ส้มจีนทะลัก! ผุดมาตรการเข้มรับ หวั่นศัตรูพืชสอดไส้!

 

           กรมวิชาการเกษตรผุดมาตรการคุมเข้มส้มนำเข้าจากจีน ประสานศุลกากรสร้างจุดตรวจร่วม สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ 100% ทุกตู้คอนเทนเนอร์ หวั่นพ่อค้าซุกซ่อนสอดไส้ส้มมีกิ่งก้านใบเข้ามาในประเทศ ฟันไม่เลี้ยงผู้ฝ่าฝืน ต้นฤดูยอดนำเข้าแนวโน้มพุ่งสูง

           นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยถึงมาตรการควบคุมการนำเข้าผลส้มแมนดารินจากสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า การนำเข้าจากจีนในปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คือเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2559 มีการนำเข้าแล้ว 505 ชิปเม้นท์ รวมกว่า 13,400 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 400  ล้านบาท ขณะที่ช่วงต้นฤดูนำเข้าของปี 2558 มีการนำเข้าเพียง 460 ตัน มูลค่า 19 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าผ่านด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

 

 

           อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมวิชาการเกษตร ได้กำหนดมาตรการควบคุมและตรวจสอบการนำเข้าส้มแมนดารินจากจีนเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการซุกซ่อนสอดไส้ผลส้มมีใบเล็ดลอดเข้ามาภายในประเทศ ซึ่งอาจมีศัตรูพืชกักกันติดมาและแพร่ระบาดสร้างความเสียหายให้กับแหล่งปลูกพืชตระกูลส้มของไทยได้

           โดยก่อนหน้านี้ กรมวิชาการเกษตรได้ขอความร่วมมือสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรประจำกรุงปักกิ่ง ให้ประสานและเจรจากับกระทรวงควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักโรค (AQSIQ)  ของจีนให้เพิ่มเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าส้มที่ส่งออกมายังไทย ทั้งยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้องเย็นและผู้จำหน่ายงดรับผลส้มที่มีใบและกิ่งติดมาเกินข้อกำหนดมาจำหน่ายด้วย และชี้แจงให้ทราบแนวปฏิบัติในการแจ้งนำเข้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (NSW) รวมถึงการสุ่มตรวจและการปล่อยสินค้าด้วย

 

 

          “ขณะนี้เราได้ออกประกาศด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง เรื่องขั้นตอนการแจ้งนำเข้าและตรวจปล่อยส้มแมนดารินจากจีน โดยด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบังได้ขยายเวลาดำเนินงานตรวจสอบสินค้าในช่วงฤดูกาลนำเข้าส้มเป็น 24 ชั่วโมง ทุกวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสินค้า 100% หรือทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่แจ้งนำเข้า โดยใช้วิธีการเปิดตรวจแบบทีเชป (T Shape) คือ เปิดเป็นช่องถึงหน้าตู้และเจาะลงถึงพื้น เพื่อป้องกันการซุกซ่อนผลส้มที่มีใบและกิ่งติดมาในบริเวณหน้าและก้นตู้คอนเทนเนอร์ จากนั้นจะปิดสติกเกอร์บนฝาตู้คอนแทนเนอร์ที่ผ่านการตรวจแล้ว” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

           นอกจากนั้น กรมวิชาการเกษตรยังร่วมมือกับสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง โดยสร้างจุดตรวจร่วมและกำหนดแนวทางในการตรวจปล่อยส้ม พร้อมตั้งไลน์กลุ่มระหว่างเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชและเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อสื่อสารการตรวจปล่อยสินค้า และป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร อาทิ ปลอมตราประทับตรวจปล่อยบนใบขนขาเข้า ปลอมตราประทับชื่อนายตรวจพืช และปลอมลายมือชื่อนายตรวจพืช ซึ่งจะทำให้การควบคุมและตรวจสอบมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

 

 

          “จากการที่ด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบังได้ร่วมมือกับด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังตรวจสอบส้มที่นำเข้าจากจีนอย่างเข้มงวด ในช่วงต้นฤดูกาลนำเข้าปีนี้ยังไม่พบผู้ที่ทำผิดเงื่อนไขนำเข้าผลส้มที่มีกิ่ง ก้านและใบติดมา ขณะที่ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2558 ตรวจพบการนำเข้าผลส้มมีกิ่งก้านใบติดมาถึง 41 ชิปเม้นท์ และปีนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปรกติ เนื่องจากมีการดำเนินมาตรการอย่างรัดกุมและคุมเข้มอย่างใกล้ชิด หากตรวจพบว่า ผู้ประกอบการลักลอบนำเข้าผลส้มผิดข้อกำหนด หรือปลอมแปลงเอกสาร กรมวิชาการเกษตรจะดำเนินการตามมาตรการของกฎหมายอย่างเด็ดขาด” นายสุวิทย์กล่าว