ข่าว

แยม-น้ำมัลเบอร์รี่ของดี"มวกเหล็ก"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - สุรัตน์ อัตตะ

              แม้ผลสดจะมีรสชาติอร่อย หากแต่แปรรูปก็มีรสชาติไม่ต่างกันสำหรับมัลเบอร์รี่ หรือลูกหม่อนสุก ที่ปัจจุบันนิยมรับประทานกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เต็มไปด้วยสารอาหารวิตามินและแร่ธาตุ อาทิ กรดโฟลิก บำรุงสมองและประสาทเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการอักเสบของหลอดเลือด ทำให้เกษตรกรนิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน สุนีย์ สุวรรณดี เกษตรกรห้วก้าวหน้าอีกรายที่หันมาสนใจปลูกมัลเบอร์รี่ใน ต.หนองย่างเสือ เนื่องจากมองว่ามีสภาพพื้นที่และภูมิอากาศที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของพืชชนิดนี้ โดยเริ่มทดลองปลูกเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้ต้นพันธุ์มาจาก จ.เชียงใหม่ จำนวน 2 ต้น ก่อนขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทุกวันนี้มีประมาณ 600 ต้น บนเนื้อที่ 5 ไร่เศษที่บ้านกลุ่มพระบาท ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ภายใต้ชื่อฟาร์มสายทอง เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งผลิตมัลเบอร์รี่ปลอดสารเคมีแห่งเดียวใน อ.มวกเหล็ก

แยม-น้ำมัลเบอร์รี่ของดี"มวกเหล็ก"

              “มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ เมื่อก่อนทำฟาร์มโคนม ทำไร่ข้าวโพด ปลูกมันสำปะหลัง แต่ปัญหาเรื่องราคาไม่แน่นอน ก็เลยลดจำนวนโคนมลงแล้วหันมาลองปลูกมัลเบอร์รี่ดู ก็คิดน่าจะเป็นพืชตัวใหม่ที่ไปได้ดี เพราะสามารถแปรรูปเพิ่มมูลค่าได้อย่างหลากหลาย” สุนีย์ สุวรรณดี เจ้าของฟาร์มสายทองย้อนอดีตที่ผ่านมาแก่คณะสื่อมวลชนในโครงการสื่อมวลชนสัญจร จัดโดยกรมส่งเสริมการเกษตรระหว่างเยี่ยมชมแปลงปลูกมัลเบอร์รี่ โดยนำต้นพันธุ์มัลเบอร์รี่จากเชียงใหม่มาทดลองปลูกจำนวน 2 ต้น จากนั้นก็มีการขยายพันธุ์ปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีเนื้อที่ปลูกประมาณ 5 ไร่เศษจากเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ โดยผลผลิตที่ได้จะมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และส่วนหนึ่งก็จำหน่ายในลักษณะผลรับประทานสด ซึ่งผลิตภัณฑ์จากฟาร์มประกอบด้วยน้ำมัลเบอร์รี่สดบรรจุขวด ขนาด 250 ซีซี ผ่านกระบวนการสเตอริไลซ์ แยมมัลเบอร์รี่ ไวน์มัลเบอร์รี่ และซอสมัลเบอร์รี่ 

แยม-น้ำมัลเบอร์รี่ของดี"มวกเหล็ก"

              เจ้าของฟาร์มยอมรับว่า แม้จะมีพื้นที่ปลูกแค่ 5 ไร่ แต่สามารถทำรายได้ตลอดทั้งปีเนื่องจากมัลเบอร์รี่ที่ปลูกสามารถให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยผลผลิตที่ได้จะนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ  โดยเป็นผู้ดำเนินการเองในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเก็บเกี่ยว การแปรรูป ตลอดจนการจัดจำหน่าย   โดยมีลูกชายเป็นผู้ช่วยในการดำเนินการ ส่วนผลิตภัณฑ์จะมีทั้งผลสดพร้อมรับประทานและผลิตภัณฑ์แปรรูปในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะน้ำมัลเบอร์รี่บรรจุขวดผ่านกระบวนการสเตอริไลซ์จะได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุดในขณะนี้ โดยมีตลาดหลักจำหน่ายอยู่ที่ตลาดนัดหน้าสำนักงานเกษตรอำเภอมวกเหล็กในทุกวันเสาร์และในงานเทศกาลต่างๆ ที่จังหวัดจัดขึ้น 

แยม-น้ำมัลเบอร์รี่ของดี"มวกเหล็ก"

              เจ้าของผลิตภัณฑ์เด่นอธิบายขั้นตอนการทำน้ำมัลเบอร์รี่พร้อมดื่ม โดยเริ่มจากนำผลมัลเบอร์รี่สดจากสวนที่มีความสุกแดงดำและม่วงดำมาล้างทำความสะอาดและให้สะเด็ดน้ำจำนวน 2 กิโลกรัมต่อน้ำ 10 ลิตร จากนั้นนำไปปั่นผลให้ละเอียดแล้วเอาไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 3 ลิตร จากนั้นนำน้ำมัลเบอร์รี่ต้มสุกและเนื้อผลนิ่มมากรองเอาเฉพาะน้ำแยกกาก (เมล็ดและกาก) ออกทิ้งแล้วเติมน้ำเพิ่มอีก 7 ลิตรเพื่อให้ครบจำนวน 10 ลิตรตามที่กำหนด จากนั้นก็ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปในน้ำมัเบอร์รี่เพื่อเพิ่มความหวานที่ระดับ 14-15 องศาบริกซ์ ใส่กรดมะนาวในปริมาณ 15 กรัมแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดอีกประมาณ 20 นาที ก่อนลดอุณหภูมิลงหรืออุ่นแล้วนำมาบรรจุใส่ขวดที่เตรียมไว้ในปริมาตร 250 ซีซี ปิดขวดด้วยฝาจีบโดยใช้เครื่องอัดฝาจีบ พร้อมทำความสะอาดและปิดฉลากเพื่อรอจำหน่ายต่อไป 

แยม-น้ำมัลเบอร์รี่ของดี"มวกเหล็ก"

              ด้าน ภาณุวัฒน์ แสงเรือง เกษตรอำเภอมวกเหล็ก กล่าวว่า ผลผลิตมัลเบอร์รี่จากฟาร์มสายทองเป็นอีกผลิตภัณฑ์เด่นของอำเภอมวกเหล็กที่เข้ามาดูแลสนับสนุนตั้งแต่การปลูกจนกระทั่งการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ พร้อมกันนี้ยังจัดช่วยดูแลในเรื่องการตลาด โดยสำนักงานเกษตรอำเภอมวกเหล็กมีการจัดตลาดนัดเพื่อจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรที่บริเวณหน้าสำนักงานในทุกวันเสาร์เพื่อเป็นการระบายผลผลิตของเกษตรกรในพื้นที่สู่ผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ยังมีการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสเข้ามาสัมผัสแหล่งผลิตโดยตรงอีกด้วย

             ผลิตภัณฑ์แปรรูปมัลเบอร์รี่จากฟาร์มสายทอง นับเป็นผลิตภัณฑ์เด่นของอำเภอมวกเหล็กที่เกิดจากเกษตรกรต้องการปรับเปลี่ยนวิธีคิดในอาชีพแบบเดิมๆ เพื่อหาพืชทางเลือกใหม่ที่สร้างรายได้ดีกว่านั่นเอง สนใจผลิตภัณฑ์จากมัลเบอร์รี่ หรือดูวิธีการแปรรูปโทร.08-9045-1558 เจ้าของฟาร์มยินดีต้อนรับตลอดเวลา

                                                                            .........................................................................

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ