"ผักชี"ยอดสมุนไพรแก้บิด-ริดสีดวง!

          “ผักชี”เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน มาปลูกในบ้านเรากว่าศตวรรษ ถือเป็นพืชที่มีจุดเด่นด้านกลิ่นหอมและสีสันสวยงาม จึงนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องเทศและใช้โรยหน้าอาหาร  ด้านสรรพคุณทางยามีมากมาย อีกทั้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าสารอาหารอย่างแคลเซียม โพแทสเซียม และเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระดูก ความดันโลหิต และระบบขับถ่ายในร่างกาย
          เป็นไม้ล้มลุก ในวงศ์ UMBELIFERAE ชื่อวิทยาศาสตร์ Coriandrum sativum  L.ชื่อสามัญ Coriander, Chinese Parsley ชื่อเรียกอื่นๆ ผักหอม (นครพนม), ผักหอมน้อย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ผักหอมป้อม, ผักหอมผอม (ภาคเหนือ), ยำแย้ (กระบี่)

 

 

         ลำต้น สูง 8-15 นิ้ว ตั้งตรง กิ่งก้านเล็ก สีเขียว เมื่อแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมน้ำตาล ส่วนรากของต้น รากแก้วสั้น แต่รากฝอยกระจายไปโดยรอบ

        ใบ สีเขียว ออกเรียงคล้ายขนนก รูปทรงพัด โดยใบที่โคนต้นจะมีใหญ่กว่าที่ปลายต้น  

        ดอก ขนาดเล็ก ออกเป็นช่อบริเวณส่วนยอดของต้น มี 5 กลีบ สีขาวหรือชมพูอ่อนๆ

        ผล กลมรี ขนาด 3-5 มิลลิเมตร ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่จัดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล ปลายผลแยกเป็น 2 แฉก ตาวผิวจะมีเส้นคลื่น 10  เส้น กลิ่นหอม รสซ่าอ่อนๆ

        ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด โดยเฉพาะดินร่วน ระบายน้ำได้ มีแสงแดดเต็มวัน

        สรรพคุณทางยา : - ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ คือ ผล เมล็ด และต้นสด ผล แก้โรคบิดหรือถ่ายเป็นเลือด ถ่ายเป็นมูก แก้ริดสีดวงทวาร บำรุงกระเพาะอาหาร และแก้ท้องอืดเฟ้อเมล็ด แก้ปวดฟัน หรืออาการเจ็บปาก ต้นสด แก้หัด ช่วยละลายเสมหะ ขับลม ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และแก้ผื่นแดงไฟลามทุ่ง

 

 

       วิธีการใช้ : -

1. รักษาโรคริดสีดวงทวาร บดผลสดให้แตก ผสมเหล้าดื่มวันละ 3-5 ครั้ง หรือใช้ต้นสด 120 กรัม ใส่นม 2 แก้ว ผสมน้ำตาล ดื่มรับประทาน
2. แก้บิด ตำผลผสมน้ำตาลทรายและน้ำ ดื่มรับประทาน
3. แก้ปวดฟัน ต้มเมล็ดในน้ำเดือด เคี่ยวจนงวด แล้วใช้น้ำอมบ้วนปาก
4. แก้หัดหรือผื่น ต้มต้นแห้งประมาณ 10-15 กรัม หรือต้นสด  60-150 กรัม กับน้ำ แล้วคั้นเเฉพาะน้ำมาดื่มรับประทาน หรือใช้ทาภายนอก
5. แก้ท้องอืดเฟ้อ ใช้ผลประมาณ 2 ช้อนชาต้มน้ำ ดื่มรับประทาน
6. แก้ผื่นแดงไฟลามทุ่ง  หั่นต้นสดให้เป็นฝอย ใส่เหล้า ต้มให้เดือด แล้วนำมาทาบริเวณแผล

ข้อควรระวัง :- กินมากจนเกินไปจะทำให้กลิ่นตัวแรง ตาลาย และหลงลืมง่าย

แหล่งที่มาข้อมูล :  วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล