โดย - โต๊ะข่าวเกษตร
ชง ครม.พักหนี้ชาวไร่มัน 2 ปี จำนวน 5 แสนราย พร้อมขอ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ฉุกเฉินรายละ 2 หมื่นบาท ดอกเบี้ยต่ำ ทั้งเข้มงวดนำเข้า
จากที่สมาพันธ์ชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีอยู่ในขณะนี้ หลังจากปัจจุบันราคารับซื้อหัวมันสดอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 1.50-1.60 บาท ขณะที่ต้นทุนผลิตมันสำปะหลังอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.90 บาท ซึ่งยังไม่รวมกับค่าขนส่ง
จนนำมาซึ่งการประชุมแก้ปัญหาเรื่องราคาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2559 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย สำนักงานเกษตรกรจังหวัด สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ประกอบการโรงแป้งมัน สมาพันธ์ชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ไข
ล่าสุด นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 27 ก.ย.2559 เพื่อพิจารณาอนุมัติมาตรการเพิ่มเติม โดยจะใช้มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นให้แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลัง เป็นเวลา 2 ปี (24 เดือน) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2559-31 ส.ค.2561 วงเงิน 1,200 ล้านบาท ครอบคลุมเกษตรกร 5 แสนราย ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5% และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5% เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง
พร้อมกันนี้ ยังจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อเกษตรกร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และเพิ่มสภาพคล่อง จำนวน 5 แสนรายๆ ละไม่เกิน 2 หมื่นบาท รวมวงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อเดือน หรือหากกู้เต็มวงเงิน 2 หมื่นบาท จะชำระดอกเบี้ยเพียงเดือนละ 100 บาท กำหนดชำระคืนไม่เกิน 12 เดือน ซึ่งเกษตรกรที่ยังไม่เคยกู้เงินจาก ธ.ก.ส.ก็มาขอกู้ในส่วนนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งระบายมันสำปะหลังออกสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยกรมการค้าต่างประเทศและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะร่วมมือกันนำผู้ประกอบการ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศมาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยเพื่อกระจายมันสำปะหลังไปยังประเทศที่มีความต้องการใช้มัน เช่น อินเดีย ให้เพิ่มมากขึ้น
นายสุวิทย์กล่าวว่า สำหรับ 3 มาตรการที่ นบมส.ได้เคยอนุมัติไปก่อนหน้านี้จะเสนอให้ ครม.อนุมัติการดำเนินการให้เร็วขึ้นเป็นเริ่มต้นโครงการวันที่ 15 ต.ค.2559 - 31 ธ.ค.2562 จากเดิมเริ่ม 1 ธ.ค. 2559 - 31 ธ.ค. 2562 ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังระบบน้ำหยด โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและการแปรรูปมันสำปะหลัง และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันทั้งหมด รวมวงเงินหมุนเวียนทั้งสิ้น 14,800 ล้านบาท วงเงินชดเชย 1,767.73 ล้านบาท
ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า โครงการชะลอการขุดหัวมันสดที่ประชุม นบมส.ไม่เห็นด้วย เพราะโครงการในปีก่อนมีเกษตรกรเข้าร่วมประมาณ 3,000 ราย แต่กลับมีหนี้เสียถึง 41% จึงไม่อนุมัติให้ดำเนินการ และได้เปลี่ยนมาเป็นโครงการปล่อยสินเชื่อเกษตรกรเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และเพิ่มสภาพคล่องแทน
สำหรับการเข้มงวดการนำข้ามันสำปะหลัง เพราะเห็นว่าไทยนำเข้าหัวมันสดจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่บางครั้งมีการติดเชื้อไวรัสมาด้วยจึงต้องเข้มงวดนำเข้าให้มากขึ้น โดยจะให้นำเข้าได้เฉพาะด่านถาวรที่มีด่านกักกันพืชของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เท่านั้น ส่วนด่านชั่วคราวจะไม่อนุญาตให้นำเข้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง