา กก.ละ 6-7.50 บาท ทำให้เกษตรกรไม่เสี่ยงด้านราคา และมีความมั่นคงทางอาชีพอย่างแน่นอน เพียงลงทุน 7,000-8,000 บาทต่อไร่ใช้เวลาปลูก 60 วันเก็บอีกรวมเวลา 90 วัน และขายได้แล้วมีกำไรไร่ละ 1 หมื่นบาท

สะท้อนความจริง“คนปลูกยาสูบ!

 

       “การปลูกใบยาสูบค่อนข้างมีความมั่นคงเนื่องจากสามารถนำใบขึ้นทะเบีบยนการปลูกไปขอกู้เงินกับธนาคารเพื่อการเกาตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ที่สำคัญสามารถปลูกแบบปลอดสารเคมี เพราะใบยาสูบที่ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นก็ต้องการใบยาที่มีสะอาด ทุกขั้นตอนจะมีพนักงานไร่ไปตรวจดูว่าเกษตกรได้ปฏิบัติตามหลักการปลูกที่ถูกต้องหรือไม่ หากพบปัญหาจะต้องแก้ไขทันทีเนื่องจากมีผลต่อคุณภาพใบยา”สกาวรัตน์ กล่าว

         เช่นเดียวกับ สังข์ทอง แพงจีน ผู้ซึ่งนอกจากจะเป็นเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบแล้ว ยังทำหน้าที่ผู้ตรวจไร่ผู้ปลูกใบยาสูบด้วย บอกว่า ปกติการทำการเกษตรของคนในพื้นที่จะมีการปลูก ข้าว ข้าวโพด พริก ผักกาด สลับกันไปโดยขึ้นอยู่กับราคาผลผลิตขณะนั้นว่าพืชตัวใดมีแรงจูงใจด้านราคามากน้อยเพียงใด แต่อีกส่วหนึ่งจะปลูกใบยาสูบ อย่างเขาปลูกมาแล้ว 30 ปีแล้ว ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าราคาพืชต่าง ๆ ยกเว้น ใบยาสูบมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งตลอดจนมีความเสี่ยงในด้านราคาที่ไม่แน่น ขณะที่ใบยาสูบโรงบ่มที่รับซื้อ ราคา กก.ละ6-7.50 บาท เป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้

 

สะท้อนความจริง“คนปลูกยาสูบ!

สกาวรัตน์ โลหะโชติ 

        ด้าน วีระชัย ไชยสุวรรณ ผู้จัดการโรงบ่มใบยาสบหนอง อยู่ที่ 189 ม.10 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน บอกว่า มีเกษตรกกว่า 100 ราย ที่ปลูกใบยาสูบส่งให้โรงบ่มของเขา พื้นที่ปลุก 380 ไร่ เฉลี่ยรายละ 5-7 ไร่ โดยในพื้นที่ อ.ท่าวังผา ส่วนใหญ่จะปลูกยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนีย

         โดยทางโรงบ่มจะจัดหาปัจจัยการผลิตทุกอย่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกที่ขึ้นทะเบียน ไม่ว่าจะเป็นกล้าใบยาสูบ เคมีภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น โดยเฏษตรกรเตรียมกล้ายาสูบในเดือนสิงหาคมปลูกเดือนกันยายน พอธันวาคมเก็บเกี่ยวใบได้แล้ ลงทุนไร่ละ 8,000 บาท ใบยาสูบทางส่งโรงบ่มรับซื้อในราคา กก.ละ 7 บาท บางรายขายได้ไร่ละถึง 2 หมื่นบาท หักต้นทุนแล้วได้เป็นหมื่นต่อไร่

          นับเป็นอาชีพที่น่าสนใจนอกจากอายุสั้น ราคาแน่นอนแล้วยังใช้น้ำน้อยอีกด้วย

 

สะท้อนความจริง“คนปลูกยาสูบ!

ขั้นตอนการปลูก

         วิธีการปลูกต้นใบยาสูบจะเริ่มจากการปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะสม จากนั้นยกร่องแปลง ขุดหลุม ปลูกแต่ละต้นให้ห่างกันประมาณ 60 ซม.โดยที่ก้นหลุมใส่ปุ๋ยรวม ทั้งมีระยะเวลาในการใส่ปุ๋ยตามความเหมาะสม แต่ต้องใส่เฉพาะเท่านั้น หากใส่ปุ๋ยที่ใช้กับพืชอื่น แม้ต้นใบยาสูบจะงอกงามแต่คุณภาพไม่ไดี

         พอปลูกแล้วทิ้งระยะให้ต้นเจริญเติบโต พอถึงอายุ 45 วัน จะใส่ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เมื่อออกดอกจะตอนดอกและแก้ไขปรับปรุงต้นจากลำต้นด้านล่างขึ้นไป

          สำหรับผลผลิตต่อไร่นั้น ในแต่ละแปลงจะอยู่ที่คุณภาพแต่โดยเฉลี่ยแล้วพื้นที่ 1 ไร่ บางรายได้เมื่อมีการบ่มเป็นใบยาแห้งได้มากถึง 2,800 กก.

 

สะท้อนความจริง“คนปลูกยาสูบ!

 

          อย่างไรก็ตาม การที่จะได้ผลผลิตมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการการดูแล บำรุงรักษา หากเกษตรกรทำตามขั้นตอของโรงบ่ม ก็จะไม่มีปัญหาเว้นแต่ในช่วงนั้นมีปัญหาภัยธรรมชาติ เท่านั้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ