ข่าว

"เพชรสังฆาต"รักษาริดสีดวงหายขาด!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เพชรสังฆาต"รักษาริดสีดวงหายขาด!

 

           "เพชรสังฆาต" นับเป็นสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณทางยา รักษา บรรเทาอาการโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริดสีดวงทวาร ที่ปัจจุบันเกิดขึ้นบ่อยกับคนทุกเพศ ทุกวัย สมุนไพรชนิดนี้ปราบได้อย่างชะงัดทีเดียว! มีชื่อเรียกต่างกันว่า สันชะควด ขั่นข้อ สามร้อยต่อ และชื่อทางวิทยาศาสตร์ Cissus quadrangularis L. 

            ลำต้น เป็นไม้เถาเลื้อย ลักษณะเถาสี่เหลี่ยมมีข้อปล้องต่อกัน เปลือกเถาเรียบสีเขียวอ่อน ขนาดของแต่ละปล้องยาว 3-15 เซนติเมตร มีมือสำหรับเกาะยึด ยื่นออกมาจากตรงข้อระหว่างใบ

           ใบ เป็นใบเดี่ยว ปลายใบมน โคนใบเว้า ขอบใบหยักมนห่าง ๆ แผ่นใบเรียบมัน มีเขียวสด

           ดอก สีแดง กลีบดอกมี 4 กลีบ ออกเป็นช่อเล็กๆ ขนาด 2-4 เซนติเมตร

 

"เพชรสังฆาต"รักษาริดสีดวงหายขาด!

 

           ผล ทรงกลม ผลเรียบเป็นมัน ขนาด 4-7 มิลลิเมตร ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จัดจะมีสีดำหรือแดง ภายในผลมี 1 เมล็ด ทรงกลมสีน้ำตาล 

           ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้นและแสงแดดปานกลาง

           สรรพคุณทางยา : ช่วยขับลม แก้จุกเสียดแน่นท้อง รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับน้ำเหลืองเสีย ช่วยสมานกระดูก แก้อาการหูน้ำหนวก เลือดกำเดา ประจำเดือนมาไม่ปกติช่วยให้เจริญอาหาร รักษาโรคลักปิดลักเปิด และดังที่กล่าวข้างต้นโดดเด่นมากในการรักษาโรคริดสีดวง ซึ่งสรรพคุณที่ว่ามานี้ต่างก็มีอยู่ในส่วนต่างๆของเพชรสังฆาต ราก ต้น ใบ เถา 

           ทั้งนี้ การใช้รักษาโรคริดสีดวงทวาร อ้างอิงจากงานวิจัยของ พญ.ดวงรัตน์ เชี่ยวชาญวิทย์ และคณะ ที่ได้ประเมินประสิทธิภาพของสมุนไพรเพชรสังฆาตกับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร 121 คน เปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบันดาฟลอน (Daflon) ผลการวิจัยพบว่าค่าเฉลี่ยคะแนนการประเมินผลไม่แตกต่างกัน ที่สำคัญยังพบว่าค่าใช้จ่ายของแคปซูลเพชรสังฆาตถูกกว่าดาฟลอนถึง 20 เท่า ผลการวิจัยนี้จึงสรุปได้ว่าเพชรสังฆาตสามารถใช้ทดแทนดาฟลอนในการรักษาโรคริดสีดวงทวารได้เป็นอย่างดี

 

"เพชรสังฆาต"รักษาริดสีดวงหายขาด!

 

           วิธีใช้รักษาริดสีดวง : จะใช้เพชรสังฆาตสดหนึ่งปล้อง แต่เนื่องจากมีรสขมและคันคอมาก หากรับประทานไปตรงๆ ปากอาจพองได้ ฉะนั้น จึงแนะนำให้ ตัดเถาสดเป็นปล้องเล็กๆ ปล้องละ 1 เซนติเมตร หุ้มด้วยกล้วยสุก หรือมะขามเปียก แล้วกลืนวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็นหลังอาหาร ติดต่อกัน 10 วันจะเห็นผล ถ้ายังไม่หายดีให้ทานต่ออีก 5 วัน

           อีกวิธี ใช้เพชรสังฆาตตากแห้ง ก่อนบดใส่แคปซูลเบอร์ 2 (หาซื้อได้ตามร้านขายยา) จะได้ผงยา 250 มิลลิกรัม ให้ทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้งก่อนอาหาร และก่อนนอน ติดต่อกัน 1 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้น ถ้าเริ่มหายดีแล้วให้ทานติดต่ออีก 7 วันจะทำให้หายขาด

           ข้อควรจำ : แม้ว่าเพชรสังฆาตจะมีสรรพคุณทางยา มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่หากกินไม่ถูกต้องอาจส่งผลข้างเคียง เช่น ตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะไม่ปกติ ฯลฯ โดยวิธีที่เหมาะสมคือ กินพร้อมกับอาหารหรือหลังอาหารทันที ที่สำคัญควรกินอาหารที่มีประโยชน์ร่วมกับการออกกำลังกาย แค่นี้ก็จะปลอดภัยทั้งจากริดสีดวงทวารและโรคอื่นๆ 

           แหล่งที่มาข้อมูล : สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล,

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ