โดย - โต๊ะข่าวเกษตร
หากไล่เรียงระดับความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม คงไม่มีใครปฏิเสธว่า“ขยะมูลฝอย”เป็นหนึ่งในปัญหาที่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงระดับวิกฤติ ปัจจุบันคนไทยทั่วประเทศผลิตขยะรวมกันเฉลี่ยวันละ 73,560 ตัน หรือปีละ 26.85 ล้านตัน แต่มีขยะที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ใหม่เพียง 4.94 ล้านตัน ส่งไปกำจัดอย่างถูกต้อง 8.34 ล้านตัน
ที่เหลือกว่า 13 ล้านตัน เป็นขยะที่ถูกกำจัดอย่างไม่ถูกต้องถึง 7.15 ล้านตัน และอีก 6.22 ล้านตัน เป็นขยะตกค้างในพื้นที่ต่างๆ สร้างปัญหาขยะล้นเมือง ก่อให้เกิดทั้งมลพิษ เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคและสารพิษ ที่ย้อนกลับมาทำลายสุขภาพของเราทุกคน นี่จึงถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือและสกัดกั้นไม่ให้ปัญหาลุกลามเกิดความรุนแรงขึ้นมา
นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้ขับเคลื่อนแผนงานการจัดการปัญหาขยะมูลฝอยอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะการนำแนวคิดการจัดการขยะเหลือศูนย์ หรือ “Zero Waste” ภายใต้หลัก 3Rs คือ Reduce การลดปริมาณขยะ Reuse การใช้ซ้ำ และ Recycle การนำกลับมาใช้ใหม่ มาเผยแพร่ให้ชุมชนทั่วประเทศนำไปใช้จัดการขยะ หนึ่งในกิจกรรมสำคัญ คือ โครงการประกวดชุมชนปลอดขยะ Zero Waste เฉลิมพระเกียรติ 89 พรรษา 89 ชุมชน ปี 2559 เป้าหมายสนับสนุนการสร้างความร่วมมือระหว่างชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้มีการจัดการขยะอย่างครบวงจร ภายใต้หลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
“โครงการประกวดชุมชนปลอดขยะ Zero Waste เป็นโครงการต่อเนื่องที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 โดยที่ผ่านมามีชุมชนให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก ขณะที่ในการจัดโครงการครั้งล่าสุดปี 2559 มีชุมชนเข้าร่วม 417 แห่ง โดยผู้ชนะเลิศระดับประเทศประกอบด้วย 1.ประเภทชุมชนขนาดเล็ก ชุมชนโรงพยาบาลค่ายวิภาวดีรังสิต เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 2.ชุมชนขนาดกลาง ชุมชนบ้านหนองสะแกกวน หมู่ที่ 6 เทศบาลตำบลโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ และ 3.ชุมชนขนาดใหญ่ ชุมชนบุลำดวนใต้ เทศบาลเมืองบุรีรัมย์”
นายสากล กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม วางแผนจัดตั้งชุมชนทั้ง 3 แห่งให้เป็น “ศูนย์เรียนรู้ชุมชนปลอดขยะต้นแบบ” เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และขยายเครือข่ายการจัดการปัญหาขยะไปยังชุมชนและหน่วยงานอื่นๆ ขณะเดียวกันยังวางแผนนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ศึกษาดูงานการจัดการสิ่งแวดล้อมและปัญหาขยะของแต่ละชุมชนที่ได้รับรางวัล เพื่อเป็นสื่อกลางนำข้อมูลเผยแพร่เป็นต้นแบบการเรียนรู้ให้ชุมชนอื่นๆนำไปเป็นแนวทางปรับใช้จัดการปัญหาในท้องถิ่นตัวเองต่อไป โดยเบื้องต้นได้ลงพื้นที่ “ชุมชนบ้านหนองสะแกกวน” และ “ชุมชนบ้านลำดวนใต้” จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 20-21 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา
นายสมชัย กอชัยศิริกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า สิ่งที่ถือเป็นจุดเด่นในการดำเนินงานชุมชนปลอดขยะของ ชุมชนบ้านหนองสะแกกวน หมู่ 6 มีหลายประการ นับตั้งแต่ความมุ่งมั่นตั้งใจของเทศบาลและชาวบ้านในการสร้างชุมชนปลอดขยะ ขณะที่สมาชิกในชุมชนทุกคนก็ให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ มีการนำหลัก 3Rs มาประยุกต์เพื่อจัดการขยะมูลฝอย คัดแยกขยะทุกครัวเรือน ชุมชนมีกิจกรรมการลดปริมาณขยะอย่างชัดเจน เช่น ร้านค้าเข้าร่วมกิจกรรมร้านค้าเพิ่ม ทรัพย์ วัดมีส่วนร่วมนำปิ่นโตออกบิณฑบาต อบรมการจัดการขยะอินทรีย์ ขยะประเภทต่างๆ และเชื่อมโยงขยายเครือข่ายไปยังกลุ่มอื่นๆ เช่น โรงเรียน กลุ่มเยาวชน อย่างต่อเนื่อง
“จากการดำเนินกิจกรรมชุมชนปลอดขยะตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน ชาวบ้านในชุมชนมีความรู้ เข้าใจ สามารถนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งเป็นขยะอินทรีย์ร้อยละ 48 ขยะรีไซเคิลร้อยละ 20 ขยะทั่วไปร้อยละ 31 อีกทั้งชุมชนยังเป็นแหล่งเรียนรู้การเลี้ยงไส้เดือนกำจัดขยะอินทรีย์ ธนาคารขยะเพิ่มทรัพย์ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง การปลูกพืชผักจากปุ๋ยมูลไส้เดือน ให้แก่หน่วยงานต่างๆเข้ามาศึกษาดูงาน ที่สำคัญเป็นแบบอย่างให้ชุมชนใกล้เคียงพัฒนาชุมชนของตัวเองให้เป็นชุมชนปลอดขยะด้วย”นายสมชัย กล่าว
ด้าน นายยุทธชัย พงศ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า โครงการชุมชนปลอดขยะของชุมชนบุลำดวนใต้ มีสมาชิกเข้าร่วม 394 หลังคาเรือน จาก 484 หลังคาเรือน สมาชิกมีการคัดแยกขยะรีไซเคิลขายทุกครัวเรือน อย่างไรก็ตามด้วยความที่ชุมชนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ในบริบทของชุมชนเมือง จึงทำให้มีกิจกรรมที่หลากหลาย โดยเครือข่ายที่เป็นกำลังหลักจัดการปัญหาขยะ คือ เครือข่ายหอพัก เช่น “หอพักรุ่งโรจน์” ที่ผู้พักอาศัยต้องยอมรับข้อปฏิบัติร่วมกันในการจัดการขยะ คัดแยกขยะอินทรีย์ไปทำปุ๋ยหมัก น้ำชีวภาพ, “กรีนสมายล์ อพาร์ทเมนท์” เป็นหอพักต้นแบบโครงการหอพักสีเขียว มีการจัดการสิ่งแวดล้อม น้ำเสีย ขยะ สร้างพื้นที่สีเขียว และปลูกพืชสวนครัวนำไปประกอบอาหารได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายที่โดดเด่นอีกกลุ่มหนึ่ง คือ เครือข่ายร้านค้าริมฟุตบาทหรือร้านค้ารถเข็น ซึ่งเข้าร่วมโครงการร้านค้าปลอดโฟม โดยแม่ค้าจะช่วยหยุดผลิตขยะประเภทโฟมโดยลด ละ เลิก การให้บริการกล่องโฟมกับลูกค้า เพื่อลดความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันยังได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ เช่น โรงเรียนเทศบาล 3 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 มหาวิทยาราชภัฏบุรีรัมย์ วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ และ กศน.บุรีรัมย์ ที่ต่างล้วนยื่นมือเข้ามาสนับสนุนทำให้การจัดการปัญหาขยะในชุมชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จากตัวอย่างการดำเนินงานจัดการขยะของทั้ง 2 ชุมชน ได้สะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีถึงผลสัมฤทธิ์ของกระบวนการสร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน จึงควรอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะหยิบมาเป็นบทเรียนเพื่อ “สานต่อ” ให้เกิดความยั่งยืนในการจัดการปัญหาขยะให้กับชุมชนของเราเองต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง