ข่าว

ปลูกพืช"ตระกูลถั่ว”แทนปลูกข้าว“แจกพันธุ์-ตั้งโต๊ะรับซื้อ”  

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

           พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาเรื่องข้าวในระยะยาวให้กับชาวนาในพื้นที่ 19 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยมีการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning by Agri-Map) ในการปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อผลิตสินค้าเกษตรที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีความมั่นคงในอาชีพ ขับเคลื่อนและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตข้าวของชาวนา เน้นการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าว

 

ปลูกพืช"ตระกูลถั่ว”แทนปลูกข้าว“แจกพันธุ์-ตั้งโต๊ะรับซื้อ”  

 

          ดังนั้น จึงมีนโยบายให้เกษตรกรทั้ง 19 จังหวัดปรับลดพื้นที่ทำนาลง 2 แสนไร่ และสนับสนุนให้ปลูกพืชตระกูลถั่วต่างๆ เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า ปอเทือง เป็นต้น เพื่อไถกลบลงดินเป็นการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ หรือปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ขายแก่เกษตรกรรายอื่นเป็นการสร้างรายได้แก่ครอบครัว โดยให้หน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่งดการทำนาให้สามาันรถมีรายได้เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ครอบครัว

          ด้าน นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินการสนองนโยบายของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2560 เพื่อให้เกษตรกรที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาไปปลูกพืชอื่นเพื่อสร้างรายได้แทน โดยได้จัดทำโครงการปลูกพืชปุ๋ยสด เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดและรับซื้อคืน อีกส่วนหนึ่งให้เกษตรกรปลูกและไถกลบ เพื่อปรับปรุงบำรุงดิน พื้นที่เป้าหมาย 2 แสนไร่ ดำเนินการในพื้นที่ 19 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเป็นการปลูกเพื่อรับซื้อเมล็ดพันธุ์คืน ปลูกเพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด บำรุงดิน 1.5 แสนไร่

 

ปลูกพืช"ตระกูลถั่ว”แทนปลูกข้าว“แจกพันธุ์-ตั้งโต๊ะรับซื้อ”  

นายสุรเดช เตียวตระกูล

          สำหรับเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรที่สนใจจะร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ และกรมฯจะรับซื้อเมล็ดพันธุ์คืน ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท โดยต้องมีการตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ตามมาตรฐานที่กรมฯกำหนด

         เบื้องต้นกรมฯ จะให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ไปก่อนรายละไม่เกิน 20 ไร่ และต้องทำ การปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์อย่างน้อย 1 ใน 4 ส่วนของพื้นที่ โดยมีระยะเวลาการดำเนินโครงการทั้งสิ้น 8 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – พฤษภาคม 2560 ซึ่งได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต และสถานีพัฒนาที่ดินทั้ง 19 จังหวัด ให้ดำเนินการด้วยความสุจริต ถูกต้อง โปร่งใส พร้อมรับการตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนของการปฏิบัติ ถ้าหากผลผลิตเป็นไปตามแผนที่ประมาณการไว้ คือ เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ได้ประมาณ 120 ก.ก./ไร่ พื้นที่ 50,000 ไร่ จะได้เมล็ดพันธุ์พืช ปุ๋ยสด จำนวน 6,000 ตัน

 

ปลูกพืช"ตระกูลถั่ว”แทนปลูกข้าว“แจกพันธุ์-ตั้งโต๊ะรับซื้อ”  

 

         กรมพัฒนาที่ดินได้มีการจัดทำแผนการบริหารการจัดการแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรที่เข้ามารับการอบรมในพื้นที่ศูนย์เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร 882 ศูนย์ จำนวน 250 ราย/ศูนย์ คิดเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ต้องแจกจ่ายทั้งสิ้น 6 พี ตัน มีเกษตรกรจำนวน 220,500ราย ได้รับการแจกจ่ายเป็นปัจจัยการผลิตหลังการฝึกอบรม เพื่อจะได้นำไปใช้ปรับปรุงบำรุงดินในพื้นที่ได้รายละประมาณ 5 ไร่

         ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินการนี้ ทำให้เกษตรกรจะมีรายได้จากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด 2,400 บาท/ไร่ เกษตรกรที่ไถกลบจะสามารถลดต้นทุน การผลิตในรอบถัดไปเป็นเงิน 300 บาท/ไร่ เป็นการเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ช่วยลดวงจรการระบาดของศัตรูพืชในนาข้าว เกิดกลุ่มและเครือข่ายการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดของกรมพัฒนาที่ดิน อธิบดีสุรเดช กล่าวในท้ายที่สุด  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ