ข่าว

ไทยจับมือ"อินโดฯ-มาเลย์"เปิดตลาดกลางยางฯ ยกระดับเกษตรกร3ชาติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

          ไทยจับมืออินโดนีเซีย-มาเลเซีย เปิดตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค (RRM) กยท.เร่งพัฒนาระบบมุ่งยุติธรรมทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย เปิดโอกาสสถาบันเกษตรกร เกษตรกร ร่วมกิจกรรมตลาดแห่งนี้

          นายสุธี อินทรสกุล รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจยาง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ในฐานะประธานคณะทำงานการจัดตั้งตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค เผยว่า การจัดตั้งตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค (Regional Rubber Market : RRM) ร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย

 

ไทยจับมือ"อินโดฯ-มาเลย์"เปิดตลาดกลางยางฯ ยกระดับเกษตรกร3ชาติ

 

          โดยได้เปิดตลาดพร้อมกันไปในวันที่ 26 กันยายน 2559 ที่ผ่านมาตามมติที่ประชุมระดับรัฐมนตรีไตรภาคียาง (International Tripartite Rubber Council : ITRC) ซึ่งแต่ละประเทศมีข้อกำหนด ระเบียบการซื้อขายยาง วิธีการซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงมาตรฐานและชนิดของสินค้าร่วมกัน

          ทั้งนี้คุณภาพสินค้าประเภทยางแผ่นรมควันใช้มาตรฐาน Green book ส่วนยางแท่ง (Technically specified Rubber: TSR) ใช้มาตรฐานสากลในการควบคุมคุณภาพนอกจากนี้ตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาคได้กำหนดคุณสมบัติผู้ขายยางในตลาด โดยจะต้องมีโรงงานในการผลิตยางแผ่นรมควันและยางแท่งที่ผ่านการอนุมัติรับรอง (Approved factory list) จากตลาดยางสิงคโปร์ (SICOM)เพราะวงการค้ายางทั่วโลกต่างยอมรับใน Approved factory list ของSICOM โดยมีกระบวนการตรวจสอบเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตและการคัดกรองบริษัทผู้เข้ามาขายยาง ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ค้าในตลาด

           “การทำธุรกรรมทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องวางหลักประกันธนาคารในรูปของเงินสดหรือสินทรัพย์ คิดเป็นร้อยละ 20 ของมูลค่า กรณีผู้ขายใช้ยางที่มีอยู่จริงในโกดังเป็นหลักประกันแทนเงินสดได้ การจับคู่สัญญาในระบบจะใช้วิธีการจับคู่โดยอัตโนมัติ (Continuous auto matching)จะพิจารณาจากคำสั่งซื้อ-ขาย ที่มีการเสนอชนิดยาง ปริมาณยาง ท่าเรือส่งมอบตรงกัน รวมถึงราคาต่อกิโลกรัมซึ่งมีมูลค่าเป็นหน่วยดอลล่าร์สหรัฐโดยทั้งผู้ขายและผู้ขายมีความพึงพอใจในราคาที่ตรงกัน ทำให้เกิดการซื้อ-ขายยางในระบบอย่างยุติธรรม ทั้งนี้ จะกำหนดให้มีการส่งมอบจริงใน 30 วันหลังจากการเปิดรับซื้อขาย จึงมั่นใจได้ว่าตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาคเป็นตลาดที่เกิดการส่งมอบสินค้าจริง 100 เปอร์เซ็นต์”นายสุธี กล่าว

 

ไทยจับมือ"อินโดฯ-มาเลย์"เปิดตลาดกลางยางฯ ยกระดับเกษตรกร3ชาติ

นายสุธี อินทรสกุล

          ประธานคณะทำงานฯ เผยข้อมูลหลังจากเปิดตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค RRM หลังเปิดตลาดวันแรก ผู้ซื้อขายยางส่วนมากจะเข้าสู่กระบวนการสมัครเข้าเป็นสมาชิกในตลาดเป็นหลัก มีบริษัทเอกชนซึ่งอยู่ในรายชื่อการอนุมัติรับรองจากตลาดยางสิงคโปร์ (SICOM) แล้ว ทั้งสิ้น 5 ราย ได้แก่ บริษัท บีไรท์รับเบอร์ จำกัด บจก.เซาท์แลนด์รีซอร์ซMetalcoCo,Ltd. Oriental Rubber Products Co,Ltdและ บจก.เซาท์แลนด์รับเบอร์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของตลาด RRM

         นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสถาบันเกษตรกรที่สนใจเข้ามาขายยางในตลาด RRM อีกจำนวน 4 ราย ได้แก่ ชุมนุมสหกรณ์จังหวัดตรัง จำกัด กลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ กลุ่มเกษตรกรทำสวนควนเมา และสหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว จำกัด โดยทั้ง 4 ราย เป็นสถาบันเกษตรกรชั้นนำของประเทศที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP จาก กยท.แล้ว และอยู่ระหว่างการเสนอรับรองจากคณะกรรมการอนุมัติผู้ขายเพิ่มเติมจากสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ ให้เข้ามาเป็นผู้ขายยางในตลาด RRMต่อไปได้

          สำหรับ กยท.มีแนวทางสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมโครงการยางพาราประชารัฐ โดยมุ่งส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรผลิตยางให้มีคุณภาพผ่านมาตรฐาน GMP ซึ่งสถาบันเกษตรกรสามารถนำยางที่ผ่านมาตรฐานนี้มาขายในตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาคได้ ถือเป็นการช่วยหาตลาดรองรับผลผลิตยางให้กับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ส่งผลถึงรายได้ของกลุ่มที่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย จึงขอฝากถึงเกษตรกรให้ผลิตยางให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน เพื่อให้นำยางเข้ามาขายในตลาดนี้ได้ในอนาคต

          “กยท. มั่นใจว่าการซื้อขายยางผ่านระบบตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาคนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการหาตลาดใหม่ให้กับผู้ประกอบการยางและสถาบันเกษตรกรได้ เป็นการซื้อขายยางในราคาที่ยุติธรรม (Fair Price) ผู้ซื้อได้สินค้าที่มีมาตรฐานตรงกับความต้องการ ทั้งผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของสถาบันเกษตรกรให้เกิดการรวมตัวกันแปรรูปยางที่มีคุณภาพผ่านมาตรฐานฐาน GMP สามารถขายผ่านระบบ RRM ให้กับผู้ซื้อยางในตลาดต่างประเทศได้โดยตรง”นายสุธี กล่าวเพิ่มเติม

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ