ข่าว

"เพลี้ยจักจั่น"รุมกินโต๊ะช่อมะม่วง!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

             กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง ที่ขณะนี้มะม่วงอยู่ในระยะแทงช่อดอกจนกระทั่งติดผลอ่อน เนื่องจากสภาพอากาศเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวให้ระวังการระบาดของเพลี้ยจักจั่น ตัวอ่อนและตัวเต็มวัยทำลายใบอ่อน ช่อดอก ก้านดอก และยอดอ่อน แต่ระยะที่ทำความเสียหายมากที่สุด คือระยะที่มะม่วงกำลังแทงช่อดอก โดยเพลี้ยจักจั่นจะดูดน้ำเลี้ยงจากช่อดอกทำให้แห้งและดอกร่วง ติดผลน้อยหรือไม่ติดเลย

 

"เพลี้ยจักจั่น"รุมกินโต๊ะช่อมะม่วง!

 

            ระหว่างที่เพลี้ยจักจั่นดูดกินน้ำเลี้ยงจะถ่ายมูลมีลักษณะเป็นน้ำเหนียวๆ คล้ายน้ำหวานเปียกเยิ้มติดตามใบ ช่อดอก ผล และรอบๆทรงพุ่ม ต่อมาตามใบช่อดอกจะถูกปกคลุมโดยเชื้อราดำ ทำให้พืชสังเคราะห์แสงลดลง ใบที่ถูกดูดน้ำเลี้ยงในระยะเพสลาดจะบิดงอโค้งลงด้านใต้ใบ ตามขอบใบจะปลายใบแห้ง ซึ่งพบระบาดทั่วไปทุกแห่งที่ปลูกมะม่วงตลอดทั้งปี แต่พบมากและทำความเสียหายช่วงมะม่วงเริ่มแทงช่อดอกจนถึงระยะดอกตูม และจะเพิ่มขึ้นเมื่อดอกใกล้บาน คือช่วงธันวาคมถึงมกราคม และจะลดลงเมื่อมะม่วงเริ่มติดผล อย่างไรก็ตาม เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ กรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำวิธีการป้องกันกำจัด ดังนี้

 

"เพลี้ยจักจั่น"รุมกินโต๊ะช่อมะม่วง!

 

                1. สำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งในช่วงมะม่วงเริ่มแทงช่อดอกจนกระทั่งติดผล

                2. อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ ผีเสื้อตัวเบียน แมลงวันตาโต แตนเบียน มวนตาโต เชื้อราบิวเวอร์เรีย

                3. ระยะที่ดอกมะม่วงกำลังบาน การพ่นน้ำเปล่าในตอนเช้าจะช่วยให้การติดมะม่วงดีขึ้น แต่ควรปรับหัวฉีดอย่าให้กระแทกดอกมะม่วงแรงเกินไป

                4. ระยะมะม่วงใกล้จะออกดอกประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ให้พ่นด้วยสมุนไพรน้ำส้มควันไม้ อัตราน้ำส้มควันไม้ 1 ส่วน ต่อน้ำ 100 - 150 ส่วน หรือจะใช้สารเคมีกำจัดแมลงคาร์บาริล (เซฟวิน 85) อัตรา 60 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร

 

"เพลี้ยจักจั่น"รุมกินโต๊ะช่อมะม่วง!

 

                5. ระยะมะม่วงเริ่มแทงช่อดอกให้พ่นด้วยน้ำส้มควันไม้ ที่อัตรา 1 ส่วน ต่อน้ำ 150-200 ส่วน หรือใช้สารเคมีกำจัดแมลงคาร์บาริล (เซฟวิน 85) อัตรา 60 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร

                6. ในสวนมะม่วงที่มีการระบาดรุนแรงควรเปลี่ยนไปพ่นด้วยสารเคมีกำจัดแมลง หรือสาร ไพรีทรอยด์สังเคราะห์

                7. การตัดแต่งกิ่งภายหลังเก็บผลผลิต จะช่วยลดที่หลบซ่อนของเพลี้ยจักจั่นลงได้ และทำให้การพ่นสารเคมีกำจัดแมลงมีประสิทธิภาพดีขึ้น

               ดังนั้น เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ หากเริ่มพบการเข้าทำลายของเพลี้ยจักจั่นให้แจ้งการระบาด และขอคำปรึกษาในการป้องกันกำจัด ได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ