โดย - โต๊ะข่าวเกษตร
“เอกพงศ์ ขุนทอง” วัย 18 ปี เจ้าของรางวัลโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2558 แห่งบ้านควนกุฎ หมู่ 15 ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง ปัจจุบันเขามีรายได้ระหว่างเรียนจากการพลิกฟื้นที่ 2 ไร่เศษรอบๆ บ้านพักอาศัยทำเกษตรพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ทำให้มีรายได้เฉลี่ยวันละ 300-500 บาท นำมาใช้เป็นทุนการศึกษาและช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
เอกพงศ์ต้องอาศัยอยู่กับปู่สุดใจ ขุนทอง มาตั้งแต่เล็ก เมื่อพ่อและแม่จำต้องมาต่อสู้ชีวิตในเมืองหลวงด้วยอาชีพค้าขายผลไม้ ไม่ได้กลับบ้านเกิดตั้งแต่นั้นมา จากจุดนี้เองทำให้เขาได้เรียนรู้สั่งสมประสบการณ์การทำเกษตรที่ได้รับการถ่ายทอดจากผู้เป็นปู่อย่างเต็มที่ แต่หลังจากปู่มีอุบัติเหตุจนทำให้ต้องเสียขาไปข้างหนึ่งไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ภาระจึงตกแก่เขาในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวและดูแลตัวเอง
สวนเกษตรพอเพียงของเอกพงศ์
“ปู่ชอบตอนกิ่งมะนาวขาย จึงเรียนรู้จากการเป็นลูกมือของปู่และผมได้ค่าจ้างจากการเอากิ่งตอนปลูกใส่ถุงกิ่งละบาท มีอยู่ครั้งหนึ่งผมอยากได้เงินก้อนจึงไปขอปู่ แกบอกว่าเงินก้อนไม่มี ถ้าจะเอาก็เอาลูกมะนาวและกิ่งตอนไปขายเอาเอง” เอกพงศ์ ย้อนให้ฟัง
จากนั้นเขาเปลี่ยนจากการเป็นลูกมือปู่มาเป็นผู้ปฏิบัติเอง เริ่มจากตอนกิ่งมะนาวโดยใช้มะนาวพันธุ์ทูลเกล้าและแป้นพวงที่ปลูกในวงบ่อ ก่อนขยายมาเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา เลี้ยงแพะและเลี้ยงสุกร พร้อมพลิกพื้นที่รอบบ้านเป็นสวนสมรม ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เหลือจากกินก็เอาไปจำหน่ายในตลาดหมู่บ้านและใกล้เคียง
ผลจากการซึมซับวิถีเกษตรมาตั้งแต่เด็กหลังจากจบมัธยมปลายจากโรงเรียนพัทลุงพิทยาคม เขาจึงเข้าศึกษาต่อระดับ ปวช.ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง เนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่สำคัญยังได้สานต่อกิจกรรมเกษตรพอเพียง ซึ่งเป็นช่องทางเดียวในการหารายได้เลี้ยงครอบครัว ขณะเดียวกันยังเป็นการนำองค์ความรู้การเกษตรสมัยใหม่ที่ได้จากการเรียนในวิทยาลัยมาปรับใช้ในการทำเกษตรที่บ้านด้วย จึงไม่แปลกที่สวนสมรมเกษตรพอเพียงที่บ้านเอกพงศ์จึงเต็มไปด้วยเกษตรกรรมจากภูมิปัญญาและเกษตรกรสมัยใหม่ที่นำมาประยุกต์ใช้อย่างสอดคล้องและลงตัว
“หากเรียนจบก็จะมาพัฒนาสวนเกษตรที่บ้านนี่แหละ จะไม่ไปไหน ไม่ไปเป็นลูกจ้างใคร เพราะคิดว่าสุดท้ายก็ต้องกลับมาอยู่บ้านอยู่ดี เรามาเริ่มต้นที่บ้านตั้งแต่วันนี้ไม่ดีกว่าหรือ ถ้าถามความคิดของผมตอนนี้ก็ต้องบอกว่าอยากให้คนที่เรียนเกษตรกลับมาทำเกษตรที่บ้านตนเองมากที่สุด มาเริ่มทำจากพื้นที่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยับขยายต่อไป ที่สำคัญได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวด้วย” เอกพงศ์ย้ำ
เลี้ยงไก่-เลี้ยงหมู
อ.จรูญ รงครัตน์ หัวหน้าแผนกวิชาพืชศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษายอมรับว่าเอกพงศ์เป็นเด็กที่ขยันอดทนและเชื่อฟังครูบาอาจารย์ หลังว่างจากการเรียนก็จะมาทำงานที่บ้านทันที ขณะเดียวกันที่บ้านของเอกพงศ์ทางวิทยาลัยก็จะใช้เป็นสถานที่ดูงานของคณะที่มาเยี่ยมชมวิทยาลัยด้วย บางครั้งได้รับคำแนะนำ ติชม เอกพงศ์ก็จะนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
“วิทยาลัยได้สนับสนุนเขาอยู่ 2 โครงการ คือ โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และโครงการของ มกอช.สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ โดยให้เงินทุนมาสนับสนุนโครงการร่วมกับวิทยาลัย” อาจารย์ที่ปรึกษาคนเดิมกล่าว
ปัจจุบันสวนเกษตรพอเพียงของเอกพงศ์นอกจากสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวแล้วยังเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานของผู้สนใจทั้งในพื้นที่และต่างถิ่นไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดได้รับรางวัลโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับประเทศ ปี 2558 สนใจเยี่ยมชมสวนติดต่อเขาได้ โทร.08-7630-6465 หรือวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง ในวันเวลาราชการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง