โดย - โต๊ะข่าวเกษตร
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการขยายผลการพัฒนาด้านเกษตรอินทรีย์ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนำ “ยโสธรโมเดล” ซึ่งเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ (Model) ไปพัฒนาต่อยอดการผลิตเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่
พร้อมขยายผลไปสู่จังหวัดที่มีศักยภาพด้านการผลิตเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 10 จังหวัด อาทิ พัทลุง หนองคาย อุบลราชธานี ลำพูน ลำปาง เพชรบูรณ์ สงขลา กาฬสินธุ์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่และชนิดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของประเทศมากขึ้น
โดยภายในปี 2561 ตั้งเป้าพื้นที่ จ.ยโสธร เข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น 6 หมื่นไร่ จากเดิมที่มี ประมาณ 4 หมื่นไร่ รวมเป็น 1 แสนไร่ คาดว่าจะได้ผลผลิตข้าวเปลือกอินทรีย์กว่า 3.5 หมื่นตัน รวมทั้งผลิตผลอินทรีย์อื่นๆ อาทิ แตงโม ผักต่างๆ รวมถึงสัตว์น้ำและไข่ไก่ ป้อนเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันยังมุ่งขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ทั้งประเทศเพิ่มขึ้นปีละไม่น้อยกว่า 10 % และมีเป้าหมายส่งเสริมขยายตลาดเกษตรอินทรีย์หรือออร์แกนิค (Organic) ได้ประมาณ 20-30 %
“ปี 2559 นี้ กระทรวงเกษตรฯ มีแผนเร่งพัฒนาความรู้และสนับสนุนการผลิตเกษตรอินทรีย์ โดยมีเป้าหมายจัดตั้งและพัฒนาศูนย์ต้นแบบ/ศูนย์เรียนรู้ปศุสัตว์อินทรีย์ และขยายผลการผลิตปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ 32 แห่ง พร้อมพัฒนาและส่งเสริมหมู่บ้านผลิตข้าวอินทรีย์ 7 หมู่บ้าน และส่งเสริมการผลิตไก่ไข่และเป็ดอินทรีย์ จำนวน 14,230 ตัว นอกจากนั้น ยังสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่กลุ่มผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ 51 กลุ่ม เกษตรกร จำนวน 242 ราย และจัดฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐาน 3,740 ราย ตลอดจนเร่งศึกษาวิจัยประสิทธิภาพ คุณภาพ และต้นทุนการผลิตไก่ไข่ เป็ดไข่ โคนมในระบบอินทรีย์ จำนวน 14 เรื่องด้วย” ปลัดกระทรวงเกษตรฯกล่าว
ด้าน นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ มกอช.ได้มีแผนร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรและกระทรวงพาณิชย์เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ผลิตและผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอินทรีย์ระดับภาค นำร่องที่จังหวัดพัทลุงและขอนแก่น โดยใช้แนวคิดจากยโสธรโมเดลเป็นต้นแบบในการเชื่อมโยงธุรกิจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านทิศทางการผลิต ข้อมูลแนวโน้มความต้องการด้านการตลาด
รวมถึงมาตรฐานสินค้าและช่องทางการจำหน่าย ระหว่างแหล่งผลิต เครือข่ายผู้ค้า ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้าออร์แกนิค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกร เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการรับรองมาตรฐาน รองรับการขยายพื้นที่ผลิตเกษตรอินทรีย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต และเป็นการตอบสนองเป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติปี 2559-2564 ด้วย
“ปัจจุบันไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทร์ ประมาณ 1.6 ไร่ เกษตรกรกว่า 5 พันราย ได้ผลผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ประมาณ 5 หมื่นตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวอินทรีย์ คิดเป็น 60 % ที่เหลือเป็นพืชอื่นๆ สมุนไพร รวมทั้งสินค้าประมง และปศุสัตว์อินทรีย์ มีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท สำหรับสินค้าอินทรีย์ที่มีศักยภาพการผลิตและส่งออกสูงคือข้าวอินทรีย์และผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอินทรีย์ นอกจากนี้ ยังส่งออกผักและผลไม้อินทรีย์ไปต่างประเทศด้วย อาทิ กล้วยหอม สับปะรด เงาะ มะม่วง มังคุด ทุเรียน ผักสลัด แครอท กระเจี๊ยบเขียว ชา และกาแฟอินทรีย์ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา สำหรับตลาดส่งออกที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มดีในอนาคต ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นต้น” เลขาธิการ มกอช. กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง