“เสาวรส”เปรี้ยวจี๊ด!สร้างภูมิคุ้มกันเยี่ยม!

          “เสาวรส” หรือ แพสชั่นฟรุต (Passion fruit) บ้านเราบ้างก็เรียก “กะทกรกฝรั่ง” เป็นผลไม้ที่เราคุ้นชื่อกันมานาน แต่หลายคนอาจไม่คุ้นลิ้น เพราะรสชาติที่เปรี้ยวและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์หลายคนไม่ชอบ แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบ นอกจากได้ชิมรสเปรี้ยวซึ่งมากคุณค่าแล้ว ยังนำไปปรุงแต่งเป็นอาหาร อาทิ เค้ก ไอศกรีม แยม เยลลี่  อีกทั้ง เป็นเมนูเครื่องดื่มชนิดต่างๆที่ให้รสชาติอร่อยถูกใจ แถมให้สีสันน่ากิน อีกทั้ง มีสรรพคุณ ทางยาด้วย

 

          โดยเฉพาะผลที่สุก นิยมนำมาคั้นน้ำ ทำเป็นน้ำเสาวรสที่อร่อย และมีคุณค่าต่อร่างกาย ถึงขนาดได้รับขนานนามว่า เป็นเครื่องดื่มเพื่อผู้สูงวัยเลยทีเดียว นั่นเพราะน้ำเสาวรสมีส่วนทำให้ปริมาณวิตามินเอและวิตามินอีในร่างกายเพิ่มมากขึ้น และทำให้ไซโตไคน์ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบในร่างกายลดลง ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ร่างกายจึงมีภูมิคุ้มกันโรคดีขึ้น หากผู้สูงอายุดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี

          เป็นไม้เถา ในวงศ์ Passifloraceae ชื่อสามัญ : Jamaica honey-suckle, Passion fruit, Yellow granadilla  ชื่อวิทยาศาสตร์ : Passiflora laurifolia L. ชื่ออื่น : สุคนธรส  (ภาคกลาง)

          ลำค้น เป็นเถาเลื้อยพันต้นไม้อื่น เถามีลักษณะกลม ใบ เป็นใบเดี่ยว ขอบใบหยักลึก ที่ก้านใบมีต่อมใบ ดกหนา เป็นมันสีเขียวแก่

          ดอก ออกดอกเดี่ยวขนาดใหญ่ ห้อยคว่ำคล้ายกับดวงไฟโคม กาบดอกหุ้มสีเขียว กลีบชั้นนอกเป็นรูปกระบอก ปลายแฉกด้านหลังมีสีเขียวแก่ ด้านในมีสีม่วงอ่อนประกอบด้วยจุดแดง ๆ กลีบชั้นในคล้ายกับตัวแฉกของกลีบชั้นนอก สีม่วงอ่อนหรือชมพูอ่อนมีประสีแดงแซม กลีบย่อยเป็นชั้น ๆ สองชั้นแต่ละกลีบค่อนข้างกลม สีม่วงแก่ พาดด้วยปลายสีขาวสลับแดง มีเกสรอยู่ตรงกลางสีเขียวนวล ดอกมีกลิ่นหอมแรง

 

 

          ผล เป็นรูปไข่หรือไข่ยาว มีหลายพันธุ์ บางพันธุ์ ผิวผลสีม่วง สีเหลือง สีส้มอมน้ำตาล เปลือกผล เรียบ เนื้อรับประทานได้ มีเมล็ดจำนวนมาก อยู่ตรงกลาง มาก รสชาติมีทั้งเปรี้ยวจัดและเปรี้ยวอมหวาน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

         ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้นปานกลาง แสงแดดเต็มวัน

         สรรพคุณทางยา : ผล ของเสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุรวมหลายชนิด ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี คาร์โบไฮเดรต มีใยอาหารในปริมาณมาก ทำให้มีส่วนช่วยเสริมสร้างร่างกาย อาทิ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอย ,มีวิตามินหลายชนิด ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส,มีวิตามินเอสูง จึงช่วยบำรุงสายตา ป้องกันปัญหาสายตาสั้น สายตายาวให้ทุกเพศทุกวัยได้,สร้างภูมิคุ้มกัน เพราะวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลายล้วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง,ดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย และช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น

 

 

         มีแคลเซียม จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกเสื่อม,มีฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยดูแลเหงือกและฟันให้แข็งแรง,มีโพแทสเซียมสูง จึงมีส่วนช่วยให้จิตใจร่าเริง แจ่มใส สติปัญญาดี,มีแมกนีเซียม ช่วยเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนมาเป็นพลังงาน,มีสรรพคุณช่วยสมานผิว รักษาเนื้อเยื่อผิวหนัง จึงถูกใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ผลิตภัณฑ์กันแดด,มีสรรพคุณช่วยผ่อนคลาย จึงนำมาทำเป็นน้ำมันนวดผ่อนคลายอาการปวดเมื่อย,ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง,มีสรรคุณช่วยบรรเทาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ฟื้นฟูตับและไตให้แข็งแรง

          ยอด มีรสขมเล็กน้อย นำมากินเป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริก หรือจะนำไปทำเป็นแกงยอดเสาวรสก็ได้

          ดอก มีสรรพคุณช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ

          ใบ นำใบมาตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ กินเป็นยาถ่ายพยาธิ

          เถา ใช้รักษาบาดแผล และใช้เป็นยาถอนพิษ แก้ไข้ ควบคุมธาตุ

          ราก ใช้รักษาผื่นคันโดยนำรากไปต้มน้ำอาบ

 

 

          คำแนะนำ  :  สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำเสาวรส ควรเป็นน้ำที่คั้นสดๆ และไม่เติมน้ำตาลลงไป หรือหากทนรสเปรี้ยวไม่ไหวสามารถเติมน้ำตาลได้เล็กน้อย เพราะหากหวานมากไปจะได้น้ำตาลสูงมาเป็นของแถม และผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็ควรควบคุมการดื่มน้ำเสาวรสให้พอเหมาะ

          ข้อควรระวัง  :  เพราะเสาวรสมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ตับ อันอาจทำให้ฮอร์โมนเพศหญิง หรือฮอร์โมนเอสโตรเจนมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จนอาจไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งที่ตอบสนองต่อโกรทฮอร์โมนให้แบ่งตัวเร็วขึ้น โดยผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่กินเสาวรส 1 ใน 4 ผลขึ้นไปทุกวัน มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น 30% ทว่า การศึกษานี้ยังต้องวิจัยเพิ่มเติมอีก ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีควรกินอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ หมุนเวียนกันไป ไม่กินอาหารใดอาหารหนึ่งอย่างเดียว