ว่างจากนาปีปลูก“แตงโมไร้เมล็ด”

               

           “เกาะแก้วฟาร์ม” ตลาดเกษตรประชารัฐ ของ จ.ร้อยเอ็ด ริมถนนสายร้อยเอ็ด-โนนทอง (ก่อนถึงมรภ.ร้อยเอ็ด 2 กม.) ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ กลายเป็นจุดหมายปลายทางของตลาดแตงโมไร้เมล็ดสายพันธุ์แฮปปี้ แฟมิลี่ (Happy Famaly) คุณภาพดีอีกแห่งหนึ่ง ที่บริษัท ซินเจนทา ซีดส์ จำกัด ได้เข้ามาส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกรในเครือข่ายกว่า 300 ราย ให้สามารถปลูกแตงโมอินทรีย์คุณภาพขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานได้เป็นผลสำเร็จในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี

 

 

               ภัคพล ชวีวัฒน์ เจ้าของเกาะแก้วฟาร์มและเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมไร้เมล็ดพันธุ์แฮปปี้ แฟมิลี่ บอกว่าหันมาปลูกแตงโมที่บ้านเกิด อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากเป็นมนุษย์เงินเดือนกว่า 10 ปี เริ่มแรกควักเงินทุนส่วนตัว 3 แสนบาท ลงทุนปลูกเมล่อนในโรงเรือนระบบน้ำหยดจำนวน 2 โรงเรือน พร้อมรับแตงโมจาก จ.นครพนม ทั้งกินรี ตอบิโด และไร้เมล็ดมาขาย ปรากฏว่าขายดีจนเจ้าของไร่ผลิตส่งไม่ทัน ด้วยคุณสมบัติที่เนื้อแน่น หวานกรอบ สีแดงสวย น้ำหนักดี ราคาสูง จากนั้นจึงเริ่มศึกษาช่วงชีวิตของแตงโม และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนจากการปลูกเมล่อนมาเป็นแตงโมทีละน้อย โดยสืบเสาะหาเมล็ดพันธุ์แตงโมไร้เมล็ดแฮปปี้ แฟมิลี่ มาปลูก เนื่องจากเห็นว่าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากและขายได้ราคาดี แต่ปรากฏว่าได้ผลไม่ดีเท่าที่คาดหวัง เนื่องจากเปอร์เซ็นต์การงอกต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

             “ผมโชคดีได้รับคำแนะนำจากตัวแทนจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ บริษัท ซินเจนทา ซีดส์ จำกัด พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำถึงแปลงปลูก ทั้งขั้นตอนวิธีการเพาะเมล็ดและการปลูก การบำรุงเพื่อให้แตงโมได้ขนาดและน้ำหนักตามมาตรฐานของพันธุ์  จึงปรับวิธีการปลูก การดูแล บำรุง ตามขั้นตอนและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่บริษัทควบคู่ไปกับการทำเกษตรผสมผสาน จนวันนี้พื้นที่นา 40 ไร่ ปลูกแตงโมทั้งหมด มีทั้งปลูกในโรงเรือนและพื้นที่ฟาร์มเปิด เริ่มจากปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตใช้เวลาแค่ 60 วันหรือ 2 เดือนเป็นอย่างช้า”

 

 

             เจ้าของเกาะแก้วฟาร์มเปิดเผยต่อว่า สำหรับแตงโมไร้เมล็มแฮปปี้ แฟมิลี่นั้น เป็นสายพันธุ์ที่ใช้น้ำน้อย ทนต่อโรคและแมลง ปลูกง่ายและขายได้ราคากว่าพันธุ์อื่น ๆ โดยใน 1 ต้น จะเก็บไว้เพียง 1 ลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ  แต่ละลูกจะมีน้ำหนักเฉลี่ย 4–6 กิโลกรัม ราคาขายส่งอยู่ที่ 25 บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายปลีกหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท โดยใน 1 ไร่ จะได้ผลผลิตอยู่ที่ 3,000 กิโลกรัม และมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 2.5-3 หมื่นบาท และเป็นฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจีเอพี ด้วย

             "ของผมจะปลูกได้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี โดยจะพักดินประมาณ 15 วัน ในขณะที่หากปลูกข้าว ข้าวเปลือกจะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาท สภาพดินของพื้นที่ อ.เสลภูมิ มีลักษณะดินร่วนปนทราย ไม่เหมาะกับการปลูกข้าว ปลูกได้เพียงครั้งเดียว เพราะมีปัญหาเรื่องน้ำอยู่แล้ว จึงยิ่งทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ แต่พอหันมาปลูกแตงโม ที่เหมาะสมกับสภาพดิน และใช้น้ำน้อย แถมยังได้ราคาดีกว่า ทำให้ตอนนี้คนในพื้นที่หันมาปลูกแตงโมไร้เมล็ดกันมากขึ้น” ภัคพล กล่าวย้ำ

 

 

             ขณะที่ สมาน กองแก้ว นายอำเภอเสลภูมิ กล่าวว่า แตงโมไร้เมล็ดเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านนิยมปลูกกันมากในพื้นที่ อ.เสลภูมิ เพราะเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ขายได้ราคาดีและมีตลาดรองรับไม่อั้น ที่สำคัญเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยและสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะนิยมปลูกหลังนาหรือเสร็จสิ้นฤดูการเก็บเกี่ยว มีระยะเวลาการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่นานนัก ประมาณ 60-65 วันเท่านั้น เหมาะเป็นอาชีพเสริมรายได้ของชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาเป็นหลัก

            “สอดคล้องกับนโยบายประชารัฐที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหลังนาเพื่อลดพื้นที่ปลูกข้าวตามนโยบายรัฐบาล ขณะนี้ อ.เสลภูมิ มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 400 ราย แตงโมก็เป็นอีกพืชที่เกษตรกรให้ความสนใจ” นายอำเภอเสลภูมิ กล่าวทิ้งท้าย

             แตงโมไร้เมล็ดแฮปปี้ แฟมิลี่ นับเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่ใช้น้ำน้อย ปลูกง่าย ระยะเวลาการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตสั้น และสามารถปลูกได้ดีในพื้นที่ภาคอีสาน สนใจผลผลิตในเครือข่ายเกาะแก้วฟาร์ม โทร.08-1661-5716 ได้ตลอดเวลา