เกษตรฯ จับมือโมเดิร์นเทรด-ตลาดค้าส่ง ล้อมกรอบผัก-ผลไม้ มุ่งยกระดับแก้ปัญหาสารพิษตกค้าง วางกลไกบริหารจัดการซัพพลายเออร์พร้อม เฝ้าระวังควบคุมการใช้สารเคมี
นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. และกรมวิชาการเกษตรได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) และตลาดค้าส่ง 14 ราย ได้แก่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป, บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด,บริษัท บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน), บริษัท เอกชัย ดีสทรีบิวชั่นซิสเทม จำกัด
ตลาดสี่มุมเมือง,ตลาดศรีเมือง,บริษัท วิลล่ามาร์เก็ท เจพี จำกัด, บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โกลเด้น เพลส),บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ดรีเทรล จำกัด,โครงการหลวง,บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท),บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) จำกัด (แม็กซ์แวลู) และบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมวางมาตรการแก้ปัญหาสารพิษตกค้างในผักผลไม้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ
เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมดำเนินมาตรการแบบเข้มข้นให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันเพื่อให้เกิดผลจริงและเป็นรูปธรรม มีเป้าหมายควบคุมและบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน/การผลิตให้มีการใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง เพื่อให้สินค้าผักและผลไม้มีความปลอดภัยสูงขึ้น
โดยผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดจะกำหนดมาตรการ/เงื่อนไขให้ผู้จัดส่งสินค้าหรือซัพพลายเออร์ (Supplier) ทุกราย ควบคุมมาตรฐานโรงคัดบรรจุจีเอ็มพี (GMP) และควบคุมแหล่งวัตถุดิบอย่างเข้มงวด เช่น สินค้าผักผลไม้ควรมาจากฟาร์มมาตรฐานจีเอพี (GAP) ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่เข้าระบบดังกล่าวต้องควบคุมการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยจดบันทึกการใช้สารเคมีที่ใช้ในแปลงเพื่อให้สามารถตรวจสอบต่อไปได้ และผลักดันให้เกษตรกรยื่นคำขอรับรองมาตรฐาน GAP ในแบบรายเดี่ยวหรือรับรองแบบกลุ่ม
“จะเร่งส่งข้อมูลค่าปริมาณสูงสุดของสารพิษตกค้าง (MRL) ที่กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการปรับปรุงล่าสุดปี 2559 ให้กับ สนง.คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อดำเนินการแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุขปรับปรุงค่า MRL ให้ทันสมัยสอดคล้องกันระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อยกเลิกค่า MRL ที่ใช้อยู่ปัจจุบันซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2551 ทั้งนี้ หลายรายการได้กำหนดเพิ่มเติมค่า MRL จากเดิมที่ไม่เคยกำหนด เพื่อใช้ประโยชน์ในการอ้างอิงในการตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารอย่างถูกต้องต่อไป"
น.ส.ดุจเดือน กล่าวเสริมว่าความร่วมมือในการสร้างความปลอดภัยในสินค้าเกษตรระหว่างหน่วยงานจากกระทรวงเกษตรฯ เช่น มกอช.กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับแหล่งจำหน่ายทั้งโมเดิร์นเทรดและตลาดค้าส่ง รวมทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญในการยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหารตลอดห่วงโซ่อาหาร